xs
xsm
sm
md
lg

กำลังซื้อปี 56 ยังตึงตัว เหตุหนี้ภาคครัวเรือนเพิ่มขึ้น

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

บรรยากาศการซื้อสินค้าของประชาชนเมื่อปีที่แล้วที่ห้างสรรพสินค้าย่านลาดพร้าว
ASTVผู้จัดการรายวัน -  ส่องกำลังซื้อปี 56  ผู้ประกอบการชี้ปรับค่าแรงดาบสองคม รากหญ้ามีเงินกระเป๋าเพิ่มขึ้น ค่าครองชีพก็ปรับเพิ่มขึ้น ผลพวงนโยบายรถคันแรก หวั่นคนระดับกลางรายรับไม่พอจ่าย หนีในครัวเรือนพุ่ง กลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้า ทีวี เครื่องเสียงกระอัก
นายบุญฤทธิ์ มหามนตรี ประธานกรรมการ บริษัท ไลอ้อน (ประเทศไทย) จำกัด  ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคในเครือสหพัฒน์ กล่าวถึงทิศทางสินค้าอุปโภคบริโภคในปี 56 นี้ จะมีอัตราการเติบโต 6-8% เมื่อเทียบกับปี 2555 เติบโต 5-7% โดยปัจจัยการเติบโตมาจากภาวะเศรษฐกิจจากการคาดการณ์ว่าจีดีพี  เติบโต 5.5%  และผลจากค่าแรงที่ปรับเพิ่มขึ้น 300 บาททั่วประเทศและประการสำคัญภาคการส่งออกปีนี้น่าจะดีขึ้น จากสัญญาณเศรษฐกิจในยุโรปและอเมริกาที่ปรับตัวดีขึ้น
จากปัจจัยบวกทั้ง 3 ประการ จะส่งผลให้กำลังการซื้อของผู้บริโภคดีขึ้น ทว่ายังมีปัจจัยที่น่ากังวลผลจากนโยบายรถคันแรก ส่งผลให้คนไทยเป็นหนี้ในครัวเรือนมากขึ้น เพราะเชื่อว่าพฤติกรรมของผู้บริโภคจะไม่ชะลอการจับจ่ายซื้อสินค้า สำหรับแนวโน้มสินค้าอุปโภคบริโภค ผู้ประกอบการจะแข่งขันพัฒนานวัตกรรมใหม่ โดยเฉพาะสินค้าเพื่อสุขภาพเป็นเทรนด์ที่มาแรงอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งการพัฒนาสินค้าที่เฉพาะเจาะจงสอดรับกับพฤติกรรมของผู้บริโภคที่มี ความซับซ้อนและต้องการผลิตภัณฑ์ที่ตอบสนองความต้องการโดยเฉพาะ 

“ค่าแรงงานที่ปรับขึ้น 300 บาท สำหรับเครือสหพัฒน์ได้รับผลกระทบเฉพาะบางกลุ่มธุรกิจเท่านั้น โดยเฉพาะธุรกิจที่ต้องใช้แรงงานจำนวนมาก อาทิ โรงงานผลิตรองเท้าหรือสิ่งทอ ส่วนธุรกิจอื่นๆที่ต้องเครื่องจักรในการผลิตเป็นส่วนใหญ่ไม่ได้รับผลกระทบ มากนัก”
นายบุญฤทธิ์ กล่าวว่า ราคาสินค้าอุปโภคบริโภคในปี 56ไม่มีแนวโน้มว่าจะปรับเพิ่มขึ้น เพราะจากทิศทางราคาน้ำมันไม่มีแนวโน้มว่าจะปรับเพิ่มขึ้น สำหรับการดำเนินการตลาดในปี 56 บริษัทโฟกัสพัฒนาสินค้านวัตกรรมใหม่ ที่มีคุณภาพและราคาถูกสอดคล้องกับกำลังการซื้อของคนไทย ภายใต้การมุ่งบริหารต้นทุนการผลิต และให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อมกับสังคม สำหรับผลประกอบการปี 55 เติบโตมากกว่า 10% หรือมีรายได้ 1.3 หมื่นล้านบาท ส่วนปี 56 ตั้งเป้าโต 10% 

ตันชี้ดาบสองคมค่าแรงขึ้น300บ.
นายตัน ภาสกรนที กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท อิชิตัน กรุ๊ป จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายชาเขียวพร้อมดื่มอิชิตัน กล่าวว่า ในปี 56 มีความกังวลเรื่องค่าแรงที่ปรับเพิ่มขึ้น 300 บาท เพราะมองว่าเป็นดาบสองคม คือในแง่ดีผู้บริโภครากหญ้ามีกำลังการซื้อเพิ่มขึ้นจากค่าแรงที่เพิ่มขึ้น แต่ขณะเดียวกันค่าครองชีพต่างๆ ราคาสินค้าก็มีแนวโน้มว่าจะปรับเพิ่มขึ้นตามค่าแรงที่ปรับขึ้น ขณะที่ผู้ประกอบการโดยเฉพาะธุรกิจที่ต้องใช้แรงงานจำนวนมาก หากปรับตัวไม่ทัน ผลจากค่าแรงที่ปรับเพิ่มขึ้น โอกาสที่จะส่งผลกระทบต่อธุรกิจก็มีความเป็นไปได้สูง
“มั่นใจว่าเศรษฐกิจประเทศไทยจะเติบโต หากไม่มีปัจจัยการเมืองที่วุ่นวาย สำหรับราคาสินค้าชาเขียวพร้อมดื่ม โอกาสที่ราคาปรับขึ้นมีน้อยมาก เพราะมาจากกลไกของตลาด ที่สภาพการแข่งขันมีความรุนแรง” 

รถคันแรกกระทบตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้า
นายชนินทร์ เทียนเจริญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไอเบฟเวอเรจ จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายเครื่องดื่มชูกำลังซอรัส กล่าวว่า จากนโยบายของภาครัฐรถคันแรก คาดว่าจะส่งผลกระทบตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้า อาทิ โทรทัศน์ เครื่องเสียง เครื่องปรับอากาศ ฯลฯ เนื่องจากผู้บริโภคที่ซื้อรถคันแรกต้องเก็บเงินดาวน์รถหรือกระทั่งผ่อนรถ ยนต์ ทำให้มีการชะลอการจับจ่ายใช้สอย ส่วนตลาดสินค้าอุปโภคบริโภค หรือกระทั่งเครื่องดื่มฟังก์ชันนัลจะไม่ได้รับผลกระทบ เนื่องจากเป็นของกินของใช้ในชีวิตประจำวัน และไม่ได้มีราคาที่สูงมากนัก

สำหรับด้านราคาสินค้า คาดว่าต้นทุนการผลิตสินค้าเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน ผลจากค่าแรงที่ปรับเพิ่มขึ้นส่งผลให้ผู้ประกอบการมีกำไรลดลง แต่เชื่อว่าสินค้าจะไม่ขึ้นราคา โดยผู้ประกอบการจะงัดกลยุทธ์ลดขนาดหรือปริมาณแทน เพราะการขึ้นราคาจะส่งผลต่อยอดขาย ในขณะที่การลดขนาดไม่มีผลทางด้านจิตวิทยาของผู้บริโภคหรือมีก็น้อยมาก  

รถคันแรกกระทบกำลังซื้อคนระดับกลาง
ด้านนายเกรียงไกร กาญจนะโภคิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วม บริษัท อินเด็กซ์ ครีเอทีฟ วิลเลจ จำกัด (มหาชน)  กล่าวว่า ในปี 2556 คาดว่ากลุ่มธุรกิจที่จะใช้เม็ดเงินการจัดอีเวนต์มาจากธุรกิจ น้ำอัดลม จากการเปิดศึกช่วงชิงยอดขายทั้ง 4 แบรนด์ ได้แก่ โค้ก เป๊ปซี่ เอส และบิ๊กโคล่า

นอกจากนี้ยังคาดว่า กลุ่มธุรกิจพลังงานจะมีการใช้เม็ดเงินการจัดกิจกรรมมากขึ้นเพราะได้รับ อานิสงส์จากนโยบายรถคันแรก ส่งผลให้มีคนใช้น้ำมันในปริมาณที่เพิ่มขึ้น ส่วนกลุ่มธุรกิจที่จะใช้งบผ่านการจัดอีเวนต์ลดลง คือ กลุ่มอุตสาหกรรมรถยนต์ เนื่องจากปีนี้คนไทยซื้อรถยนต์เป็นจำนวนมาก เพื่อให้ได้รับสิทธิ์นโยบายรถคันแรกส่งผลให้ปีหน้านี้ปริมาณการซื้อรถยนต์ลดลงและเม็ดเงินการใช้งบจัดอีเวนต์ก็จะลดลงตาม

ขณะที่สินค้าอุปโภคบริโภค เป็นอีกกลุ่มหนึ่งที่ได้รับผลกระทบจากนโยบายรถคันแรก โดยเฉพาะกลุ่มคนระดับกลางมีความระมัดระวังการจับจ่ายใช้สอย ปีหน้าผู้ประกอบการสินค้าอุปโภคบริโภค จะหันไปทำกิจกรรมเจาะกลุ่มรากหญ้ามีเพิ่มขึ้น เพราะเป็นกลุ่มที่มีกำลังการซื้อจากการปรับค่าแรง 300 บาททั่วประเทศ

ลีเวอร์ฯชี้ค่าแรง300บ.รากหญ้ากำลังซื้อพุ่ง
นางวรรณิภา ภักดีบุตร รองประธานกรรมการบริหารด้านการตลาดผลิตภัณฑ์ความงาม บริษัท ยูนิลีเวอร์ ไทยเทรดดิ้ง จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภค กล่าวถึงกำลังการซื้อของผู้บริโภคว่า อานิงส์จากค่าแรงปรับเพิ่มขึ้น 300บาททั่วประเทศ นับว่าเป็นปัจจัยบวกส่งผลให้กลุ่มรากหญ้า หรือประชากรส่วนใหญ่ของประเทศมีรายได้เพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตามความท้าทายการดำเนินธุรกิจสินค้าอุปโภคบริโภคในปี 56 คือ ความไม่แน่นอนในการทำธุรกิจมีสูงขึ้นทุกปี โดยมาจาก 3ปัจจัยด้วยกัน
คือ 1.เทรนด์ของเทคโนโลยีที่ปรับเปลี่ยนและพัฒนาใหม่ๆอย่างต่อเนื่อง 2.แนวโน้มภาวะเศรษฐกิจโลกที่ผกผันตามเศรษฐกิจของประเทศมหาอำนาจจากทางยุโรป อเมริกาและจีน  หรือกระทั่งการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนหรือเออีซีในปี 2558  ทำให้การประเมินสถานการณ์ทำได้ยากมากขึ้น และ3.การเกิดภัยธรรมชาติที่ไม่สามารถคาดการณ์ได้  อย่างประเทศไทย ในปี 2554 เกิดวิกฤตน้ำท่วมครั้งใหญ่ในช่วงปลายปี ดังนั้นยุทธศาสตร์การขับเคลื่อนการดำเนินธุรกิจของบริษัทยูนิลีเวอร์ ภายใต้สถานการณ์ที่ท้าทาย สิ่งที่ทำได้ คือ ต้องมีความเข้าใจทั้งปัจจัยภายนอกและภายใน    
กำลังโหลดความคิดเห็น