“โออิชิ” เปิดเกมรุกซัมเมอร์ก่อน ปั้นแคมเปญรหัสโออิชิลุ้นรวยทุกชั่วโมง ทุ่มงบมากสุด 250 ล้านบาท รางวัลทองคำมากสุด 90 ล้านบาท หวังเติบโตซัมเมอร์ 30% และดันแชร์สิ้นปีทะลุ 50%
นายอนิรุทธิ์ มหธร รองกรรมการผู้จัดการ สายงานธุรกิจเครื่องดื่ม บริษัท โออิชิ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า แนวโน้มการทำตลาดเครื่องดื่มในช่วงแคมเปญซัมเมอร์หรือหน้าร้อนนี้คาดว่าคงมีความคึกคักอย่างมากจากเครื่องดื่มทุกกลุ่ม และคงจะมีแนวทางที่หลากหลาย เพื่อแย่งชิงตลาดกันให้มากที่สุด
โดยซัมเมอร์ปีนี้โออิชิได้ออกแคมเปญ “รหัสโออิชิ ลุ้นรวย ทุกชั่วโมง” ตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม-31 พฤษภาคม ศกนี้ รางวัลที่ลุ้นคือทองคำ ซึ่งเป็นสิ่งที่ผู้บริโภคต้องการมากเพราะสามารถเก็บได้และมูลค่าก็เพิ่มตลอด อีกทั้งยังสามารถแปรสภาพเป็นเงินสดได้อีก
แคมเปญหน้าร้อนครั้งนี้ใช้งบมากที่สุดถึง 250 ล้านบาท จากปกติซัมเมอร์ทุกปีจะใช้งบอยู่ที่ 100-150 ล้านบาท อีกทั้งมูลค่ารางวัลก็มากที่สุดถึง 90 ล้านบาท จำนวนรางวัลมากกว่า 2,466 รางวัล ส่วนปีที่แล้วแค่ 55 รางวัล และตั้งความหวังที่จะมียอดขายเติบโตในช่วงซัมเมอร์กับแคมเปญนี้ 30% และคาดว่าแคมเปญครั้งนี้จะมีผู้สนใจเข้าร่วมมากถึง 50% จากผู้ที่ซื้อโออิชิไปดื่ม หรือประมาณ 100 ล้านฝาที่ส่งเข้าร่วมครั้งนี้ จากปกติจะอยู่ที่ระดับ 10-20 ล้านบาทเท่านั้น
เนื่องจากแคมเปญนี้ใช้อินไซต์คอนซูเมอร์ หรือความต้องการที่ลึกๆ ในใจผู้บริโภคมาทำการวางแนวแคมเปญลุ้นโชค จากการสำรวจวิจัยกลุ่มตัวอย่าง 2,000 ตัวอย่าง สรุปพบว่า ผู้ต้องบริโภคต้องการ 1. โปรโมชันที่ลุ้นได้บ่อยๆ 2. จำนวนรางวัลมากๆ มีโอกาสได้รางวัลมาก 3. เข้าร่วมได้ง่าย 4. ลุ้นได้หลายครั้ง จึงเป็นที่มาของรายละเอียดแคมเปญที่ว่า
1. ลุ้นถี่ แจกทองคำทุกชั่วโทง มีรางวัลทองคำมากถึง 90 ล้านบาท 2. โอกาสลุ้นมาก จำนวนรางวัลมากที่สุดของโออิชิ วันละ 41 รางวัล รวม 2,466 รางวัล 3. สะดวกในการส่งเข้าร่วม โดยใช้รหัสใต้ฝาฟรีทุกเครือข่าย กด *494* ตามด้วยรหัสเลข 10 หลักใต้ฝาหรือกล่องยูเอชที ตามด้วยเครื่องหมายสี่เหลี่ยม แล้วกดออก และ 4. ลุ้นได้หลายครั้ง ลุ้นได้มากถึง 3 ชั้นคือทุกชั่วโมง ทุกวัน และทุกเดือน
การทำแคมเปญทุกครั้งจะสามารถกระตุ้นตลาดและผู้บริโภคได้เพิ่มขึ้นอีกกว่าปกติ ทั้งมาจากการดื่มซ้ำของกลุ่มเดิม และการขยายฐานสู่กลุ่มใหม่ๆ เพิ่มขึ้น ซึ่งยังมีโอกาสขยายฐานได้อีกมาก
อย่างไรก็ตาม สำหรับแคมเปญ “โออิชิ ทัวร์ยกแก๊ง” นั้นก็ยังคงมีอยู่ และถือเป็นซิกเนเจอร์แคมเปญของโออิชิไปแล้ว ซึ่งเราสามารถที่จะนำมาใช้เมื่อไรก็ได้ โดยดูเวลาที่เหมาะสม ซึ่งแคมเปญเกี่ยวกับทัวร์ยกแก๊งนี้เราทำมาประมาณ 5 ปีแล้ว ส่วนแคมเปญเกี่ยวกับรวยนี้ทำมา 3 ปี เริ่มจากปี 2554 ทำรวยฟ้าประทาน ปี 2555 ทำรวยซ้ำรวยซ้อน และปีนี้คือรวยทุกชั่วโมง
ทั้งนี้ ตลาดชาเขียวในไทยยังเติบโตได้อีกมาก สังเกตได้จากมีมูลค่าตลาดชาเขียวรวมเพียงแค่ 10,000 กว่าล้านบาท จากมูลค่าตลาดเครื่องดื่มรวมมากกว่า 100,000 ล้านบาท เป็นสัดส่วนแค่ 10% เท่านั้น แต่เป็นตลาดที่เติบโตดีมากประมาณ 30% เมื่อปีที่แล้ว และคาดว่าจะยังคงเติบโตไม่ต่ำกว่า 20% ได้ต่อเนื่อง ซึ่งปีนี้โออิชิตั้งเป้าหมายที่จะเพิ่มส่วนแบ่งตลาดเป็น 50% จากปีที่แล้วที่มีส่วนแบ่งตลาด 45% และเพิ่มงบตลาดรวมเป็น 12% จากยอดขายจากเดิมอยู่ที่ 10%
นายอนิรุทธิ์ กล่าวต่อว่า ตลาดชาเขียวที่ใหญ่ที่สุดยังคงเป็น กรุงเทพฯ และภาคกลางโดยรวม ขณะที่ตลาดที่มีการเติบโตดีที่สุดคือ ภาคอีสาน ซึ่งในส่วนของโออิชิก็เป็นไปตามตลาดรวม โดยการเจาะตลาดแต่ละภาคนั้นโออิชิจะใช้แพกเกจจิ้งที่แตกต่างกันเป็นตัวนำตลาด เช่น กรุงเทพฯ จะใช้ทุกแพกเกจจิ้งแต่จะให้น้ำหนักที่ขวดแก้วมากขึ้นเพราะมีร้านอาหารจำนวนมากในกรุงเทพฯ ส่วนภาคอีสานจะใช้แพกเกจกล่องยูเอชทีราคา 10 บาทนำตลาด ภาคเหนือจะใช้แพกเกจขวดเพ็ทเป็นตัวรุกตลาด ส่วนภาคใต้ยังเป็นตลาดที่ไม่ใหญ่แต่โออิชิเป็นผู้นำตลาดโดยใช้กล่องยูเอชทีเป็นตัวนำตลาด ซึ่งปัจจุบันสัดส่วนรายได้ของโออิชิจากขวดเพ็ท 70% กล่องยูเอชที 25% และกระป๋อง 5% ขณะที่ขวดแก้วนั้นยังไม่มากเพราะเพิ่งเริ่มทำตลาด