xs
xsm
sm
md
lg

Good Morning News 08/01/13

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

General News

  • แองเจล่า เมอร์เคิล นายกรัฐมนตรีเยอรมนี ประกาศนโยบายสร้างงานและการกระตุ้นการขยายตัวของเศรษฐกิจเป็นนโยบายหลักในการหาเสียงเลือกตั้งระดับรัฐที่จะมีขึ้นในปีนี้ โดยเน้นรักษาขีดความสามารถทางเศรษฐกิจและความมั่งคั่งของชาติเป็นหลัก รวมทั้งการมีอัตราค่าจ้างที่ยุติธรรม โดยไม่ได้เน้นให้ความสำคัญกับการแก้ปัญหาวิกฤตหนี้ยุโรป

  • นักเศรษฐศาสตร์สถาบันนโยบายเศรษฐกิจสหรัฐ คาดว่า วิกฤตการว่างงานในสหรัฐจะดำเนินไปถึงสิ้นปี 2564 เนื่องจากอัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจยังไม่สูงพอที่จะกระตุ้นให้เกิดการจ้างงานในระดับสูงได้ โดยกรมแรงงานสหรัฐเปิดเผยการจ้างงานในเดือน ธ.ค.เพิ่มขึ้น 155,000 ตำแหน่ง ส่วนการจ้างงานช่วง 11 เดือนก่อนหน้าเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 153,000 ตำแหน่ง

  • คณะกรรมการบาเซิลขยายเวลาให้ธนาคารต่างๆ ในการเพิ่มทุนกันชนสำรองจากเดิมที่กำหนดใช้ในเดือนม.ค.2558 เพื่อให้ธนาคารสามารถนำเงินทุนสำรองบางส่วนมาช่วยเหลือการขยายตัวของประเทศที่กำลังย่ำแย่ โดยให้ธนาคารพาณิชย์ไปเริ่มปฏิบัติตามกฎ Basel III และถือครองเงินทุนกันชนสำรองอย่างน้อย 60% ของเงินทุนกันชนสำรองทั้งหมดในปี 2558 และเพิ่มระดับการถือครองขึ้นเรื่อยๆ จนถึง 100% ภายใน ม.ค.2562

  • จีนประกาศมาตรการช่วยเหลือโครงการบ้านเอื้ออาทรโดยผ่อนคลายแรงกดดันด้านเงินทุนสำหรับโครงการเคหะ ด้วยการบังคับให้รัฐบาลท้องถิ่นจัดสรรเงินทุนให้คนกู้อย่างเพียงพอ กับต้องให้ความช่วยเหลือด้านสินเชื่อแก่บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ทั้งนี้ รัฐบาลท้องถิ่นต้องจัดสรรเงินทุนไว้ให้โครงการบ้านราคาถูกโดยใช้เงินทุนที่มาจากงบรายจ่ายของรัฐบาล กำไรจากการขายที่ดิน และเงินที่ได้จากการจำหน่ายพันธบัตรท้องถิ่น

  • ยอดขายรถใหม่ของโตโยต้าและนิสสันในจีนลดลงเป็นครั้งแรกในปี 2555 เนื่องจากมีการต่อต้านผลิตภัณฑ์ของญี่ปุ่นหลังจากเกิดเหตุพิพาทหมู่เกาะเซนกากุ โดยยอดขายรถใหม่ของโตโยต้าลดลง 4.9% เหลือ 840,500 คัน ส่วนนิสสันลดลง 5.3% เหลือ 1,181,500 คัน

  • ญี่ปุ่น เตรียมประกาศนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจวงเงิน 12 ล้านล้านเยน (136 พันล้านดอลลาร์) ในเดือนนี้ โดยจะสร้างงานใหม่ด้วยงบประมาณ 5-6 ล้านล้านเยน ทั้งนี้ เจพีมอร์แกน ซิเคียวริตี้ส์ คาดว่าขนาดของวงเงินครั้งนี้จะช่วยแก้ปัญหาระยะสั้น ซึ่งต้องประเมินใหม่ในระยะกลางและระยะยาว

  • อินเดียจะจำกัดการนำเข้าทองคำหลังจากยอดขาดดุลบัญชีเดินสะพัดในไตรมาส 3 ปี 2555 เพิ่มขึ้นสู่ 5.4% ของ GDP (ขาดดุลสูงที่สุดนับตั้งแต่ปี 2492) โดยมีเหตุหลักจากการส่งออกที่ลดลง ส่งผลให้ค่าเงินรูปีอ่อนค่าลง แต่นำเข้าสูงขึ้น โดยมีการนำเข้าทองคำสูงขึ้น 9% สู่ระดับ 223.1 ตัน

