รอยเตอร์/เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์- ศาลมัลดีฟส์ออกคำสั่ง ให้มีการจำกัดการเดินทางของอดีตประธานาธิบดีโมฮาเหม็ด นาชีดในวันนี้ (26) ส่งผลให้อดีตผู้นำเจ้าของฉายา “เนลสัน แมนเดลาแห่งมัลดีฟส์”จะต้องขออนุญาตต่อทางการก่อน หากคิดจะเดินทางออกจากกรุงมาเล เมืองหลวงของประเทศ ถือเป็นความเคลื่อนไหวล่าสุดที่คาดว่า จะสร้างความขุ่นเคืองให้กับบรรดาผู้สนับสนุนทางการเมืองของนาชีดไม่น้อย
รายงานข่าวระบุว่า ศาลในกรุงมาเลมีคำสั่งห้ามนาชีด วัย 45 ปี เดินทางออกนอกเมืองหลวง เนื่องจากเขาต้องเป็นผู้ต้องหาในคดีลักพาตัวผู้พิพากษาศาลอาญารายหนึ่ง ในช่วงก่อนที่เขาจะถูกบีบให้ก้าวลงจากอำนาจเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ไม่นาน ขณะที่อดีตประธานาธิบดีรายนี้ยืนยันว่า คำสั่งของศาลล่าสุด ถือเป็นเรื่องที่ไม่ยุติธรรมสำหรับเขา เนื่องจากเขากำลังอยู่ในระหว่างที่ต้องออกเดินสายหาเสียงทั่วประเทศ เพื่อเตรียมสู้ศึกเลือกตั้งในปีหน้า
“ทนายความของผมยืนยันว่า คำสั่งของศาลครั้งนี้ถือเป็นเรื่องที่ผิดปกติ และน่าจะมีแรงจูงใจทางการเมืองอยู่เบื้องหลัง เพื่อหาทางขัดขวางไม่ให้ผมได้กลับคืนสู่อำนาจ” นาชีดซึ่งครองอำนาจระหว่างปี 2008 จนถึงต้นปีที่ผ่านมากล่าว พร้อมยืนยัน รู้สึกกังวลว่า การเลือกตั้งประธานาธิบดีที่จะมีขึ้นในปี 2013 อาจไม่เป็นไปด้วยความบริสุทธิ์ยุติธรรม
ด้านโฆษกประจำตัวโมฮาเหม็ด วาฮีด ฮัสซัน ประธานาธิบดีคนปัจจุบันยืนยันรัฐบาลจะไม่เข้าไปแทรกแซงการดำเนินคดีต่อนาชีด และจะปล่อยให้ทุกอย่างดำเนินไปตามขั้นตอนของกฎหมาย
ทั้งนี้ นาชีดซึ่งเคยตกเป็นนักโทษทางการเมืองนานหลายปี ถือเป็นประธานาธิบดีคนแรกของมัลดีฟส์ที่ได้รับการเลือกตั้งตามครรลองประชาธิปไตย หลังจากพลิกเอาชนะนายเมามูน อับดุล กายูม อดีตผู้นำที่ครองอำนาจยาวนานกว่า 30 ปีได้ในการเลือกตั้งเมื่อปี 2008 แต่เขาถูกทหารและตำรวจบีบให้ออกจากอำนาจเมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา หลังเกิดการประท้วงต่อต้านรัฐบาลลุกลามไปทั่วประเทศ โดยนาชีดยืนยันมาตลอดว่า การที่เขาถูกบีบให้สละตำแหน่งประธานาธิบดีนั้นเป็นฝีมือของอับดุล กายูมและกลุ่มผู้สนับสนุน ที่อยู่เบื้องหลังการจัดประท้วงตามเมืองต่างๆ