อนุฯ บีโอไอเตรียมชงการผ่อนผันใช้แรงงานต่างด้าวในกิจการที่ได้รับการส่งเสริมฯ จากบีโอไอต่อบอร์ดบีโอไอใหญ่ 26 ธ.ค.นี้ หลังสิ้นสุด ธ.ค.นี้ แต่เอกชนร้องเรียนเพียบต้องการให้พิจารณาต่อ “ประเสริฐ” แย้มน่าจะเป็นข่าวดี เคาะอนุมัติ ส่งเสริมการลงทุนตามมาตรการเพื่อฟื้นฟูการลงทุนจากวิกฤตอุทกภัยเพิ่มอีก 39 โครงการ เงินลงทุนรวม 31,466.35 ล้านบาท
นายประเสริฐ บุญชัยสุข รมว.อุตสาหกรรม เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะอนุกรรมการนโยบายส่งเสริมการลงทุนว่า การประชุมคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บอร์ดบีโอไอ) ที่มีนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คลังเป็นประธาน ในวันที่ 26 ธ.ค. 2555 จะมีการพิจารณามาตรการเกี่ยวกับการลงทุน 10 มาตรการโดยเฉพาะประเด็นการผ่อนผันการใช้แรงงานต่างด้าวไร้ฝีมือในกิจการที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุนจากบีโอไอที่จะสิ้นสุดเดือน ธ.ค.นี้ว่าจะมีการพิจารณาต่ออีกหรือไม่
“คณะอนุกรรมการได้พิจารณาแล้วมีความเห็นที่ต่างกันออกไป แต่ที่สุดเรื่องนี้คงขึ้นอยู่กับบอร์ดใหญ่จะพิจารณา โดยเอกชนร้องเรียนมาจำนวนมากถึงปัญหาดังกล่าวเพราะต้องยอมรับว่าแรงงานขาดแคลนจริงและบางส่วนงานจำเป็นต้องใช้แรงงานไม่สามารถหาเครื่องจักรทดแทนได้ มาตรการนี้ผมคิดว่าน่าจะเป็นข่าวที่ดีสำหรับผู้ประกอบการ” นายประเสริฐกล่าว
นอกจากนี้ยังมีมาตรการสำคัญๆ ที่ต้องพิจารณา เช่น มาตรการส่งเสริมการลงทุนให้บริษัทที่ได้รับการส่งเสริมจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอไอ มาตรการด้านภาษีอากรเพื่อฟื้นฟูการลงทุนจากวิกฤตอุทกภัย สิทธิประโยชน์ยกเว้นอากรขาเข้าเครื่องจักรที่นำเข้ามาทดแทนเครื่องจักรที่เสียหายจากอุทกภัย ซึ่งมาตรการดังกล่าวเป็นมาตรการส่งเสริมการลงทุนพิเศษที่จะหมดอายุลงในวันที่ 31 ธ.ค. 2555 เช่นกัน
สำหรับการประชุมได้อนุมัติการขอรับส่งเสริมการลงทุนตามมาตรการเพื่อฟื้นฟู การลงทุนจากวิกฤตอุทกภัยครั้งนี้ รวมทั้งสิ้น 39 โครงการ เงินลงทุนรวม 31,466.35 ล้านบาท แบ่งเป็น การอนุมัติภายใต้มาตรการเพื่อฟื้นฟูการลงทุนจากวิกฤตอุทกภัย รวม 32 โครงการ เงินลงทุนรวม 27,959.75 ล้านบาท และการอนุมัติภายใต้มาตรการกระตุ้นให้เกิดการลงทุนใหม่หรือขยายการลงทุนในนิคมอุตสาหกรรมในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา และจังหวัดปทุมธานี รวมจำนวน 7 โครงการ เงินลงทุนรวม 3,506.6 ล้านบาท โดยโครงการที่ได้รับอนุมัติให้การส่งเสริมภายใต้มาตรการเพื่อฟื้นฟูการลงทุนจากวิกฤตอุทกภัย จำนวน 32 โครงการ เกือบทั้งหมด หรือ 31 โครงการ ตั้งกิจการในที่ตั้งเดิม มีเพียง 1 โครงการที่ย้ายที่ตั้งใหม่
