xs
xsm
sm
md
lg

การกลับตัวทางเศรษฐกิจของประเทศจีน เขตเศรษฐกิจอันดับ 2 ของโลก

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ในช่วงไตรมาส 4 ที่ผ่านมา อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจของจีนปรับตัวเพิ่มขึ้น 7.9% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งเติบโตมากกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ที่ 7.8% และเพิ่มขึ้นจากอัตราการเติบโตที่ 7.4% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนในไตรมาสที่ 3 ของปี 2555 สำหรับทั้งปี 2555 เศรษฐกิจจีนเติบโตดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ โดยปรับตัวเพิ่มขึ้น 7.8% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และดีว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้เฉลี่ยที่ 7.7% แต่เป็นไปตามที่ทางฝ่ายคาดไว้ ทั้งนี้ อัตราการเติบโตที่ดีกว่าคาดนี้เป็นอีกปัจจัยที่หนุนแนวโน้มเชิงบวกต่อภาพรวมทางเศรษฐกิจของจีนในปี 2556
ในรายงานกลยุทธ์การลงทุนในจีนและฮ่องกงฉบับล่าสุด เมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 2555 นั้น ได้กล่าวถึงรายละเอียดเกี่ยวกับแนวทางและการดำเนินการตามนโยบายทางเศรษฐกิจในปี 2556 ที่กำหนดโดยรัฐบาลจีน ในช่วงการประชุมคณะทำงานด้านเศรษฐกิจแห่งชาติของจีน (CEWC) ที่จัดขึ้นในเดือนธันวาคมปีที่ผ่านมา โดยรัฐบาลจีนมุ่งเน้นสร้างการเติบโตแบบ "มีประสิทธิภาพ และมีคุณภาพ" ซึ่งหลายฝ่าย เชื่อว่าจะนำไปสู่การเติบโตแบบยั่งยืนในระยะยาว มากกว่าการเติบโตแบบรวดเร็ว ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมายังสนับสนุนแนวความคิดที่ว่า เศรษฐกิจจีนได้ผ่านพ้นช่วงต่ำสุดแล้ว จากการชะลอตัวลงอย่างค่อยเป็นค่อยไป อุปสงค์ภายในประเทศแข็งแกร่ง ขณะที่การส่งออกยังอ่อนแอท่ามกลางความไม่แน่นอนเกี่ยวกับปัญหางบประมาณของสหรัฐฯ ในช่วงสั้น การคาดการณ์ยังไม่น่ามีการผ่อนคลาดนโยบายการเงินอย่างรุนแรง เพราะอาจส่งผลลบต่อราคาที่อยู่อาศัย และเงินเฟ้อมากยิ่งขึ้น ในขณะที่การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่องจะช่วยลดความจำเป็นในการดำเนินการข้างต้นดังกล่าว สำหรับปัจจัยหลัก ที่เป็นตัวหนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจ น่าจะเป็นการบริโภคและการลงทุนที่เกี่ยวข้องกับการขยายตัวของชุมขนเมืองอย่างต่อเนื่องของจีน ทางฝ่ายยังคงคาดการณ์การเติบโตของเศรษฐกิจจีนในปี 2556 ที่ 8.0% เมื่อเทียบกับปีก่อน และเงินเฟ้อที่ 3.0% โดยคาดว่าธนาคารกลางจีน (PBoC) ยังไม่น่าจะปรับอัตราดอกเบี้ย ซึ่งปัจจุบันอยู่ที่ 6% ขึ้น เพราะเศรษฐกิจเพิ่งจะผ่านพ้นจากจุดต่ำสุด
สำหรับฮ่องกง การบริโภคและส่งออกออกมาดีกว่าคาดในไตรมาสที่ 4 ของปี 2555 ทำให้ทางนักวิเคราะห์ ปรับเพิ่มประมาณการอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจปี 2555 ขึ้นมาอยู่ที่ 1.5% จาก 1.2% และคาดอัตราเงินเฟ้ออยู่ที่ 3.9% โดยหลัก ๆ แล้ว การปรับตัวที่ดีขึ้นเป็นผลมาจากอุปสงค์ที่ปรับตัวสูงขึ้นจากจีน รวมถึงยอดค้าปลีกในสหรัฐฯ ที่ปรับตัวดีขึ้น ราคาที่อยู่อาศัยยังคงเดินหน้าทำสถิติสูงสุดใ หม่ ซึ่งอาจส่งผลให้รัฐบาลเพิ่มมาตรการควบคุมตลาดที่อยู่อาศัย เนื่องจากฮ่องกงได้รับประโยชน์จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีน ทางฝ่ายจึงยังคงมุมมองเชิงบวกต่อเศรษฐกิจฮ่องกง โดยคาดอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจจะปรับตัวเร่งขึ้นมาอยู่ที่ 3% ในปีนี้ และอัตราเงินเฟ้ออยู่ที่ 4%
