ASTVผู้จัดการรายวัน - “ประเสริฐ “รมว.อุตฯ เร่งสรุปปัญหาแตกแยกส.อ.ท.ภายใน 1 สัปดาห์ให้คณะทำงานด้านกฏหมายกระทรวงชี้ขาดใครเป็นประธาน โดยยึดหลักกฏหมายและถึงเวลาต้องยอมรับ ขณะนี้ต้องให้มี 2 คนไปก่อน ขณะที่ฝั่งหนุน”สันติ”เข้าหารือผวาใบสั่งการเมืองอุ้ม”พยุงศักดิ์”หลังผู้ว่าราชการจังหวัดหลายแห่งสายตรงกรรมการให้หนุน
นายประเสริฐ บุญชัยสุข รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยภายหลังการหารือร่วมกับตัวแทนจากสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ในกลุ่มของนายสันติ วิลาสศักดานนท์ ว่า ได้สั่งการให้ส.อ.ท.ไปรวบรวมข้อมูล เอกสาร ข้อเท็จจริงที่เป็นลายลักษณ์อักษร เช่น การออกหนังสือเชิญประชุม เช่นเดียวกับที่นายพยุงศักดิ์ ชาติสุทธิผล ได้ส่งมาให้แล้วเพื่อให้ฝ่ายกฎหมายของกระทรวงอุตสาหกรรม ที่มีนายวิฑูรย์ สิมะโชคดี ปลัดกระทรวงฯ สรุปชี้ขาดภายใน 1 สัปดาห์โดยจะยึดพระราชบัญญัติส.อ.ท.
“ เราจะยึดกฏหมายเป็นหลักและเมื่อถึงเวลาทุกคนก็ควรจะเคารพกฏหมาย ส่วนใครเป็นประธานส.อ.ท.ที่ถูกต้องวันนี้คงต้องเป็นทั้ง 2 คนไปก่อนเพราะต่างคนต่างก็เชื่อว่าสิ่งที่ตนดำเนินการนั้นถูกต้องตามกฏหมายโดยอีกฝ่ายยืนยันว่าการประชุมคณะกรรมการส.อ.ท.เมื่อ 26 พ.ย.ถูกต้องแต่ฝ่ายหนึ่งก็บอกไม่ถูก”นายประเสริฐกล่าว
ทั้งนี้ปัญหาที่เกิดขึ้นกระทรวงอุตสาหกรรมพยายามที่จะเคลียร์ปัญหาให้ทุกอย่างกลับมาสู่ปกติให้เร็วสุดเพราะคณะรัฐมนตรีได้มอบหมายให้เร่งมาดูแลปัญหานี้และยังไม่มีเหตุผลเพียงพอที่ตนในฐานะกำกับพ.ร.บ.ส.อ.ท.จะใช้อำนาจสูงสุดไปปลดประธานส.อ.ท.คนใดคนหนึ่ง
นายธนิต โสรัตน์ กรรมการส.อ.ท. กล่าวว่า ขณะนี้ภายในส.อ.ท.เองก็มีความพยายามที่จะแก้ปัญหาร่วมกัน โดยเบื้องต้นทางฝั่งคุณพยุงศักดิ์ ได้ส่งคนเข้ามาเจรจากับคุณสันติแล้ว ซึ่งก็ถือเป็นเรื่องที่ดี และทางสมาชิกเองก็ต้องการให้มีการแก้ปัญหาอย่างเร็วที่สุด โดยขอให้มีการถอนกำลังตำรวจออกไปจากส.อ.ท. เพื่อที่จะได้เข้าไปพูดคุยกัน
เพราะตอนนี้ไม่สามารถเข้าส.อ.ท.ได้และการหารือกับรมว.อุตสาหกรรมครั้งนี้ก็เพื่อชี้แจงข้อมูลเช่นเดียวกับที่นายพยุงศักดิ์ให้ข้อมูลไปก่อนแล้ว
“ เราเองไม่ต้องการให้ดึงฝ่ายการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้องจนขยายวงเพราะเป็นเรื่องของเอกชน แต่ เนื่องจากขณะนี้ได้ทราบข้อมูลจากส.อ.ท.ในต่างจังหวัดว่าได้มีผู้ว่าราชการจังหวัดหลายแห่งมาขอให้สนับสนุนนายพยุงศักดิ์ และจริงๆ แล้วถ้าในวันที่ 26 พ.ย.นายพยุงศักดิ์ ยอมมาชี้แจงข้อมูลกับกรรมการ คงไม่เกิดปัญหานี้ขึ้น เพราะกรรมการก็ไม่ได้ตั้งใจจะมาถอดถอน แต่เมื่อไม่เข้าประชุมก็ถือว่ายอมรับความผิด รวมทั้งยังนำตำรวจเข้ามาในส.อ.ท.กรรมการจึงรับไม่ได้ และนายพยุงศักดิ์ ก็พูดเสมอว่าตำรวจถูกส่งมาจากสำนักนายรัฐมนตรี และได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาล ซึ่งเป็นการดึงการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้องตลอด” นายธนิต กล่าว
อย่างไรก็ตามยังได้ประสานงานที่จะเข้าพบน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีเพื่อขอเข้าชี้แจงเช่นกันซึ่งยืนยันว่าภาคธุรกิจขณะนี้จะต้องปฏิบัติตามกฏหมายเมื่อค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาทต่อวันทั่วประเทศประกาศใช้แล้วและจะมีผล 1 ม.ค. 56 แต่เอกชนเพียงต้องการให้รัฐหามาตรการมาดูแลผลกระทบโดยเฉพาะกับวิสาหกิจขนาดกลางและย่อมหรือเอสเอ็มอี
นายประเสริฐ บุญชัยสุข รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยภายหลังการหารือร่วมกับตัวแทนจากสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ในกลุ่มของนายสันติ วิลาสศักดานนท์ ว่า ได้สั่งการให้ส.อ.ท.ไปรวบรวมข้อมูล เอกสาร ข้อเท็จจริงที่เป็นลายลักษณ์อักษร เช่น การออกหนังสือเชิญประชุม เช่นเดียวกับที่นายพยุงศักดิ์ ชาติสุทธิผล ได้ส่งมาให้แล้วเพื่อให้ฝ่ายกฎหมายของกระทรวงอุตสาหกรรม ที่มีนายวิฑูรย์ สิมะโชคดี ปลัดกระทรวงฯ สรุปชี้ขาดภายใน 1 สัปดาห์โดยจะยึดพระราชบัญญัติส.อ.ท.
