xs
xsm
sm
md
lg

พฤกษาฯกลับมาพลิกฟื้นธุรกิจครึ่งปีแรกทำรายได้กว่า1.1หมื่นล.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


พฤกษาฯ ลั่นกำไรปี 55 ทุบสถิติเดิมของปี 52 ที่ทำได้ 3,600 ล้านบาท จับตายอดขายรอโอนคอนโดฯ 9,000 หนุนรับรู้รายได้ปี56ต่อ เผยบริษัทกลับมาพลิกฟื้นทางธุรกิจได้อย่างรวดเร็ว แม้จะบอบช้ำจากอุทกภัยน้ำท่วมใหญ่ปลายปี 54 งวด 6 เดือนแรกมีรายได้ 11,543 ล้านบาท กำไร 1,635 ล้านบาท มั่นใจครึ่งหลังจะมีรายได้ 15,000 ล้านบาท ได้ตามเป้าทั้งปี 26,000 ล้านบาท เตรียมออกหุ้นกู้ 5,000 ล้านบาท ลดภาระเงินกู้
 

นายประเสริฐ แต่ดุลยสาธิต กรรมการและรองกรรมการผู้จัดการ บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) หรือ PS กล่าวถึงผลประกอบการในไตรมาส 2 ( เม.ย.- มิ.ย.55 ) และงวด 6 เดือนแรกของปีนี้ (ม.ค.- มิ.ย.55 ) ว่า ในไตรมาส 2 ภาพรวมของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์กลับเข้าสู่สภาวะปกติ หลังจากได้รับผลกระทบจากสถานการณ์น้ำท่วมเมื่อปลายปีที่ผ่านมา ความเชื่อมั่นและกำลังซื้อของผู้บริโภคกลับคืนมาอีกครั้ง และผลจากการที่พฤกษา มีการปรับกลยุทธ์และกระบวนการภายในต่างๆ ในช่วงต้นปีที่ผ่านมา ส่งผลให้ไตรมาสที่ 2 ทำรายได้ 6,868 ล้านบาท กำไรสุทธิ 1,002 ล้านบาท และเมื่อพิจารณาผลประกอบการในครึ่งปีแรก พฤกษากลับมารักษาระดับการเติบโตของธุรกิจ ด้วยการทำรายได้รวมถึง 11,543 ล้านบาท (เปรียบเทียบกับงวดเดียวกันของปี 54 รายได้รวม 12,228.8 ) และกำไรสุทธิ 1,635 ล้านบาท (เปรียบเทียบกำไรสุทธิงวดเดียวกันปี 54 อยู่ที่ 1,719 ล้านบาท)
" มั่นใจว่าในปี 55 นี้ พฤกษาฯจะทำกำไรสุทธิสูงสุดเป็นประวัติการณ์ จากสถิติเดิมในปี 52 เคยทำกำไรสูงสุดที่ 3,600 ล้านบาท โดยในช่วงไตรมาส 3 และ 4 จะยังทำกำไรเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยคาดว่า ในช่วงครึ่งปีหลัง บริษัทจะมีรายได้ที่ 15,000 ล้านบาท และเมื่อรวมกับครึ่งปีแรกแล้ว ทำให้มั่นใจว่าทั้งปีจะทำรายได้ตามเป้าหมายที่ 26,000 ล้านบาท เนื่องจากบริษัทมียอดขายที่จะทยอยรับรู้เป็นรายได้ ณ สิ้นไตรมาส 2 ประมาณ 16,800 ล้านบาท ไม่ใช่แค่ปี 55 เท่านั้น บริษัทยังเชื่อว่าในปีหน้า จะมีโอกาสทำกำไรสูงสุดต่อเนื่องจากปีนี้ ด้วยปัจจัยของยอดขายรอโอนของคอนโดมิเนียมที่มีมากถึง 9,000 ล้านบาทที่จะรับรู้รายได้ในปี 56 และยังมีอัตรากำไรสุทธิสูงถึง 18.3% และมีอัตรากำไรขั้นต้นที่ 40% "
โดยในช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมา ผู้ประกอบการในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์สามารถปรับตัวรับกับสถานการณ์ได้เป็นอย่างดี สำหรับพฤกษาถือว่าฟื้นตัวได้เร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้ เพราะเรามีโมเดลธุรกิจ ที่มีความยืดหยุ่นในการบริหารพอร์ตของสินค้าได้อย่างรวดเร็ว ตามความต้องการของตลาด เรามีสินค้าทุกประเภททั้งทาวน์เฮาส์ บ้านเดี่ยว และคอนโดมิเนียม เจาะตลาดทุกเซ็กเมนท์ ส่งผลให้ผลประกอบการของพฤกษาในครึ่งปีแรก เติบโตเพิ่มขึ้นทั้งยอดขายยอดรายได้และกำไรสุทธิ โดยเฉพาะยอดรายได้ที่มีผลงานโดดเด่นมาก โดยยอดรายได้ส่วนใหญ่มาจากทาวน์เฮาส์ 54% ที่เหลือเป็นบ้านเดี่ยว 35% คอนโดมิเนียม 9% และต่างประเทศ 2% จากโครงการในอินเดียและสาธารณรัฐ มัลดีฟส์ ทำให้พฤกษา มีรายได้รวมครึ่งปีแรก 11,543 ล้านบาท ส่วนกำไรสุทธิในครึ่งปีแรกสามารถทำได้ถึง 1,635 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะเป็นระดับรายได้และกำไรสุทธิที่สูงที่สุดที่จะทำให้พฤกษา สามารถรักษาความเป็นผู้นำหรือเบอร์หนึ่งในธุรกิจอสังหาฯไทย ถึงแม้พฤกษาจะได้รับผลกระทบจากวิกฤตน้ำท่วมช่วงปลายปีที่ผ่านมามากที่สุดในวงการ แต่เราใช้เวลาเพียง 5-6 เดือน ก็สามารถพลิกฟื้นกลับมามีผลประกอบการที่โดดเด่นอีกครั้ง
 