ทางฝ่ายนักวิเคราะห์ของ Phillip Capital. ยังคงคำแนะนำ "ลงทุนมากกว่าตลาด" ในดัชนี CSI300, HSCEI และ HSI จากมูลค่าหุ้นอยู่ในระดับที่น่าสนใจ และอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจจีนที่ปรับตัวเร่งขึ้น ทั้งนี้ ดัชนีหุ้นทั้งสามข้างต้นได้ผ่านแนวต้านมาแล้ว และน่าจะปรับตัวขึ้นต่อ โดยมีเป้าหมายอยู่ที่ 2700 สำหรับดัชนี CSI 12800 สำหรับดัขนี HSCEI และ 24000 สำหรับดัชนี HSI ทางฝ่ายฯ แนะนำ "ลงทุนเท่ากับตลาด" ในตลาดตราสารหนี้ และ "ลงทุนน้อยกว่าตลาด" ในตลาดตราสารหนี้ฮ่องกง ทางฝ่ายฯ ยังคงมุมมองเชิงบวกต่อสกุลเงินหยวนของจีน และมุมมองเชิงลบต่อสกุลเงินเหรียญฮ่องกง เมื่อเทียบกับสกุลเงินอื่น ในภูมิภาคในระยะยาว
พร้อมกันนี้ ธนาคารกลาง จีนอัดเงินกว่า 2 ล้านล้านบาทเข้าตลาดในวันที่ 5 กุมภาพันธ์ หวังสกัดดบ.ก่อนตรุษจีน ปริมาณการอัดฉีดเม็ดเงิน 4.50 แสนล้านหยวน (7.22หมื่นล้านดอลลาร์) หรือราว 2,150,000 ล้านบาท เข้าสู่ตลาดเงินในวันนี้ ซึ่งถือเป็นการอัดฉีดเม็ดเงินสูงเป็นประวัติการณ์ เพื่อสร้างเสถียรภาพต่ออัตราดอกเบี้ยระยะสั้น โดยรองรับความต้องการใช้เงินก่อนถึงเทศกาลตรุษจีนในสัปดาห์หน้ารวมทั้งแสดงให้เห็นว่ารัฐบาลจีนมีความเชื่อมั่นมากยิ่งขึ้นในการใช้เครื่องมือบริหารปริมาณเงินในระยะสั้น
เทรดเดอร์กล่าวว่า การอัดฉีดเม็ดเงินในครั้งนี้กระทำในระหว่างปฏิบัติการซื้อขายพันธบัตรในตลาดตามปกติ โดยผ่านทางการทำข้อตกลงซื้อพันธบัตรโดยมีสัญญาขายคืนระยะ 14 วัน ซึ่งจะส่งผลให้มีการดูดซับเม็ดเงินกลับออกจากระบบในเวลา 2 สัปดาห์ข้างหน้า
ธนาคารกลางจีนได้หันมาใช้เครื่องมือประเภทนี้มากยิ่งขึ้นในการรักษาระดับสภาพคล่องระยะสั้นและในการกดดันอัตราดอกเบี้ยให้ลดต่ำลง แทนที่จะใช้วิธีการระยะยาว เช่น การปรับลดสัดส่วนการกันสำรองของธนาคารพาณิชย์ (RRR)ในขณะที่ผู้ควบคุมกฎระเบียบกังวลว่าการปรับลด RRR อาจส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อพุ่งสูงขึ้น
หุ้นกลุ่มผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ของจีนปรับตัวลดลง หลังจากจีนได้ประกาศแผนขจัดความเหลื่อมล้ำในสังคม ซึ่งรวมถึงการขยายโครงการนำร่องในการจัดเก็บภาษีอสังหาริมทรัพย์ไปในเมืองต่างๆมากขึ้น
นายปีเตอร์ โซ ประธานร่วมฝ่ายวิจัยจากไชน่า คอนสตรัคชั่น แบงก์อินเตอร์เนชันแนล ซีเคียวริตีส์ กล่าวว่า แผนการบางส่วนของจีน อาทิ ภาษี  อสังหาริมทรัพย์ และการเปิดเสรีอัตราดอกเบี้ย ถูกพูดถึงมาแล้วก่อนหน้านี้
เขาคาดว่า บริษัทของรัฐที่จดทะเบียนในตลาดอาจจะมีผลประกอบการย่ำแย่ในช่วงครึ่งปีหลัง เมื่อมีการเปิดเผยรายละเอียดมากกว่านี้ ซึ่งอาจจะกระทบส่วนแบ่งตลาดของบริษัทดังกล่าว
 
T.Thammasak.
กำลังโหลดความคิดเห็น