xs
xsm
sm
md
lg

นโยบายการเงินการคลังของญี่ปุ่นและการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ตลาดหุ้นเอเชียและยุโรปปรับตัวขึ้นในวานนี้ หลังจากข้อมูลการค้าเดือนม.ค.ของจีนออกมาสูงเกินคาด ซึ่งตอกย้ำแนวโน้มการฟื้นตัว แต่ราคาหุ้นถูกสกัดช่วงบวกจากนักลงทุนที่กำลังเตรียมขายทำกำไรก่อนวันหยุดเทศกาลตรุษจีนในสัปดาห์หน้า
        ดัชนี MSCI สำหรับตลาดหุ้นเอเชีย-แปซิฟิก ไม่รวมญี่ปุ่น ขยับขึ้น0.3% โดยฟื้นตัวขึ้นจากการร่วงลงในช่วงแรก เมื่อนักลงทุนเกิดความวิตกหลังจากนายมาริโอ ดรากี ประธานธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ตั้งข้อสังเกต
ถึงปัจจัยเสี่ยงที่เศรษฐกิจยูโรโซนกำลังเผชิญอยู่ หลังจากที่ดัชนีพุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบ 18 เดือนเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา
        นายดรากีกล่าวว่า เศรษฐกิจยูโรโซนจะอ่อนแอลงในต้นปีนี้ ก่อนที่จะฟื้นตัวขึ้นในช่วงต่อไปของปีนี้ โดยกิจกรรมทางเศรษฐกิจในยูโรโซนจะค่อยๆฟื้นตัวแต่ก็มีปัจจัยเสี่ยงเชิงลบมากกว่าปัจจัยเชิงบวก
        สำนักงานศุลกากรของจีนเปิดเผยว่า การส่งออกพุ่งขึ้น 25.0% ในเดือนม.ค. จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย.2011และสูงกว่าที่ตลาดคาดไว้ว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 17%
        ส่วนการนำเข้าพุ่งขึ้น 28.8% ในเดือนม.ค. ซึ่งสูงกว่าที่ตลาดคาดไว้ว่าจะเพิ่มขึ้น 23.3% ส่งผลให้จีนมียอดเกินดุลการค้า 2.92 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนม.ค. เทียบกับที่คาดไว้ที่ 2.20 หมื่นล้านดอลลาร์ และเทียบกับ 3.16 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนธ.ค.
        สำนักงานศุลกากรของจีนยังเปิดเผยว่า การนำเข้าทองแดงของจีนเพิ่มขึ้น 2.9% ในเดือนม.ค.จากเดือนธ.ค. ขณะที่ปริมาณการซื้อน้ำมันดิบเพิ่มขึ้น 6.3%
        จีนเป็นผู้บริโภคสินค้าโภคภัณฑ์ส่วนใหญ่รายใหญ่ที่สุดในโลก และคาดว่าความต้องการนำเข้าของจีนจะเพิ่มขึ้นในปีนี้ ขณะที่เศรษฐกิจขยายตัวสดใสมากขึ้น
        "ภาวะเศรษฐกิจจีนกำลังปรับตัวดีขึ้น และข้อมูลการค้าก็ยืนยันทิศทางการฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง โดยนอกจากข้อมูลการค้าแล้ว ข้อมูลยอดค้าปลีก, การผลิตและกระแสการลงทุนก็แสดงให้เห็นว่า เศรษฐกิจได้แตะระดับต่ำสุดในไตรมาส 3ของปีที่แล้ว" นายฮิโรคาสุ ยูอิฮามะ นักวางแผนกลยุทธ์อาวุโสจากบล.ไดวา กล่าว
        ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดดีดตัวขึ้น 0.72% ในวันนี้ แตะระดับสูงสุดในรอบ34 เดือน นำโดยหุ้นกลุ่มการเงินและกลุ่มเหมือง ขณะที่ความเชื่อมั่นของนักลงทุนได้แรงหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใสจากจีน ซึ่งพบว่าเศรษฐกิจฟื้นตัวขึ้นจากปริมาณการค้าที่พุ่งขึ้น
        ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปิดพุ่งขึ้นเกือบ 1% ในวันนี้ หลังจากร่วงลง 6 วันติดต่อกัน หลังข้อมูลจากจีนตอกย้ำการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ
        ดัชนีนิกเกอิร่วงลง 1.8% เนื่องจากนักลงทุนขายทำกำไรจากการที่ดัชนีพุ่งแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนต.ค.2008 เมื่อวันพุธที่ผ่านมา
        "ตลาดเอเชียกำลังเข้าสู่การปรับฐานก่อนวันหยุด ซึ่งทำให้ราคาถูกกดดันขณะที่นักลงทุนหลายคนเลือกที่จะขายทำกำไรจากราคาที่พุ่งขึ้นมากในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา ดังนั้น การปรับฐานจึงเป็นเรื่องปกติ แต่ทิศทางขาขึ้นของตลาดหุ้นเอเชียยังคงอยู่" นายยูอิฮามะ กล่าว
        ญี่ปุ่นรายงานตัวเลขยอดเกินดุลบัญชีเดินสะพัดประจำปี 2012 ซึ่งถือเป็นยอดเกินดุลรายปีที่ต่ำที่สุดเป็นนประวัติการณ์ ในขณะที่การส่งออกลดลง และการนำเข้าพลังงานเพิ่มสูงขึ้น และสิ่งนี้ถือเป็นการส่งสัญญาณต่อนายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะว่าการฟื้นฟูเศรษฐกิจญี่ปุ่นอาจจะต้องอาศัยสิ่งอื่นๆด้วย นอกเหนือไปจากการอ่อนค่า
ของเยนและการเพิ่มงบใช้จ่ายของรัฐบาล
        นักเศรษฐศาสตร์กล่าวว่า ยอดเกินดุลบัญชีเดินสะพัดมีแนวโน้มที่จะลดลงต่อไป ในขณะที่ปริมาณการนำเข้าพลังงานเพิ่มสูงขึ้น เนื่องจากญี่ปุ่นปิดโรงไฟฟ้าพลังนิวเคลียร์ และผู้ส่งออกญี่ปุ่นสูญเสียประสิทธิภาพทางการแข่งขันเมื่อเทียบกับคู่แข่งในเอเชีย
        กระทรวงการคลังญี่ปุ่นรายงานว่า ยอดเกินดุลบัญชีเดินสะพัดของญี่ปุ่นอยู่ที่ 4.7 ล้านล้านเยน (5.04 หมื่นล้านดอลลาร์) ในปี 2012 โดยยอดเกินดุลนี้อยู่ในระดับต่ำกว่าครึ่งหนึ่งของยอดเกินดุลในปี 2011 และถือว่าอยู่ในระดับต่ำที่สุดนับตั้งแต่เริ่มมีการจัดทำตัวเลขนี้ในปี 1985 เป็นต้นมา
        "ญี่ปุ่นจะยังคงเป็นประเทศที่มียอดเกินดุลการค้า แต่จะเกินดุลไม่สูงเท่ากับที่เคยเป็นมา" นายทาเคชิ มินานิ หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์จากสถาบันวิจัยโนรินชูกินกล่าว
        ญี่ปุ่นรายงานตัวเลขยอดเกินดุลบัญชีเดินสะพัดประจำปี 2012 ซึ่งถือเป็นยอดเกินดุลรายปีที่ต่ำที่สุดเป็นนประวัติการณ์ ในขณะที่การส่งออกลดลง และการนำเข้าพลังงานเพิ่มสูงขึ้น และสิ่งนี้ถือเป็นการส่งสัญญาณต่อนายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะว่าการฟื้นฟูเศรษฐกิจญี่ปุ่นอาจจะต้องอาศัยสิ่งอื่นๆด้วย นอกเหนือไปจากการอ่อนค่า