“ เราจะยึดกฏหมายเป็นหลักและเมื่อถึงเวลาทุกคนก็ควรจะเคารพกฏหมาย ส่วนใครเป็นประธานส.อ.ท.ที่ถูกต้องวันนี้คงต้องเป็นทั้ง 2 คนไปก่อนเพราะต่างคนต่างก็เชื่อว่าสิ่งที่ตนดำเนินการนั้นถูกต้องตามกฏหมายโดยอีกฝ่ายยืนยันว่าการประชุมคณะกรรมการส.อ.ท.เมื่อ 26 พ.ย.ถูกต้องแต่ฝ่ายหนึ่งก็บอกไม่ถูก”นายประเสริฐกล่าว
ทั้งนี้ปัญหาที่เกิดขึ้นกระทรวงอุตสาหกรรมพยายามที่จะเคลียร์ปัญหาให้ทุกอย่างกลับมาสู่ปกติให้เร็วสุดเพราะคณะรัฐมนตรีได้มอบหมายให้เร่งมาดูแลปัญหานี้และยังไม่มีเหตุผลเพียงพอที่ตนในฐานะกำกับพ.ร.บ.ส.อ.ท.จะใช้อำนาจสูงสุดไปปลดประธานส.อ.ท.คนใดคนหนึ่ง
นายธนิต โสรัตน์ กรรมการส.อ.ท. กล่าวว่า ขณะนี้ภายในส.อ.ท.เองก็มีความพยายามที่จะแก้ปัญหาร่วมกัน โดยเบื้องต้นทางฝั่งคุณพยุงศักดิ์ ได้ส่งคนเข้ามาเจรจากับคุณสันติแล้ว ซึ่งก็ถือเป็นเรื่องที่ดี และทางสมาชิกเองก็ต้องการให้มีการแก้ปัญหาอย่างเร็วที่สุด โดยขอให้มีการถอนกำลังตำรวจออกไปจากส.อ.ท. เพื่อที่จะได้เข้าไปพูดคุยกัน
เพราะตอนนี้ไม่สามารถเข้าส.อ.ท.ได้และการหารือกับรมว.อุตสาหกรรมครั้งนี้ก็เพื่อชี้แจงข้อมูลเช่นเดียวกับที่นายพยุงศักดิ์ให้ข้อมูลไปก่อนแล้ว
“ เราเองไม่ต้องการให้ดึงฝ่ายการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้องจนขยายวงเพราะเป็นเรื่องของเอกชน แต่ เนื่องจากขณะนี้ได้ทราบข้อมูลจากส.อ.ท.ในต่างจังหวัดว่าได้มีผู้ว่าราชการจังหวัดหลายแห่งมาขอให้สนับสนุนนายพยุงศักดิ์ และจริงๆ แล้วถ้าในวันที่ 26 พ.ย.นายพยุงศักดิ์ ยอมมาชี้แจงข้อมูลกับกรรมการ คงไม่เกิดปัญหานี้ขึ้น เพราะกรรมการก็ไม่ได้ตั้งใจจะมาถอดถอน แต่เมื่อไม่เข้าประชุมก็ถือว่ายอมรับความผิด รวมทั้งยังนำตำรวจเข้ามาในส.อ.ท.กรรมการจึงรับไม่ได้ และนายพยุงศักดิ์ ก็พูดเสมอว่าตำรวจถูกส่งมาจากสำนักนายรัฐมนตรี และได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาล ซึ่งเป็นการดึงการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้องตลอด” นายธนิต กล่าว
อย่างไรก็ตามยังได้ประสานงานที่จะเข้าพบน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีเพื่อขอเข้าชี้แจงเช่นกันซึ่งยืนยันว่าภาคธุรกิจขณะนี้จะต้องปฏิบัติตามกฏหมายเมื่อค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาทต่อวันทั่วประเทศประกาศใช้แล้วและจะมีผล 1 ม.ค. 56 แต่เอกชนเพียงต้องการให้รัฐหามาตรการมาดูแลผลกระทบโดยเฉพาะกับวิสาหกิจขนาดกลางและย่อมหรือเอสเอ็มอี
