xs
xsm
sm
md
lg

วิกฤตหน้าผาการคลัง US คลี่คลาย วุฒิฯ ผ่าน กม.รอมชอม-รอลุ้นสภาล่าง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

สภาคองเกรสของสหรัฐฯ
เอเอฟพี/เอเจนซี - ทำเนียบขาวและสมาชิกระดับท็อปของพรรครีพับลิกันในวุฒิสภา สามารถทำความตกลงกันได้ท่ามกลางการลุ้นระลึกของตลาดการเงินทั่วโลก เป็นการหลีกเลี่ยงไม่ให้สหรัฐฯต้องขึ้นภาษีในช่วงปีใหม่ และชะลอเวลาการตัดลดงบประมาณรายจ่ายมโหฬารอย่างอัตโนมัติออกไป โดยที่ทั้งสองเรื่องนี้ซึ่งเรียกขานกันว่า ภาวะ “หน้าผาการคลัง” เป็นปัจจัยคุกคามที่ทำให้เกิดความกังวลกันมากว่าจะส่งให้เศรษฐกิจอเมริกาตกกลิ้งโคโร่สู่สภาพถดถอย และต่อเนื่องทำให้เศรษฐกิจทั่วพิภพต้องย่ำแย่ลงไปอีก

ภายหลังช่วงเวลาหลายๆ เดือนแห่งความวิตกทุกข์ร้อนเกี่ยวกับวิกฤตที่กำลังทำท่าจะบังเกิดขึ้นมา, ช่วงเวลาหลายๆ สัปดาห์แห่งการโต้เถียงกันเกี่ยวกับหนทางที่เป็นไปได้เพื่อการหลุดออกจากวิกฤต, และช่วงเวลาหลายๆ วันแห่งการเจรจาต่อรองกันอย่างเคร่งเครียดหลังบานประตูที่ปิดสนิท ในที่สุดวุฒิสภาของสหรัฐฯก็โหวตด้วยคะแนนเสียงท่วมท้น 89 ต่อ 8 เมื่อตอนก่อนใกล้รุ่งของวันอังคาร (1 มกราคม) ผ่านร่างกฎหมายซึ่งมีเนื้อหามุ่งทำให้สหรัฐฯ สามารถหลีกพ้นจากการตกกลิ้งลงมาจาก “หน้าผาการคลัง” (fiscal cliff)

ขั้นตอนต่อไปก็คือ ร่างกฎหมายฉบับประนีประนอมท่ามกลางการโต้เถียงกันอย่างดุเดือดฉบับนี้ จะต้องเข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งมีกำหนดพิจารณากันในเวลาเที่ยงของวันขึ้นปีใหม่ (ตรงกับ 24.00 น.วันที่1 เวลาเมืองไทย) โดยที่ประธานาธิบดีบารัค โอบามา กล่าวในคำแถลงที่ออกมาหลังร่างกฎหมายฉบับนี้ผ่านวุฒิสภา เรียกร้องให้สภาล่าง “ผ่านกฎหมายนี้โดยไม่มีการเตะถ่วง”

หากร่างกฎหมายฉบับนี้ผ่านทั้ง 2 สภาได้สำเร็จ ก็จะถือเป็นชัยชนะของโอบามา จากการที่เขาสามารถกดดันให้มีการขึ้นอัตราภาษีซึ่งเก็บจากครัวเรือนที่มีเงินได้มากกว่าปีละ 450,000 ดอลลาร์ แต่สำหรับทุกๆ คนที่มีรายได้ต่ำกว่านั้น จะยังคงได้ประโยชน์จากมาตรการลดภาษีซึ่งใช้กันมาเป็นสิบปีแล้ว โดยที่จากร่างกฎหมายนี้ มาตรการดังกล่าวยังจะกลายเป็นเรื่องถาวร ไม่ต้องมาลุ้นต่ออายุกันอีก

“ขณะที่ทั้งชาวพรรคเดโมแครตและชาวพรรครีพับลิกันต่างก็ไม่ได้รับทุกสิ่งทุกอย่างตามที่พวกเขาต้องการไปเสียทั้งหมด แต่การตกลงกันคราวนี้ก็ถือว่าเป็นสิ่งถูกต้องที่จะต้องกระทำกันเพื่อประเทศชาติของเรา และสภาล่างควรที่จะต้องผ่านกฎหมายนี้โดยไม่มีการเตะถ่วง” โอบามาบอกไว้ในคำแถลงของเขา

ข้อตกลงคราวนี้ยังระบุให้ชะลอมาตรการตัดลดงบประมาณรายจ่ายของรัฐบาลอย่างกว้างขวางโดยอัตโนมัติเป็นมูลค่ารวม 109,000 ล้านดอลลาร์ ออกไปก่อน 2 เดือน กระนั้นก็ตามที ถ้าหากเดโมแครตที่เป็นผู้ครองอำนาจบริหารและมีเสียงข้างมากในสภาสูง กับรีพับลิกันซึ่งเป็นผู้กุมสภาผู้แทนราษฎร ยังคงไม่สามารถต่อรองรอมชอมกันเกี่ยวกับรายละเอียดในการตัดลดงบประมาณรายจ่าย เพื่อให้ลดการขาดดุลงบประมาณของประเทศลงในระยะยาวได้สำเร็จแล้วภายในระยะเวลาที่เลื่อนออกไปนี้ มาตรการบังคับตัดลดงบประมาณโดยอัตโนมัติก็จะถูกนำมาบังคับใช้อยู่ดี ด้วยเหตุนี้ นี่จึงเป็นการปูพื้นให้แก่การโต้เถียงต่อรองกันก่อนจะถึงเส้นตายใหม่ตอนสิ้นเดือนกุมภาพันธ์นี้นั่นเอง

