xs
xsm
sm
md
lg

สภาผู้แทนฯผ่านร่างกม.เพิ่มเพดานหนี้แล้ว ก่อนส่งวุฒิฯรับรองต่อไป

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

        สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐมีมติผ่านร่างกฎหมายขยายระยะเวลาเพิ่มเพดานหนี้ของรัฐบาลสหรัฐไปจนถึงวันที่ 19 พ.ค.แล้ว ด้วยคะแนนท่วมท้น 285-144 และจะส่งต่อไปยังวุฒิสภาเพื่อให้การรับรองต่อไป โดยคาดว่าวุฒิสภาจะจัดประชุมพิจารณาร่างกฎหมายฉบับนี้ในสัปดาห์หน้า ขณะที่นายแฮร์รี รีด ผู้นำเสียงข้างมากในวุฒิสภา
        ก็ได้แสดงท่าทีในการอนุมัติร่างกฏหมายดังกล่าวเช่นกัน โดยกล่าวว่า วุฒิสภาจะผ่านร่างกฎหมายนี้โดยไม่มีการแก้ไข ซึ่งนายรีดและผู้นำวุฒิสมาชิกพรรคเดโมแครตคนอื่นๆต่างกล่าวชื่นชมแผนของพรรครีพับลิกันที่ไม่ได้กำหนดให้มีการตัดลดงบรายจ่ายลงในระดับที่มากเท่ากับการเพิ่มเพดานหนี้
        ด้านนายเจย์ คาร์นีย์ โฆษกทำเนียบขาว กล่าวว่า ประธานาธิบดีบารัคโอบามา จะไม่ขัดขวางการลงนามในร่างกฏหมายดังกล่าวเพื่อบังคับใช้เป็นกฏหมายโดยเขาจะลงนามในร่างกฏหมายทันทีที่ได้รับการอนุมัติจากสภาคองเกรส
        ร่างกฎหมายขยายเพดานหนี้ฉบับนี้ไม่ได้มีการกำหนดวงเงินหนี้สินในรูปสกุลดอลลาร์อย่างเฉพาะเจาะจง แต่อนุญาตให้รัฐบาลสหรัฐสามารถกู้ยืมเงินที่จำเป็นเพื่อปฏิบัติตามภาระผูกพันในช่วงที่มีการขยายเวลาออกไป
        สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่ลงคะแนนเสียงคัดค้านร่างกฎหมายฉบับนี้มีจำนวน144 คน ซึ่งประกอบด้วยสมาชิกพรรคเดโมแครต 111 คน และสมาชิกพรรครีพับลิกัน33 คน
        สมาชิกพรรคเดโมแครตที่คัดค้านร่างกฎหมายนี้ระบุว่า มาตรการนี้เป็นเพียงเครื่องมือในการเจรจาต่อรอง และจะส่งผลให้เกิดภาวะ fiscal cliff รอบใหม่ในเวลาไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า หลังจากทำเนียบขาวและสภาคองเกรสเพิ่งบรรลุข้อตกลงเพื่อหลีกเลี่ยงภาวะ fiscal cliff หรือภาวะที่มาตรการปรับขึ้นภาษีและปรับลดงบรายจ่ายวงเงิน 6 แสนล้านดอลลาร์ของรัฐบาลสหรัฐจะเริ่มมีผลบังคับใช้ในต้นปี2013
        ส่วนสมาชิกพรรครีพับลิกันที่ลงมติคัดค้านร่างกฎหมายนี้ระบุว่า พวกเขาไม่พอใจที่มาตรการนี้ไม่ได้บรรจุการตัดงบรายจ่ายเอาไว้ด้วย
        มาตรการขยายระยะเวลาเพิ่มเพดานหนี้ของรัฐบาลสหรัฐไปจนถึงวันที่19 พ.ค.นี้มีจุดประสงค์เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดความขัดแย้งในสภาคองเกรสในเรื่องเพดานหนี้เหมือนที่เคยเกิดขึ้นในปี 2011 โดยความขัดแย้งในครั้งนั้นส่งผลให้สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ (S&P) ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของสหรัฐลงสู่AA+ ในเดือนส.ค. 2011 จากระดับ AAA
        การลงคะแนนเสียงรับรองร่างกฎหมายขยายระยะเวลาเพิ่มเพดานหนี้ในสภาผู้แทนราษฎรในครั้งนี้ถือเป็นสิ่งที่ตรงกันข้ามกับคำกล่าวของสมาชิกพรรครีพับลิกันในช่วงก่อนหน้านี้ที่ว่าจะมีการใช้เพดานหนี้เป็นเครื่องมือในการบีบบังคับให้ปธน.โอบามาตัดลดงบรายจ่ายลง
        อย่างไรก็ดี นายจอห์น โบห์เนอร์ ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวเตือนว่าสมาชิกพรรครีพับลิกันจะเรียกร้องให้ปธน.โอบามาดำเนินการ "ปฏิรูป" เมื่อถึงโอกาสถัดไป เมื่อมาตรการตัดลดงบประมาณโดยอัตโนมัติจะเริ่มมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 มี.ค.
        นายโบห์เนอร์กล่าวว่า ถ้าหากปธน.โอบามาไม่ยอมประนีประนอม มาตรการตัดลดงบรายจ่ายโดยอัตโนมัติ "ก็จะมีผลบังคับใช้" หลังจากข้อตกลง fiscal cliffในช่วงต้นเดือนม.ค.ส่งผลให้มีการเลื่อนเวลาในการตัดลดงบใช้จ่ายออกไปเป็นการชั่วคราว
        ทั้งนี้ สภาคองเกรสจำเป็นต้องตกลงกันในเรื่องการเพิ่มเพดานหนี้ในระยะยาวในช่วงใกล้วันที่ 19 พ.ค. โดยมีแนวโน้มว่าสมาชิกสภาคองเกรสจะตกลงกันได้ก็ต่อเมื่อมีการวางแผนลดยอดขาดดุลงบประมาณลงด้วย
        กระทรวงการคลังสหรัฐได้กู้ยืมเงินจนเต็มเพดาน 16.4 ล้านล้านดอลลาร์แล้ว ขณะที่คาดว่าเงินของทางกระทรวงจะหมดลงภายในช่วงกลางเดือนก.พ.จนถึงต้นเดือนมี.ค.
        ถึงแม้มีการขยายเพดานหนี้จนถึงวันที่ 19 พ.ค. แต่กระทรวงการคลังสหรัฐก็อาจจะกู้ยืมเงินได้นานกว่านั้น เพราะทางกระทรวงจะสามารถใช้อำนาจการกู้ยืมฉุกเฉินของกระทรวง โดยจะกู้เงินได้ต่อไปอีก 6-8 สัปดาห์ ซึ่งจะส่งผลให้ทางกระทรวงมีงบใช้ต่อไปจนถึงกลางเดือนก.ค.
(ข่าวจากสำนักข่าว รอยเตอร์)
 
 
T.Thammasak
กำลังโหลดความคิดเห็น