“บุญทรง” เฉือนเนื้อขอ ครม.ใช้เงินต้นกองทุนส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ 400 ล้านบาท แบ่ง 300 ล้าน ทำ SME Proactive และอีก 100 ล้านบาทกันไว้สำหรับกรณีฉุกเฉิน กำหนดกรอบเวลาใช้เงิน 3 ปี เผยระเบียบเดิมไม่สอดคล้องสภาพการค้าปัจจุบัน ตั้งกรรมการศึกษารูปแบบการบริหารกองทุนหวังให้ได้ผลตอบแทนสูงสุด
นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการกองทุนส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ว่า ที่ประชุมมีมติให้เสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) ขอใช้เงินกองทุนส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ จำนวน 400 ล้านบาท เพื่อใช้ช่วยเหลือผู้ประกอบการขนาดกลางและเล็ก (SMEs) ที่ได้รับผลกระทบจากค่าเงินบาท และตลาดต่างประเทศชะลอตัว
ทั้งนี้ แบ่งการใช้เงินเป็น 2 ส่วน คือ 1. ใช้ทำโครงการ SME Proactive จำนวน 300 ล้านบาท กำหนดระยะเวลาการใช้ ตั้งแต่ปี 2556-2558 และ 2. ใช้กรณีฉุกเฉิน จำนวน 100 ล้านบาท เพื่อลดผลกระทบจากภาวะการค้าระหว่างประเทศที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว กำหนดเวลาการใช้ตั้งแต่ปี 2557-2558
เดิมเงื่อนไขการใช้เงินกองทุนฯ กำหนดไว้ว่าห้ามใช้เงินต้นที่ปัจจุบันมีอยู่ประมาณ 4,200 ล้านบาท แต่ให้ใช้ผลตอบแทนจากดอกเบี้ยแทน โดยดอกเบี้ยประมาณ 2% จะทำให้กองทุนมีเงินที่จะใช้จ่ายได้จริงเพียงปีละประมาณ 200 ล้านบาท แต่มีการเสนอโครงการจากภาคส่วนต่างๆ รวม 500 ล้านบาท และในปีที่ผ่านมา แม้จะเสนอของบประมาณเพื่อใช้จ่ายเพิ่ม แต่ก็ไม่ได้รับอนุมัติ จึงต้องขอใช้เงินต้นบางส่วนจาก ครม. โดยจะนำเสนอในวันอังคารที่ 12 ก.พ. 2556
นอกจากนี้ ที่ประชุมได้แต่งตั้งคณะกรรมการเพื่อพิจารณาการบริหารเงินต้นของกองทุนฯ ให้ได้ผลตอบแทนที่มากขึ้นกว่าที่เป็นอยู่ นอกจากดอกเบี้ยจากการฝากเงินอย่างเดียว ซึ่งผลการดำเนินการให้เสนอ ครม.พิจารณาก่อนมีผลในทางปฏิบัติ โดยคณะกรรมการฯ ชุดนี้มีอธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศเป็นประธาน ผู้แทนจากหน่วยงานต่างๆ เป็นกรรมการ เช่น สำนักงบประมาณ
นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการกองทุนส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ว่า ที่ประชุมมีมติให้เสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) ขอใช้เงินกองทุนส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ จำนวน 400 ล้านบาท เพื่อใช้ช่วยเหลือผู้ประกอบการขนาดกลางและเล็ก (SMEs) ที่ได้รับผลกระทบจากค่าเงินบาท และตลาดต่างประเทศชะลอตัว
ทั้งนี้ แบ่งการใช้เงินเป็น 2 ส่วน คือ 1. ใช้ทำโครงการ SME Proactive จำนวน 300 ล้านบาท กำหนดระยะเวลาการใช้ ตั้งแต่ปี 2556-2558 และ 2. ใช้กรณีฉุกเฉิน จำนวน 100 ล้านบาท เพื่อลดผลกระทบจากภาวะการค้าระหว่างประเทศที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว กำหนดเวลาการใช้ตั้งแต่ปี 2557-2558
เดิมเงื่อนไขการใช้เงินกองทุนฯ กำหนดไว้ว่าห้ามใช้เงินต้นที่ปัจจุบันมีอยู่ประมาณ 4,200 ล้านบาท แต่ให้ใช้ผลตอบแทนจากดอกเบี้ยแทน โดยดอกเบี้ยประมาณ 2% จะทำให้กองทุนมีเงินที่จะใช้จ่ายได้จริงเพียงปีละประมาณ 200 ล้านบาท แต่มีการเสนอโครงการจากภาคส่วนต่างๆ รวม 500 ล้านบาท และในปีที่ผ่านมา แม้จะเสนอของบประมาณเพื่อใช้จ่ายเพิ่ม แต่ก็ไม่ได้รับอนุมัติ จึงต้องขอใช้เงินต้นบางส่วนจาก ครม. โดยจะนำเสนอในวันอังคารที่ 12 ก.พ. 2556
นอกจากนี้ ที่ประชุมได้แต่งตั้งคณะกรรมการเพื่อพิจารณาการบริหารเงินต้นของกองทุนฯ ให้ได้ผลตอบแทนที่มากขึ้นกว่าที่เป็นอยู่ นอกจากดอกเบี้ยจากการฝากเงินอย่างเดียว ซึ่งผลการดำเนินการให้เสนอ ครม.พิจารณาก่อนมีผลในทางปฏิบัติ โดยคณะกรรมการฯ ชุดนี้มีอธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศเป็นประธาน ผู้แทนจากหน่วยงานต่างๆ เป็นกรรมการ เช่น สำนักงบประมาณ