ของเยนและการเพิ่มงบใช้จ่ายของรัฐบาล
        นักเศรษฐศาสตร์กล่าวว่า ยอดเกินดุลบัญชีเดินสะพัดมีแนวโน้มที่จะลดลงต่อไป ในขณะที่ปริมาณการนำเข้าพลังงานเพิ่มสูงขึ้น เนื่องจากญี่ปุ่นปิดโรงไฟฟ้าพลังนิวเคลียร์ และผู้ส่งออกญี่ปุ่นสูญเสียประสิทธิภาพทางการแข่งขันเมื่อเทียบกับคู่แข่งในเอเชีย
        กระทรวงการคลังญี่ปุ่นรายงานว่า ยอดเกินดุลบัญชีเดินสะพัดของญี่ปุ่นอยู่ที่ 4.7 ล้านล้านเยน (5.04 หมื่นล้านดอลลาร์) ในปี 2012 โดยยอดเกินดุลนี้อยู่ในระดับต่ำกว่าครึ่งหนึ่งของยอดเกินดุลในปี 2011 และถือว่าอยู่ในระดับต่ำที่สุดนับตั้งแต่เริ่มมีการจัดทำตัวเลขนี้ในปี 1985 เป็นต้นมา
        ตัวเลขดุลบัญชีเดินสะพัดลดลงอย่างมากในช่วงปลายปี 2012 ซึ่งเป็นช่วงที่ญี่ปุ่นมียอดขาดดุลบัญชีเดินสะพัดติดต่อกัน 2 เดือนเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์โดยยอดขาดดุลบัญชีเดินสะพัดอยู่ที่ 2.641 แสนล้านเยนในเดือนธ.ค. ซึ่งสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ในโพลล์รอยเตอร์ราว 80 %
        นายฮิโรชิ มิยาซากิ หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของบริษัทชินกิน แอสเซท แมเนจเมนท์ กล่าวว่า "การนำเข้าพลังงานและการปรับตัวขึ้นของต้นทุนพลังงานถือเป็นปัจจัยเชิงโครงสร้างที่จะส่งผลให้ยอดเกินดุลบัญชีเดินสะพัดร่วงลงต่อไป"
        "ความเคลื่อนไหวของค่าเงินสามารถทำได้เพียงแค่ช่วยส่งเสริมประสิทธิภาพทางการแข่งขันของภาคเอกชนเท่านั้น แต่ยังมีปัจจัยอื่นๆอีกที่ญี่ปุ่นด้อยกว่าประเทศอื่นๆ เช่น ภาษีเงินได้นิติบุคคล หรือมาตรการจูงใจการลงทุนทางธุรกิจ"
        นายอาเบะ ซึ่งเข้ามาดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นในเดือนธ.ค.2012 ต้องการจะแก้ไขการแข็งค่าของเยน นอกจากนี้ เขายังต้องการจะยุติภาวะเงินฝืดที่ดำเนินมานานเกือบ 20 ปี โดยใช้วิธีปรับเพิ่มงบรายจ่าย และ
ใช้มาตรการของธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ)
        นับตั้งแต่เดือนพ.ย. 2012 เป็นต้นมา ค่าเงินเยนดิ่งลงมาแล้ว16 % โดยได้รับแรงกดดันจากการคาดการณ์เกี่ยวกับนโยบายของนายอาเบะโดยขณะนี้เยนอยู่ใกล้จุดต่ำสุดในรอบ 3 ปีเมื่อเทียบกับดอลลาร์
        อย่างไรก็ดี การดิ่งลงของยอดเกินดุลบัญชีเดินสะพัดหมายความว่าสถานะของญี่ปุ่นในการเป็นเจ้าหนี้ของประเทศอื่นๆทั่วโลกกำลังตกอยู่ในอันตรายและสิ่งนี้อาจสร้างปัญหาให้แก่ผู้กำหนดนโยบาย เพราะแสดงให้เห็นว่า การอ่อนค่าของเยนเกิดจากสถานะที่อ่อนแอของญี่ปุ่น และไม่ได้เป็นปัจจัยกระตุ้นการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ
        ญี่ปุ่นมียอดขาดดุลการค้า 6.9 ล้านล้านเยนในปี 2012 ซึ่งถือเป็นสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ในขณะที่ยอดส่งออกในช่วงครึ่งหลังของปี 2012ลดลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปี 2011
        มีการตั้งทฤษฎีว่า การอ่อนค่าของเยนอาจกระตุ้นการส่งออกในช่วงหลายเดือนข้างหน้า อย่างไรก็ดี สิ่งนี้จะเกิดขึ้นได้จริงก็ต่อเมื่อประเทศอื่นๆต้องการซื้อสินค้าญี่ปุ่น แต่บริษัทผู้ผลิตสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ของญี่ปุ่นกำลังประสบปัญหาในส่วนนี้
        การอ่อนค่าของเยนไม่สามารถช่วยเหลือบริษัทนินเทนโดได้มากนักโดยนินเทนโดเป็นบริษัทที่สามารถขายเครื่องเล่นเกมได้เป็นจำนวนมากที่สุดในโลก และทางบริษัทจะมียอดขาดทุนทางการดำเนินงานเป็นปีที่ 2 ติดต่อกัน
        ถึงแม้บริษัทโซนี่ คอร์ประบุว่าการอ่อนค่าของเยนจะช่วยบริษัทได้บ้างแต่โซนี่ก็ยังคงปรับลดตัวเลขคาดการณ์ยอดขาย และยังคงประสบความยากลำบากในการแข่งขันกับบริษัทแอปเปิล อิงค์ของสหรัฐ, บริษัทซัมซุง อิเล็กทรอนิกส์ของเกาหลีใต้ และบริษัทจีนกับไต้หวันที่ผลิตสินค้าที่มีราคาถูกกว่าโซนี่
        อย่างไรก็ดี บริษัทญี่ปุ่นบางแห่งไม่ได้ตกอยู่ในสถานะเลวร้าย โดยบริษัทโตโยต้า มอเตอร์ คอร์ปได้กลับขึ้นมาครองตำแหน่งบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ที่มียอดขายสูงที่สุดในโลกได้อีกครั้งในปี 2012 และการอ่อนค่าของเยนน่าจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพทางการแข่งขันและผลกำไรของโตโยต้า
        ญี่ปุ่นเผชิญกับความเปลี่ยนแปลงทางโครงสร้างในบัญชีการค้า ในขณะที่ประชาชนยังคงต่อต้านการเปิดใช้งานโรงไฟฟ้าพลังนิวเคลียร์ 48 แห่ง โดยมีการปิดโรงไฟฟ้าดังกล่าวนับตั้งแต่เกิดเหตุภัยพิบัติที่เมืองฟูกูชิม่าในเดือนมี.ค. 2011เป็นต้นมา และขณะนี้มีโรงไฟฟ้าพลังนิวเคลียร์เพียง 2 แห่งเท่านั้นที่ยังคงเปิดดำเนินการ
        โรงไฟฟ้าที่ปิดทำการไปนี้เคยผลิตไฟฟ้าราว 1 ใน 3 ของญี่ปุ่นและขณะนี้ญี่ปุ่นต้องนำเข้าน้ำมันและก๊าซซธรรมชาติเพื่อทดแทนพลังงานส่วนนี้อย่างไรก็ดี ราคาพลังงานดังกล่าวพุ่งสูงขึ้นเมื่อเยนอ่อนค่าลง
        นายโยชิมาสะ มารุยามะ หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของสถาบันวิจัยเศรษฐกิจอิโตชู กล่าวว่า "ผมไม่ได้คาดการณ์ว่าญี่ปุ่นจะมียอดขาดดุลบัญชีเดินสะพัดอย่างต่อเนื่อง แต่ผมคาดว่าญี่ปุ่นจะมียอดเกินดุลบัญชีเดินสะพัดอยู่ที่ระดับต่ำกว่าเดิม"
        "คาดกันว่าญี่ปุ่นจะยังคงนำเข้าพลังงานในระดับสูงในปีนี้และปีหน้าและการอ่อนค่าของเยนในช่วงนี้มีแนวโน้มที่จะช่วยหนุนยอดส่งออก แต่จะส่งผลกระทบต่อต้นทุนการนำเข้าด้วยเช่นกัน"
        นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจญี่ปุ่นอาจเติบโตราว 2 %ในปีงบประมาณหน้า ซึ่งจะเริ่มต้นในเดือนเม.ย. 2013 โดยเศรษฐกิจจะได้รับแรงหนุนจากงบประมาณกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลญี่ปุ่น, จากการผ่อนคลายนโยบายการเงินอย่างแข็งกร้าว และจากการอ่อนค่าของเยน
         ผู้ว่าฯบีโอเจชี้การเคลื่อนไหวของ FX จะช่วยหนุนการส่งออกญี่ปุ่น นายมาซาอากิ ชิราคาวะ ผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ)กล่าวว่าการเคลื่อนไหวของตลาดอัตราแลกเปลี่ยนในช่วงที่ผ่านมามีแนวโน้มที่จะหนุนการส่งออกของญี่ปุ่น ขณะที่เศรษฐกิจกำลังฟื้นตัวปานกลางจนถึงช่วงกลางปีนี้
        "เศรษฐกิจต่างประเทศ โดยเฉพาะสหรัฐและจีน กำลังแสดงสัญญาณปรับตัวดีขึ้น ขณะที่อุปสงค์ในประเทศมีแนวโน้มแข็งแกร่งอันเนื่องจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ" เขากล่าว
          รมว.คลังญี่ปุ่นชี้เยนร่วงลงมากกว่าที่ตั้งใจจาก 78 เทียบดอลล์ สู่ 90  นายทาโร อาโซะ รมว.คลังญี่ปุ่น กล่าวต่อคณะกรรมาธิการงบประมาณสภาผู้แทนราษฎร ในวันนี้ว่า เยนอ่อนค่าลงมากกว่าที่ตั้งใจไว้ โดยร่วงลงแตะระดับ90 เทียบดอลลาร์ จาก 78 เทียบดอลลาร์เมื่อไม่กี่เดือนก่อน
          ดัชนีฮั่งเส็งปิดบวก 38.16 จุด หรือ 0.16% สู่ระดับ 23,215.16แต่ดัชนีปรับตัวลง 2.1% ในสัปดาห์นี้ ซึ่งเป็นการร่วงลงมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย.ปีที่แล้ว
        หุ้นกลุ่มผู้ผลิตรถยนต์ของจีนพุ่งขึ้น หลังข้อมูลระบุว่า ยอดขายรถยนต์ในเดือนม.ค.ของจีนพุ่งขึ้น 46.4% จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นมากที่สุดในรอบเกือบ 3 ปีอันเป็นผลจากฐานเปรียบเทียบที่ต่ำจากปีที่แล้ว
        หุ้นกลุ่มขนส่งทางเรือของจีนดีดตัวขึ้นเช่นกัน หลังข้อมูลการส่งออกและนำเข้าของจีนพุ่งขึ้นในเดือนม.ค. ขณะที่บ่งชี้ถึงอุปสงค์ที่แข็งแกร่งในประเทศ และการฟื้นตัวของภาวะเศรษฐกิจ ซึ่งไม่ได้รับผลกระทบจากช่วงเวลาของเทศกาลตรุษจีน
        ตลาดหุ้นฮ่องกงจะปิดทำการระหว่างวันที่ 11-13 ก.พ. และจะเปิดทำการอีกครั้งในวันที่ 14 ก.พ.
ตลาดหุ้นเอเชีย-แปซิฟิก ไม่รวมญี่ปุ่น ขยับขึ้น
        ธนาคารกลางจีนเปิดเผยในวันนี้ว่า ธนาคารในจีนปล่อยสินเชื่อใหม่สกุลหยวนคิดเป็นมูลค่า 1.07 ล้านล้านหยวนในเดือนม.. ซึ่งมากกว่าที่ตลาดคาดไว้ที่ 1 ล้านล้านหยวน
        การปล่อยสินเชื่อทางสังคมโดยรวมทั้งหมดของจีน ซึ่งเป็นมาตรวัดสภาพคล่องในระบบเศรษฐกิจ อยู่ที่ระดับ 2.54 ล้านล้านหยวนในเดือนม.ค.