คำแถลงของโอบามาก็ยอมรับว่า “ยังมีงานอีกมากที่จะต้องกระทำเพื่อลดการขาดดุลของเรา และผมก็มีความมุ่งมั่นตั้งใจที่จะกระทำเรื่องเหล่านี้”

ก่อนการลงมติของวุฒิสภาคราวนี้ รองประธานาธิบดีโจ ไบเดน ในฐานะผู้เจรจาของเดโมแครต ซึ่งทำการหารือต่อรองกับ วุฒิสมาชิก มิตช์ แมคคอนเนลล์ ผู้นำเสียงข้างน้อยของวุฒิสภา ที่เป็นผู้เจรจาของรีพับลิกัน ได้เดินทางไปยังรัฐสภาเพื่อเสนอสิ่งที่เขาต่อรองได้มา กับบรรดาวุฒิสมาชิกของเดโมแครต โดยที่ ส.ว.บางคนของเดโมแครตเองยังต้องการให้ลดเพดานผู้ที่จะไม่ต้องถูกเก็บภาษีเพิ่มขึ้นให้ต่ำลงมาอีก เป็นต้นว่า เฉพาะครัวเรือนซึ่งมีรายได้ต่ำกว่าปีละ 250,000 ดอลลาร์ลงมา

ถ้าหากเหล่านักการเมืองของสหรัฐฯไม่สามารถทำความตกลงกันได้ในคราวนี้ พวกผู้เชี่ยวชาญเตือนว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯที่ยังอ่อนแอมากจะต้องกลิ้งลงจากหน้าผาลงไปสู่ภาวะถดถอยอย่างหลีกเลี่ยงไม่พ้น เนื่องจากมาตรการตัดลดงบรายจ่ายบวกกับการขึ้นภาษีซึ่งจะทำให้ประชาชนมีเงินจับจ่ายลดน้อยลงนั้น รวมแล้วจะเท่ากับดึงเงินออกไปจากระบบประมาณ 500,000 ล้านดอลลาร์ทีเดียว

ลงท้ายแล้ว พวกผู้นำของทั้งสองพรรคในวุฒิสภาก็สามารถทำความตกลงกันได้ ในเวลาสองสามชั่วโมงก่อนจะถึงเส้นตายเที่ยงคืนวันที่ 31 ธันวาคม และกว่าที่วุฒิสภาจะลงคะแนนเสียงผ่านร่างกฎหมายฉบับนี้ เวลาก็ล่วงเลยถึง ตีสองของวันที่ 1 มกราคม (ตรงกับ 14.00 น.เวลาเมืองไทย) แล้ว โดยที่สภาผู้แทนราษฎรมีกำหนดพิจารณาร่างกฎหมายนี้ในเวลาเที่ยงวันที่ 1

มาถึงตอนนี้สิ่งที่ผู้คนเฝ้าจับตามองกันก็คือ จอห์น โบห์เนอร์ ประธานสภาผู้แทนราษฎร จะหว่านล้อมชักจูงพวกพันธมิตร ส.ส.อนุรักษนิยมของเขาให้เห็นดีเห็นงามกับข้อตกลงคราวนี้ได้หรือไม่ โดยที่แน่นอนทีเดียวว่า พวก ส.ส.ของเดโมแครตเองก็จะต้องร่วมยกมือให้ความสนับสนุนด้วย

เป็นเวลาราว 20 ปีมาแล้ว ที่พวกรีพับลิกันในรัฐสภาพยายามต่อสู้คัดค้านความพยายามใดๆ ก็ตามที่จะออกกฏหมายที่เป็นการขึ้นภาษี ดังนั้น การที่สภาล่างจะผ่านร่างข้อตกลงประนีประนอมนี้ด้วยหรือไม่ จึงยังไม่เป็นที่แน่นอน

ตัวโบห์เนอร์เอง ออกคำแถลงสั้นๆ ฉบับหนึ่งกล่าวว่า สภาล่างจะพิจารณาร่างกฎหมายนี้ ถ้าหากผ่านวุฒิสภามาแล้ว ทว่า “การตัดสินใจในเรื่องที่ว่าสภาผู้แทนราษฎรจะยอมรับหรือจะทำการแก้ไขแปรญัติติร่างกฎหมายนี้ในทันที จะยังคงไม่มีการดำเนินการลงไป จนกว่าบรรดาสมาชิกสภา และประชาชนอเมริกัน จะสามารถพิจารณาร่างกฎหมายฉบับนี้แล้ว”

ถึงแม้มาตรการลดภาษีให้ชาวอเมริกันมีกำหนดหมดอายุลงตอนสิ้นปี 2012 และการบังคับตัดลดงบรายจ่ายโดยอัตโนมัติ ก็เริ่มบังคับใช้ตอนเริ่มปี 2013 แต่เนื่องจากวันที่ 1 มกราคมเป็นวันหยุดราชการ ดังนั้น มาตรการเหล่านี้จึงมีผลบังคับในทางพฤตินัยในวันพุธ(2) ทำให้ยังมีเวลาอีก 1 วันเพื่อให้สภาทั้ง 2 ผ่านร่างกฎหมายประนีประนอมกันให้สำเร็จ และโอบามาลงนามประกาศใช้
กำลังโหลดความคิดเห็น