เวิร์คพอยท์พร้อมลุยศึกทีวีดาวเทียมทุกรูปแบบ จับมือพีเอสไอ ผุด ฟรีไซซ์ บรอดแคสติ้ง ชูคอนเทนต์บันเทิงครบรสขับเคลื่อนแพลตฟอร์ม ล่าสุดทุ่ม 100 ล้านเปิดตัว 1 ช่อง มั่นใจคุ้มทุนใน 1 ปี
นายปัญญา นิรันดร์กุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เวิร์คพ้อยท์ เอ็นเทอร์เทนเมนท์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า จากทิศทางของอุตสาหกรรมทีวีดาวเทียมที่มีแนวโน้มดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง และนักลงทุนต่างชาติให้ความสนใจเข้ามาลงทุนในไทยมากขึ้น ทางบริษัทมองเห็นโอกาสในการเติบโต จึงได้ร่วมมือกับทางบริษัท พีเอสไอ โฮลดิ้ง จำกัด ด้วยการจัดตั้งบริษัท ฟรีไซซ์ บรอดแคสติ้ง จำกัด ขึ้นมา ด้วยทุนจดทะเบียน 100 ล้านบาท สัดส่วน 50% เท่าๆ กัน เพื่อสร้างความแข็งแกร่งให้ทั้ง 2 บริษัทที่ต้องการจะรุกตลาดทีวีดาวเทียมต่อไป
อย่างไรก็ตาม สำหรับช่องเวิร์คพ้อยท์ทีวี หลังจากเปิดตัวได้ 3 เดือนก็สามารถคุ้มทุนแล้ว โดยปัจจุบันมีอัตราโฆษณาอยู่ที่ 6,000-10,000 บาทต่อนาที และกำลังมีแผนที่จะปรับราคาขึ้นในปีหน้า ทั้งนี้ แผนการขยายช่องรายการของทางเวิร์คพ้อยท์หลังจากนี้จะเป็นในนามของฟรีไซซ์ทั้งหมด
นายสมพร ธีระโรจนพงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พีเอสไอ โฮลดิ้ง จำกัด กล่าวต่อว่า ฟรีไซซ์จะเป็นจุดแข็งในการรุกทีวีดาวเทียมได้อย่างแข็งแกร่ง โดยทางพีเอสไอจะดูแลในเรื่องของระบบ และทางเวิร์คพ้อยท์จะดูแลเรื่องของการผลิตคอนเทนต์ ซึ่งในอนาคตจะเปิดกว้างในการผลิตคอนเทนต์สู่แพลตฟอร์มอื่นๆ ด้วย เช่น เคเบิลทีวี ฟรีทีวี รวมถึงทีวีดิจิตอล ก็มีความสนใจที่จะเข้าร่วมประมูลเช่นกัน รวมถึงอาจจะมีการจับมือกับพันธมิตรอื่นๆ เช่น นักลงทุนต่างประเทศที่สนใจเข้ามาลงทุนในไทยด้วย ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับจังหวะและเวลา ดังนั้นทางบริษัทจึงต้องมีการวางรากฐานให้แข็งแกร่งรองรับแผนการดำเนินงานในขั้นตอนต่อไป
สำหรับแผนการดำเนินงานของฟรีไซซ์ เบื้องต้นจะมีการผลิตช่องรายการขึ้นมาปีละ 1 ช่อง โดยในปี 2556 ไม่เกินเดือน ก.พ.จะเห็น 1 ช่อง ส่วนรายละเอียดรูปแบบรายการนั้นยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ แต่มั่นใจว่าจะคุ้มทุนได้ใน 1 ปี
ส่วนยอดการจำหน่ายกล่องของทางพีเอสไอนั้น ปีนี้ตั้งเป้าที่ 3 ล้านกล่อง ถึงสิ้นปี 2556 จะเพิ่มเป็น 3.5 ล้านกล่องได้ ส่วนรายได้นั้นสิ้นปีนี้มั่นใจว่าจะเติบโต 30% หรือปิดรายได้ไม่ต่ำกว่า 3,000 ล้านบาท จากปัจจุบันแพลตฟอร์มของพีเอสไอเข้าถึงประชากรไทยราว 10 ล้านครัวเรือน หรือครึ่งหนึ่งของประชากรแล้ว
นายสมพรกล่าวด้วยว่า ทิศทางของอุตสาหกรรมทีวีดาวเทียมมีการแข่งขันสูง แต่มองว่าแค่เพียงคอนเทนต์เดียว อย่างคอนเทนต์กีฬาไม่ใช่บทสรุปของการขับเคลื่อนธุรกิจได้จริง ดังนั้น สำหรับแพลตฟอร์มของพีเอสไอจึงมุ่งเน้นคอนเทนต์ที่ตอบสนองคนไทยให้มากที่สุด โดยเฉพาะในเรื่องของความสนุก บันเทิง รื่นเริง และครบรสทุกความต้องการ
การร่วมมือกับทางเวิร์คพ้อยท์ก็เพื่อผลิตคอนเทนต์ในรูปแบบดังกล่าวอยู่แล้ว บวกกับปัจจุบัน กสทช.จะมีการออกใบอนุญาตสำหรับผู้ประกอบการช่องรายการทางทีวีดาวเทียมอีกทางหนึ่ง จึงเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องที่จะช่วยให้แพลตฟอร์มของพีเอสไอเติบโตขึ้นต่อเนื่อง ทั้งนี้ มองว่าปีหน้าอาจจะได้เห็นการเปลี่ยนแปลงเกี่ยวกับช่องรายการอื่นๆ ที่อาจจะหายไปบ้าง แต่ช่องที่เกิดขึ้นใหม่ก็จะมีแต่ช่องคุณภาพเข้ามาทดแทน โดยแพลตฟอร์มของพีเอสไอปัจจุบันมีอยู่ 200 ช่อง