  • ก.คลัง เตรียมเสนอ ครม. ให้ลดการเก็บภาษีนิติบุคคลเพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการ SME ที่ได้รับผลกระทบจากค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาท โดยจะให้ขยายฐานการยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลผู้ประกอบการจากเดิมที่มีรายได้ 150,000 บาทต่อปี เป็น 150,000 - 300,000 บาทต่อปี นอกจากนี้ ยังให้คิดอัตราภาษี 15% สำหรับผู้ประกอบการเอสเอ็มอีที่มีรายได้ 300,000 - 1 ล้านบาทต่อปี และคิดอัตราภาษี 20% สำหรับผู้ประกอบการที่มีรายได้เกิน 1 ล้านบาทต่อปีขึ้นไปอีกด้วย

  • กรมการค้าภายใน คาดว่า ราคาสินค้าจะยังไม่ปรับขึ้นภายใน 3 เดือนนี้ เนื่องจากยังมีสต๊อกเก่าที่ใช้ได้ 3-4 เดือน อีกทั้งยังไม่มีผู้ประกอบการแจ้งขอลดขนาดหรือเปลี่ยนสูตรแต่อย่างใด ส่วนผลกระทบจากการปรับค่าแรงนั้นพบว่าผักสดมีต้นทุนเพิ่มขึ้นสูงสุด 0.35% - 0.8% ขณะที่สินค้ากลุ่มอื่นๆ มีสัดส่วนต้นทุนเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 0.5-80 สตางค์ต่อหน่วยเท่านั้น

  • การส่งออกข้าวของไทยในปีก่อนอยู่ที่ 6.9 ล้านตัน ลดลง 30% จากปี 2554 หรือมีมูลค่าการส่งออก 4,728 ล้านเหรียญสหรัฐ ส่งผลให้ไทยกลายเป็นผู้ส่งออกข้าวเป็นอันดับ 3 ของโลก รองจากอินเดียและเวียดนาม ขณะที่เป้าหมายการส่งออกข้าวในปีนี้อยู่ที่ 8.5 ล้านตัน โดยคาดว่านโยบายรับจำนำข้าวทำให้ราคาข้าวไทยโดยเฉลี่ยสูงกว่าคู่แข่ง จึงส่งผลให้การส่งออกข้าวไทยปรับลดลงปริมาณการจราจรทางอากาศของ ทอท. เพิ่มขึ้น 11.9% หรือมีผู้โดยสารรวม 74.26 ล้านคนแบ่งเป็นผู้โดยสารระหว่างประเทศ 46 ล้านคน และภายในประเทศ 28.25 ล้านคน สะท้อนความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจไทยในปีที่ผ่านมาโดยเฉพาะการท่องเที่ยว ซึ่งในรอบ 11 เดือนของปี 2555 มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าไทยถึง 19.8 ล้านคน ขณะที่คาดว่าทั้งปี 2555 จะสูงถึง 22 ล้านคน คิดเป็นรายได้ของประเทศประมาณ 8.86 แสนล้านบาท

  • ปริมาณการจราจรทางอากาศของ ทอท. เพิ่มขึ้น 11.9% หรือมีผู้โดยสารรวม 74.26 ล้านคนแบ่งเป็นผู้โดยสารระหว่างประเทศ 46 ล้านคน และภายในประเทศ 28.25 ล้านคน สะท้อนความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจไทยในปีที่ผ่านมาโดยเฉพาะการท่องเที่ยว ซึ่งในรอบ 11 เดือนของปี 2555 มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าไทยถึง 19.8 ล้านคน ขณะที่คาดว่าทั้งปี 2555 จะสูงถึง 22 ล้านคน คิดเป็นรายได้ของประเทศประมาณ 8.86 แสนล้านบาท

  • Agency for Real Estate Affairs (AREA) ระบุว่า ราคาที่ดินในรอบ 5 ปีล่าสุด (2550-2555) มีบางทำเลที่ราคาปรับเพิ่มขึ้นสูงมาก โดยอันดับ 1 คือ ถนนสุขุมวิทบริเวณอาคารไทม์สแควร์ราคาเพิ่มจาก 500,000 บาทต่อตารางวา เป็น 1,300,000 บาทต่อตารางวา หรือกลายเป็น 2.6 เท่าของราคาเดิม ส่วนอันดับ 2 คือถนนวิทยุ จาก 550,000 บาทต่อตารางวา เพิ่มขึ้นเป็น 1,300,000 บาทต่อตารางวา และอันดับ 3 8nvถนนสุขุมวิท 21 จาก 360,000 บาทต่อตารางวา เพิ่มขึ้นเป็น 800,000 บาทต่อตารางวา