ทั้งนี้ ในช่วงครึ่งปีแรก บริษัทฯได้ดำเนินการเปิด 14 โครงการ เป็นทาวน์เฮาส์ 10 โครงการ บ้านเดี่ยว 2 โครงการ และคอนโดมิเนียม 2 โครงการ มูลค่าโครงการรวมประมาณ 11,000 ล้านบาท โดยโครงการส่วนใหญ่จะโฟกัสเซกเมนท์ลูกค้าในกลุ่มเรียลดีมานด์ที่มีความต้องการซื้อบ้านเพื่อการอยู่อาศัยจริง อย่างไรก็ตาม ในครึ่งปีหลัง บริษัทฯได้ปรับลดเป้าการเปิดโครงการใหม่เหลือ 35-40 โครงการ จากเดิมตั้งเป้าไว้ที่ 49 โครงการ เนื่องจากครึ่งปีแรกเปิดโครงการใหม่ได้เพียง 14 โครงการ ส่วนครึ่งปีหลังมีแผนเปิด 21-26 โครงการ ซึ่งการลดจำนวนโครงการใหม่ไม่ได้กระทบเป้าหมายรายได้รวมในปีนี้ โดยในเดือน ก.ค.บริษัทมียอดรับรู้รายได้แล้วถึง 4,000 ล้านบาท ทำให้คาดว่ารายได้ในไตรมาส 3 จะเป็นไปตามเป้าที่ 7,500 ล้านบาท

นายประเสิรฐ กล่าวว่า ในเดือน ก.ย.ปีนี้ บริษัทเตรียมออกหุ้นกู้ วงเงิน 5,000 ล้านบาทเพื่อนำมาชำระหนี้เงินกู้ ขณะที่จัดเตรียมงบลงทุนเพื่อซื้อที่ดินใหม่ในช่วงปี 55-56 วงเงิน 12,000 ล้านบาท ทั้งที่ดินในกรุงเทพฯและต่างจังหวัด แบ่งเป็นปีนี้จะใช้เงินลงทุนราว 6,000 ล้านบาท ซึ่งได้ซื้อที่ดินไปแล้ว 1,300-1,400 ล้านบาท ส่วนปีหน้าอีก 6,000 ล้านบาท
สำหรับความเคลื่อนไหวของการลงทุนในตลาดต่างประเทศนั้น ได้เตรียมซื้อที่ดินเพิ่มเติมอีก 1 แปลงในประเทศอินเดีย โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจาเพื่อนำที่ดินมาใช้พัฒนาเป็นโครงการบ้านเดี่ยว คาดเริ่มขายได้ในช่วงต้นปี 56 ส่วนที่เวียดนาม บริษัทคาดว่าจะเปิดตัวโครงการทาวน์เฮาส์ภายในปลายปีนี้ หรือต้นปี 56 ซึ่งเป็นจังหวะที่ดีที่เงินเฟ้อในเวียดนามลดลงและอัตราแลกเปลี่ยนเงินดองเริ่มทรงตัว

นายประเสริฐ กล่าวว่า ปัจจัยที่บริษัทยังมีความกังวลในขณะนี้ คือ เสถียรภาพทางการเมือง และปัญหาเศรษฐกิจยุโรป หากลุกลามจะกระทบการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภค และรอดูสถานการณ์น้ำท่วมในปลายปีนี้ ซึ่งหวังว่าแผนป้องกันน้ำท่วมของรัฐบาลจะใช้ได้
กำลังโหลดความคิดเห็น