ก.อุตฯ เล็งตั้งคณะทำงานดู กม.เคลียร์แตกแยก ส.อ.ท.หวังยุติสัปดาห์นี้

กระทรวงอุตสาหกรรมโดดร่วมวงเคลียร์ปัญหา “ส.อ.ท.” แพแตกเตรียมตั้งคณะทำงานศึกษากฎหมายการแต่งตั้งประธาน ส.อ.ท. หวังสรุปภายในสัปดาห์นี้ หลังทั้งสองฝ่ายยังยืนยันทำถูกต้องตามระเบียบทำให้ ส.อ.ท.กลายเป็นองค์กรที่มีผู้นำ 2 คนพร้อมกัน


นายประเสริฐ บุญชัยสุข รมว.อุตสาหกรรม เปิดเผยว่า นายพยุงศักดิ์ ชาติสุทธิผล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ได้หารือและเล่าปัญหาภายใน ส.อ.ท.ให้ฟังและขอให้กระทรวงอุตสาหกรรมดูเรื่องกฎหมายให้อีกทางหนึ่งในฐานะรักษาการตาม พ.ร.บ.ส.อ.ท.ปี 2530 ซึ่งตนได้สั่งให้นายพยุงศักดิ์ส่งประเด็นทั้งหมดมาให้พิจารณา และจะตั้งคณะทำงานขึ้นมาเพื่อพิจารณาว่าคณะกรรมการ ส.อ.ท.ที่มีการประชุมและเลือกนายสันติ วิลาสศักดานนท์ มาเป็นประธาน ส.อ.ท.แทนนั้นถูกต้องตามระเบียบหรือไม่ และจะพยายามเข้ามาเคลียร์ให้ได้ภายในสัปดาห์นี้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 27 พ.ย. 55 นายพยุงศักดิ์ ชาติสุทธิผล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) และสมาชิกผู้สนับสนุนเกือบ 20 คนซึ่งเป็นกลุ่มผู้ประกอบการขนาดใหญ่ทั้งเครือซิเมนต์ไทย หรือ SCG เครือ บมจ.ปตท. กลุ่มยานยนต์ กลุ่มไฟฟ้าอิเล็กทรอนิกส์ อาหาร เป็นต้น ได้เปิดแถลงข่าวด่วนเพื่อตอบโต้

นายพยุงศักดิ์กล่าวว่า ช่วงเช้าตนได้เข้าหารือกับนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง นายประเสริฐ บุญชัยสุข รมว.อุตสาหกรรม และนายวิฑูรย์ สิมะโชคดี ปลัดกระทรวงอุตฯ เพื่อชี้แจงถึงความขัดแย้งใน ส.อ.ท.ที่เกิดขึ้นที่รัฐสภา ซึ่งทุกท่านเข้าใจดีและขอให้ทุกอย่างเป็นไปตามกฎหมาย ดังนั้นจึงยืนยันที่จะทำหน้าที่ประธาน ส.อ.ท.ต่อไปจนครบวาระที่เหลือถึง มี.ค. 57

“ผมถือว่าการประชุมเมื่อวันที่ 26 พ.ย.เป็นการกระทำไม่ถูกต้องด้วยกฎหมาย และยืนยันว่าประธานมีอำนาจสั่งเลื่อนประชุม และวาระเดิมก็ไม่ได้มีการปลดประธานแต่อย่างใด และการจะปลดก็จะทำได้คือต้องอาศัยอำนาจสมาชิกสามัญที่มาประชุมเสียง 2 ใน 3 ในการปลดกรรมการซึ่งจะพ้นตำแหน่งประธานไปเลย หรืออำนาจ รมว.อุตสาหกรรมเพื่อเสนอ ครม.เห็นชอบ ซึ่งอำนาจคณะกรรมการ ส.อ.ท.มีแค่การแต่งตั้งไม่มีกฎหมายรองรับเรื่องการปลด” นายพยุงศักดิ์กล่าว

นายสมมาต ขุนเศษฐ เลขาธิการ ส.อ.ท.กล่าวว่า การประชุมเมื่อวันที่ 26 พ.ย. 55 ที่มีการโหวตเลือกนายสันติ วิลาสศักดานนท์มาเป็นประธาน ส.อ.ท.คนใหม่เป็นไปตามกฎหมาย ทางฝ่ายของนายพยุงศักดิ์เข้าใจอะไรผิดหรือไม่ เพราะตัวประธานและคณะกรรมการบริหาร (กบ.) นั้นเลือกโดยคณะกรรมการ ส.อ.ท. (กส.) ดังนั้น กส.ก็มีสิทธิที่จะโหวตออกโดยอาศัยเสียงกึ่งหนึ่งของ กส.ที่มี 348 คน ส่วนกรณีที่ระบุว่าจะต้องใช้จำนวนสมาชิกสามัญเสียง 2 ใน 3 นั้นเป็นการเลือกกรรมการ

“กรณีที่ระบุว่าเราจะต้องไปยื่นศาลให้วินิจฉัยรับรองการเลือกตั้งนั้น ผมจะไปยื่นศาลทำไมในเมื่อสิ่งที่ดำเนินการเป็นไปตามกฎหมาย” นายสมมาตกล่าว