Eqiuty Market

  • SET Index ปิดตลาดที่ 1,415.32 จุด ลดลง 1.34 จุดหรือ -0.09% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 40,555 ล้านบาท โดยนักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 2,435.67 ล้านบาท ทั้งนี้ ดัชนีปรับลดลงในช่วงบ่ายโดยมีแรงขายทำกำไรในหุ้นกลุ่มสื่อสารและธนาคาร สำหรับทิศทางดัชนีวันนี้คาดว่าจะแกว่งตัวในกรอบแคบๆ โดยปัจจัยที่ต้องติดตามคือ การประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ และการรายงานดัชนีแนวโน้มการจ้างงานเดือน ธ.ค. ของสหรัฐ

  • กองทุนเพื่อความมั่งคั่งแห่งประเทศจีน (ไชน่าอินเวสท์เมนท์คอร์ป) เตรียมซื้อหุ้น 4%-10% ในเดมเลอร์เอจี ค่ายรถยนต์ยักษ์ใหญ่ของเยอรมนี ซึ่งยังไม่ได้มีการเปิดเผยมูลค่าแต่อย่างใด


Fix income market

  • อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยในช่วง -0.01% ถึง +0.01% สำหรับวันนี้มีการประมูลพันธบัตร ธปท. อายุ 1 / 3 / 6 เดือน และ 1 ปี วงเงินรวม 128,000 ล้านบาท

  • นักวิเคราะห์ คาดว่า ธ.กลางเกาหลีใต้จะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 2.75% ในการประชุมวันที่ 11 ม.ค.นี้ ก่อนที่จะลดลงในเดือนมี.ค.แม้ว่าเศรษฐกิจเกาหลีใต้กำลังอยู่ในช่วงฟื้นตัว แต่แนวโน้มการฟื้นตัวยังไม่แข็งแกร่งมากนัก ทำให้อาจเห็นการลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนมี.ค.-เม.ย.นี้ได้

  • แบงก์ออฟคอมมูนิเคชั่น คาดว่า อัตราแลกเปลี่ยนค่าเงินหยวนของจีนจะแข็งค่าขึ้นไม่มากในปีนี้เนื่องจากเกินดุลการค้าลดลง ขณะที่ค่าเงินหยวนผันผวนเกือบทั้งปีในปีที่ผ่านมา โดยในครึ่งปีแรกแข็งค่าขึ้น ก่อนที่จะอ่อนค่าลงในครึ่งปีหลัง ทำให้แข็งค่าขึ้น 0.25% ในปี 2555

  • อัตราแลกเปลี่ยนค่าเงินรูเปียห์ของอินโดนีเซียอ่อนค่าลงมากที่สุดในรอบ 7 เดือน เพราะนักลงทุนคาดว่าเงินทุนไหลเข้าอาจชะลอลง หลัง Fed มีท่าทีว่าอาจหยุดใช้นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจเชิงปริมาณ (QE) ประกอบกับการขาดดุลบัญชีเดินสะพัดอาจเพิ่มขึ้นเนื่องจากส่งออกลดลง

  • แบงก์ ออฟ โตเกียว มิตซูบิชิ (BMTU) ครองตำแหน่งสถาบันการเงินที่คาดการณ์อัตราแลกเปลี่ยนยอดเยี่ยมประจำปี 2555 หลังจากสามารถคาดการณ์แนวโน้มค่าเงินยูโรได้อย่างแม่นยำแม้ว่าจะยากที่สุด เนื่องจากคาดการณ์การปรับเปลี่ยนนโยบายในยูโรโซนได้ยาก สำหรับโพลล์ล่าสุดของ รอยเตอร์ ระบุว่า ยูโรและปอนด์จะอ่อนค่าลงในปีนี้ โดยได้รับแรงกดดันจากความอ่อนแอทางเศรษฐกิจ ส่วนเงินเยนจะยังอยู่ในระดับอ่อนแอต่อไป เนื่องจากการผ่อนคลายนโยบายการเงินในเชิงรุกของ BOJ


กำลังโหลดความคิดเห็น