“เซ็นทารา” ลุย รร.พันบาท/คืน ยันไฟดับเกาะสมุยลูกค้าไม่หนี

ASTVผู้จัดการรายวัน - ท่องเที่ยวบูมรับเออีซี “เซ็นทารา” ผุดแบรนด์น้องใหม่ “COSI Hotels” บุกเซกเมนต์โรงแรมระดับอีโคโนมีแบรนด์แรกของไทย คาด 4 ปีเห็น 4 โรง ผ่านงบลงทุน 1,200 ล้านบาท ถึงปี 2020 เห็นแน่ 30 โรงทั้งในและต่างประเทศ คาดกวาดรายได้กว่า 2,000 ล้านบาท คุ้มทุนใน 6-7 ปี

นายธีระยุทธ จิราธิวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร โรงแรมและรีสอร์ตในเครือเซ็นทารา เปิดเผยว่า จากการขยายตัวทางเศรษฐกิจในภูมิภาคอาเซียน รวมถึงจะก้าวเข้าสู่เออีซีในอีก 1-2 ปีข้างหน้านี้ พบว่าปัจจุบันมีการเดินทางในประเทศและระหว่างประเทศในกลุ่มประเทศเอเชียแปซิฟิกมากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มสายการบินโลว์คอสต์ไม่ต่ำกว่า 50% ในช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมา

ดังนั้น บริษัทฯ ได้วางแผนที่จะเพิ่มแบรนด์โรงแรมน้องใหม่ในเครือขึ้นมาเพื่อตอบสนองกลุ่มเป้าหมายระดับดังกล่าวตั้งแต่ 2-3 ปีก่อน ล่าสุดพร้อมเปิดตัวแบรนด์ “COSI Hotels” หรือโรงแรมโคซี่ ในเซกเมนต์อีโคโนมี ถือเป็นแบรนด์ที่ 6 ของกลุ่มเซ็นทารา และทำให้เซ็นทารามีกลุ่มโรงแรมที่ครอบคลุมทุกกลุ่มเป้าหมาย และยังถือเป็นแบรนด์โรงแรมของไทยแบรนด์แรกที่รุกกลุ่มอีโคโนมี

ด้านนายสุภรัฐ จิราธิวัฒน์ เอื้อวัฒนะสกุล รองประธานฝ่ายพัฒนาธุรกิจ บริษัท เซ็นทารา อินเตอร์เนชั่นแนล แมนเนจเม้นท์ จำกัด กล่าวต่อว่า สำหรับแบรนด์โคซี่ เบื้องต้นได้วางแผนเปิดตัวปีละ 1 แห่ง การลงทุนเฉลี่ยต่อห้องอยู่ที่ 1.5-1.6 ล้านบาท แต่ละโรงแรมมีขนาด 150-200 ห้อง หรือ 1 โรงแรม ลงทุนราว 300 ล้านบาท ทั้งนี้มองว่าใน 3-4 ปีจะเห็นโคซี่ได้ 4-5 แห่ง เป็นกรุงเทพฯ 1-2 แห่ง และอีก 2 แห่งเปิดในหัวเมืองท่องเที่ยว เฉลี่ยราคาค่าบริการเริ่มต้นที่ 999 บาท ไปจนถึงพันกว่าบาท

ลูกค้าสามารถจองห้องพักได้ทางออนไลน์และแอปพลิเคชันบนมือถือ โดยจับกลุ่มเป้าหมาย 4 กลุ่ม คือ 1. 16-29 ปี ในกลุ่มนักเรียน นักศึกษา และเฟิร์สจ็อบเบอร์ 25 ปีขึ้นไป กับวัยเกษียณที่ชื่นชอบการเดินทาง เทคโนโลยี 3. ครอบครัว ที่ชื่นชอบการเดินทาง สะดวก ประหยัด และมีมาตรฐานเดียวกัน และ 4. คอปอเรต สำหรับการเดินทางติดต่อการทำงาน

ทั้งนี้ ตามแผนการดำเนินงาน ภายใน ปี 2020 จะมีโคซี่ให้บริการทั้งในและประเทศในอาเซียน รวมถึงจีน ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ ไม่ต่ำกว่า 30 แห่ง โดยส่วนใหญ่เป็นการรับบริหารให้ และมี 4-5 แห่งที่ลงทุนเอง ถึงเวลานั้นมั่นใจว่าจะมีรายได้อยู่ที่ 2,000 ล้านบาท แบ่งเป็นรับบริหารราว 180 ล้านบาท ขณะที่แต่ละสาขาจะคุ้มทุนใน 6-7 ปี

ไฟดับสมุย กระทบเล็กน้อย

นายรณชิต มหัทธนะพฤทธิ์ รองประธานอาวุโสฝ่ายการเงินและบริหาร โรงแรมและรีสอร์ตในเครือเซ็นทารา กล่าวว่า สำหรับสถาณการณ์ไฟดับที่เกาะสมุยนั้น ในส่วนของเซ็นทาราเองได้รับผลกระทบเช่นกันแต่ค่อนข้างน้อย ลูกค้าเองอาจจะมีอาการหงุดหงิดบ้างแต่ก็ยังคงพักอยู่ที่โรงแรม ซึ่งทางโรงแรมเองก็ต้องมีการเอาใจและให้บริการมากขึ้น เช่น ลดค่าบริการในส่วนต่างๆ อย่างไรก็ตาม ในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมานี้ยังไม่พบยอดจองล่วงหน้าของลูกค้ามีการยกเลิกลงไป ขณะที่ภาพรวมการเข้าพักในช่วงเดือนนี้อยู่ที่ 60% สูงกว่าช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนอยู่

นายรณชิตกล่าวต่อว่า สำหรับแผนการดำเนินงานในปีหน้านั้น เตรียมงบลงทุนราว 1,000 ล้านบาท น้อยกว่าปีนี้ที่ลงทุนถึง 2,000 ล้านบาท สำหรับลงทุนขยายสาขาและรับบริหารต่อเนื่อง โดยในปีหน้าจะมีรายได้จากโรงแรมที่มัลดีฟส์ที่ทางเซ็นทาราได้เข้าไปถือหุ้นเกิน 50% มาช่วยเสริมในแง่รายได้ ขณะที่ปีนี้คาดว่าจะรายได้รวมที่ 17,000 ล้านบาท จาก 14,000 ล้านบาท ทั้งในส่วนของของโรงแรมและฟูด โดยปีหน้าเตรียมเพิ่มแบรนด์กลุ่มฟูดอีก 2 แบรนด์