        ขณะเดียวกัน ปริมาณเงินหมุนเวียนในระบบ (M2) พุ่งขึ้น 15.9%ในเดือนม.ค. จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งสูงกว่าที่ตลาดคาดไว้จะเพิ่มขึ้น14% และเพิ่มขึ้นจากเดือนธ.ค.ที่เพิ่มขึ้น 13.8%
        ธนาคารกลางจีนยังเปิดเผยในเว็บไซท์ www.pbc.gov.cn ว่าปริมาณเงินกู้ค้างชำระสกุลเงินหยวนเพิ่มขึ้น 15.4% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนซึ่งสอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ในผลสำรวจของรอยเตอร์ที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น
15.3% เทียบกับที่เพิ่มขึ้น 15% ในเดือนธ.ค.
        ธนาคารกลางจีนได้แต่งตั้งให้ธนาคารอินดัสเตรียล แอนด์ คอมเมอร์เชียลแบงก์ ออฟ ไชน่า (ICBC) เป็นธนาคารหักบัญชีสำหรับธุรกรรมสกุลเงินหยวนในสิงคโปร์
        "อ้างอิงจากข้อตกลงระหว่างธนาคารกลางจีน และธนาคารกลางสิงคโปร์ในการกระชับความร่วมมือของบริการทางการเงิน ธนาคารกลางจีนจึงได้ตัดสินใจมอบอำนาจให้ ICBC สาขาสิงคโปร์เป็นธนาคารหักบัญชีสำหรับธุรกรรมสกุลเงินหยวนในสิงคโปร์" ธนาคารกลางจีนระบุ
            มีแรงซื้อคืนดอลล์ฉุดเงินเอเชียอ่อนค่าวันนี้    เงินวอนร่วงลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์ในวันนี้ ขณะที่นักลงทุนวิตกต่อผลกระทบ จากเยนที่อ่อนค่าลงต่อขีดความสามารถในการแข่งขันด้านการส่งออกของเกาหลีใต้  ขณะที่มีแรงซื้อคืนดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินอื่นในตลาดเกิดใหม่ก่อนวันหยุด เทศกาลตรุษจีนในสัปดาห์หน้า  
        ดอลลาร์ไต้หวัน และริงกิตร่วงลง ขณะที่เทรดเดอร์ปรับสถานะการ ลงทุนก่อนเทศกาลตรุษจีน  
        สำนักงานศุลกากรของจีนเปิดเผยว่า การส่งออกพุ่งขึ้น 25.0%  ในเดือนม.ค. จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือน เม.ย.2011 และสูงกว่าที่ตลาดคาดไว้ว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 17% ส่วนการนำเข้า 
พุ่งขึ้น 28.8% ในเดือนม.ค. ซึ่งสูงกว่าที่ตลาดคาดไว้ว่าจะเพิ่มขึ้น 23.3%  ซึ่งสะท้อนถึงภาวะอุปสงค์ที่สดใสในประเทศ 
        นักวิเคราะห์และดีลเลอร์กล่าวว่า สกุลเงินเอเชียอาจเผชิญกับแรง กดดันต่อไปตราบใดที่เยนยังคงอ่อนค่าลง ซึ่งจะส่งผลกระทบเป็นพิเศษต่อกลุ่ม ผู้ส่งออกของเกาหลีใต้ ซึ่งแข่งขันกับญี่ปุ่น  
        เจ้าหน้าที่ของหลายประเทศแสดงความวิตกเกี่ยวกับปริมาณเงิน เก็งกำไรไหลเข้าที่เกิดจากนโยบายการเงินแบบผ่อนคลายของประเทศ พัฒนาแล้ว  
        "เยนที่อ่อนค่าลงจะจำกัดการแข็งค่าของสกุลเงินอื่นๆในเอเชีย  โดยญี่ปุ่นเป็นคู่แข่งของบางประเทศในเอเชียในเรื่องการส่งออก โดยเฉพาะ เกาหลี" นางธิโอ ชิน ลู นักวิเคราะห์ของบริษัทบีเอ็นพี พาริบาส์ กล่าว
(ข้อมูลข่าวจาก สำนักข่าวรอยเตอร์)
 
T.Thammasak.
 
กำลังโหลดความคิดเห็น