“พฤณท์” เสียงแข็ง ยันต้องสร้างทางด่วนขั้น 3 สายเหนือช่วง N1 แก้ปัญหาจราจร มั่นใจ กทพ.เจรจา ม.เกษตรฯ เข้าใจ พร้อมปรับแบบเพื่อลดผลกระทบแต่ไม่เบี่ยงแนวเส้นทาง “วิเชียร” เดินหน้าเก็บ VAT 7% เพื่อให้เป็นไปตามระบบที่ถูกต้อง
พล.อ.พฤณท์ สุวรรณทัต รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยถึงกรณีที่มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์คัดค้านโครงการก่อสร้างทางพิเศษขั้นที่ 3 สายเหนือ ตอน N1 ช่วงแยกบางใหญ่-แยกเกษตรศาสตร์ ระยะทาง 19.2 กม.ว่า ต้องเจรจาทำความเข้าใจ โดยจะต้องหาวิธีให้มหาวิทยาลัยเกษตรฯ ได้รับผลกระทบน้อยที่สุด ซึ่งเบื้องต้นการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) จะปรับแบบก่อสร้าง โดยเพิ่มทางขึ้น-ลงตรงทางเข้ามหาวิทยาลัยฯ และยกระดับให้สูงขึ้นเพื่อลดผลกระทบ และให้อาจารย์ นักศึกษา และเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานในมหาวิทยาลัยๆ ได้รับความสะดวกมากที่สุด เชื่อว่าทาง ม.เกษตรฯ ไม่ได้ต่อต้านแต่ให้ข้อคิดเห็นไม่อยากให้กระทบพื้นที่มากกว่า
พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ปลัดกระทรวงคมนาคมในฐานะประธานคณะกรรมการ (บอร์ด) กทพ.กล่าวว่า ที่ผ่านมาได้มีการรับฟังความคิดเห็นผู้ได้รับผลกระทบจากการก่อสร้างช่วง N1 อย่างต่อเนื่อง จึงเชื่อว่างานก่อสร้างจะสามารถดำเนินต่อไปได้ และยืนยันว่าแนวเส้นทางที่เลือกดีที่สุดแล้ว และคงไม่สามารถปรับแบบเพื่อเบี่ยงเส้นทางได้ เพราะหากเบี่ยงเส้นทางมาด้านทิศใต้ของถนนงามวงศ์วานเพื่อเลี่ยงมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์จะส่งผลกระทบต่อประชาชนเป็นจำนวนมากเนื่องจากบริเวณด้านทิศใต้มีชุมชนหนาแน่น และหากก่อสร้างเป็นทางใต้ดินจะมีปัญหาท่อระบายน้ำขนาดใหญ่ของกรุงเทพมหานคร (กทม.) การทำโครงการต้องมีผลกระทบบ้างแต่จะพยายามให้น้อยที่สุด
ส่วนการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) 7% จากผู้ใช้ทาง จากปัจจุบันที่ กทพ.รับภาระแทนปีละกว่า 800 ล้านบาทนั้น พล.ต.อ.วิเชียรกล่าวว่า ในหลักการผู้ใช้ทางต้องรับภาระ VAT7% เพื่อให้เป็นไปตามระบบ เช่นเดียวกับสาธารณูปโภคอื่นๆ ที่ประชาชนรับภาระภาษีมูลค่าเพิ่มเอง ซึ่งได้สั่งการให้นายอัยยณัฐ ถินอภัย ผู้ว่าฯ กทพ. พิจารณาแนวทางเพื่อเสนอบอร์ดแล้ว โดยอยู่ระหว่างการพิจารณาของคณะอนุกรรมการกลั่นกรอง
ส่วนกรณีที่ พล.อ.พฤณท์ รมช.คมนาคม มีความเห็นว่ายังไม่ควรผลักภาระ VAT 7% ในขณะนี้เพราะเป็นช่วงที่จะมีการปรับขึ้นค่าผ่านทางจะทำให้เกิดความซ้ำซ้อนมากไปนั้น บอร์ด กทพ.ก็พร้อมรับนโยบายไว้พิจารณา