นายปัญญา นิรันดร์กุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เวิร์คพ้อยท์ เอ็นเทอร์เทนเมนท์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า จากทิศทางของอุตสาหกรรมทีวีดาวเทียมที่มีแนวโน้มดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง และนักลงทุนต่างชาติให้ความสนใจเข้ามาลงทุนในไทยมากขึ้น ทางบริษัทมองเห็นโอกาสในการเติบโต จึงได้ร่วมมือกับทางบริษัท พีเอสไอ โฮลดิ้ง จำกัด ด้วยการจัดตั้งบริษัท ฟรีไซซ์ บรอดแคสติ้ง จำกัด ขึ้นมา ด้วยทุนจดทะเบียน 100 ล้านบาท สัดส่วน 50% เท่าๆ กัน เพื่อสร้างความแข็งแกร่งให้ทั้ง 2 บริษัทที่ต้องการจะรุกตลาดทีวีดาวเทียมต่อไป
อย่างไรก็ตาม สำหรับช่องเวิร์คพ้อยท์ทีวี หลังจากเปิดตัวได้ 3 เดือนก็สามารถคุ้มทุนแล้ว โดยปัจจุบันมีอัตราโฆษณาอยู่ที่ 6,000-10,000 บาทต่อนาที และกำลังมีแผนที่จะปรับราคาขึ้นในปีหน้า ทั้งนี้ แผนการขยายช่องรายการของทางเวิร์คพ้อยท์หลังจากนี้จะเป็นในนามของฟรีไซซ์ทั้งหมด
นายสมพร ธีระโรจนพงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พีเอสไอ โฮลดิ้ง จำกัด กล่าวต่อว่า ฟรีไซซ์จะเป็นจุดแข็งในการรุกทีวีดาวเทียมได้อย่างแข็งแกร่ง โดยทางพีเอสไอจะดูแลในเรื่องของระบบ และทางเวิร์คพ้อยท์จะดูแลเรื่องของการผลิตคอนเทนต์ ซึ่งในอนาคตจะเปิดกว้างในการผลิตคอนเทนต์สู่แพลตฟอร์มอื่นๆ ด้วย เช่น เคเบิลทีวี ฟรีทีวี รวมถึงทีวีดิจิตอล ก็มีความสนใจที่จะเข้าร่วมประมูลเช่นกัน รวมถึงอาจจะมีการจับมือกับพันธมิตรอื่นๆ เช่น นักลงทุนต่างประเทศที่สนใจเข้ามาลงทุนในไทยด้วย ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับจังหวะและเวลา ดังนั้นทางบริษัทจึงต้องมีการวางรากฐานให้แข็งแกร่งรองรับแผนการดำเนินงานในขั้นตอนต่อไป
สำหรับแผนการดำเนินงานของฟรีไซซ์ เบื้องต้นจะมีการผลิตช่องรายการขึ้นมาปีละ 1 ช่อง โดยในปี 2556 ไม่เกินเดือน ก.พ.จะเห็น 1 ช่อง ส่วนรายละเอียดรูปแบบรายการนั้นยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ แต่มั่นใจว่าจะคุ้มทุนได้ใน 1 ปี
ส่วนยอดการจำหน่ายกล่องของทางพีเอสไอนั้น ปีนี้ตั้งเป้าที่ 3 ล้านกล่อง ถึงสิ้นปี 2556 จะเพิ่มเป็น 3.5 ล้านกล่องได้ ส่วนรายได้นั้นสิ้นปีนี้มั่นใจว่าจะเติบโต 30% หรือปิดรายได้ไม่ต่ำกว่า 3,000 ล้านบาท จากปัจจุบันแพลตฟอร์มของพีเอสไอเข้าถึงประชากรไทยราว 10 ล้านครัวเรือน หรือครึ่งหนึ่งของประชากรแล้ว
นายสมพรกล่าวด้วยว่า ทิศทางของอุตสาหกรรมทีวีดาวเทียมมีการแข่งขันสูง แต่มองว่าแค่เพียงคอนเทนต์เดียว อย่างคอนเทนต์กีฬาไม่ใช่บทสรุปของการขับเคลื่อนธุรกิจได้จริง ดังนั้น สำหรับแพลตฟอร์มของพีเอสไอจึงมุ่งเน้นคอนเทนต์ที่ตอบสนองคนไทยให้มากที่สุด โดยเฉพาะในเรื่องของความสนุก บันเทิง รื่นเริง และครบรสทุกความต้องการ
การร่วมมือกับทางเวิร์คพ้อยท์ก็เพื่อผลิตคอนเทนต์ในรูปแบบดังกล่าวอยู่แล้ว บวกกับปัจจุบัน กสทช.จะมีการออกใบอนุญาตสำหรับผู้ประกอบการช่องรายการทางทีวีดาวเทียมอีกทางหนึ่ง จึงเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องที่จะช่วยให้แพลตฟอร์มของพีเอสไอเติบโตขึ้นต่อเนื่อง ทั้งนี้ มองว่าปีหน้าอาจจะได้เห็นการเปลี่ยนแปลงเกี่ยวกับช่องรายการอื่นๆ ที่อาจจะหายไปบ้าง แต่ช่องที่เกิดขึ้นใหม่ก็จะมีแต่ช่องคุณภาพเข้ามาทดแทน โดยแพลตฟอร์มของพีเอสไอปัจจุบันมีอยู่ 200 ช่อง
