xs
xsm
sm
md
lg

ปตท.ลุ้นเวียดนามอนุมัติ “โรงกลั่น-ปิโตรฯ” ชี้ผลศึกษา IRR 15%

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ปตท.เผยอยู่ระหว่างรอรัฐบาลเวียดนามชี้ขาดอนุมัติโครงการลงทุนตั้งโรงกลั่นและปิโตรเคมีครบวงจรมูลค่า 8.6 แสนล้านบาทที่จังหวัด Binh Dinh ชี้ผลศึกษาเบื้องต้นพบว่าโครงการนี้ให้ผลตอบแทนลงทุน (IRR) 15% มั่นใจหาเงินกู้และพันธมิตรร่วมทุนได้หากเวียดนามไฟเขียว แจง ปตท.ยังศึกษาความเป็นไปได้ในการลงทุนหลายประเทศในอาเซียน ชี้อินโดฯ และพม่ามีศักยภาพสูง

นายไพรินทร์ ชูโชติถาวร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงโครงการศึกษาความเป็นไปได้เบื้องต้นการตั้งโรงกลั่นน้ำมันและปิโตรเคมีครบวงจรในเวียดนามว่า ทางเวียดนามได้ว่าจ้างให้ ปตท.ศึกษาความเป็นไปได้ในการตั้งโรงกลั่น 6.6 แสนบาร์เรล/วัน และปิโตรเคมี ที่จังหวัด Binh Dinh เพื่อรับการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) โดย ปตท.ได้เสนอผลการศึกษาความเป็นไปได้เบื้องต้น (Pre-feasibility Study) ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาจากรัฐบาลเวียดนามว่าจะออกใบอนุญาตการลงทุนโครงการดังกล่าวหรือไม่

ตามผลการศึกษาให้ตั้งโรงกลั่นน้ำมันขนาด 6.6 แสนบาร์เรล/วัน เป็นขนาดกำลังการกลั่นใกล้เคียงโรงกลั่นใหม่ของสิงคโปร์ ซึ่งออกแบบเพื่อต่อยอดการผลิตโอเลฟินส์ 6.5 ล้านตัน/ปี และโรงอะโรเมติกส์ 3.7 ล้านตัน/ปี เงินลงทุน 2.87 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 8.6 แสนล้านบาท ผลตอบแทนการลงทุน (IRR) ประมาณ 14-15% โครงการนี้จะใช้วัตถุดิบคือ น้ำมันดิบนำเข้าจากต่างประเทศ

สำหรับตลาดรองรับผลิตภัณฑ์และน้ำมันส่วนใหญ่เป็นตลาดภายในประเทศ เนื่องจากเวียดนามมีเศรษฐกิจเติบโตสูงและมีประชากรถึง 80 กว่าล้านคนมากกว่าไทย มีการลงทุนหลั่งไหลไปเวียดนามมาก ทำให้ความต้องการใช้น้ำมันและพลาสติกเพิ่มสูงขึ้นตามไปด้วย ขณะที่ไทยมีประชากรน้อยกว่าเวียดนามแต่มีกำลังการกลั่นรวมกว่า 1 ล้านบาร์เรล/วัน แต่ปัจจุบันเวียดนามมีโรงกลั่นเพียงแห่งเดียว มีกำลังการกลั่นเพียง 1.4 แสนบาร์เรล/วัน

นายไพรินทร์กล่าวต่อไปว่า ส่วนข้อวิตกเกี่ยวกับปัญหาเงินเฟ้อและค่าเงินที่ผันผวนของเวียดนามนั้น เนื่องจากการบริหารประเทศเวียดนามมาจากส่วนกลาง ทำให้การแก้ไขปัญหาทำได้ง่าย ส่วน ปตท.จะเข้าไปถือหุ้นในโครงการดังกล่าวเท่าใดนั้นเป็นเรื่องที่ต้องพิจารณาต่อไป แต่ขณะนี้คงต้องรอดูท่าทีรัฐบาลเวียดนามว่าจะสนับสนุนโครงการดังกล่าวหรือไม่

นอกจากนี้ บริษัท PTT Energy Solutions ซึ่งเป็นบริษัทรับศึกษาความเป็นไปได้โครงการต่างๆ ในเครือ ปตท.นั้น ยังได้ศึกษาความเป็นไปได้โครงการลงทุนในหลายประเทศ ทั้งพม่า มาเลเซีย กัมพูชา และอินโดนีเซีย พบว่าอินโดนีเซียมีศักยภาพที่ดีเหมาะที่ ปตท.จะเข้าไปลงทุน เนื่องจากมีประชากรสูงถึง 250 ล้านคน โดย 40%ของประชากรยังไม่มีไฟฟ้าใช้ ส่วนการศึกษาความเป็นไปได้โครงการลงทุนในพม่าก็มีความคืบหน้าไปได้ด้วยดี

แหล่งข่าวจาก ปตท.กล่าวว่า หากโครงการดังกล่าวได้รับความเห็นชอบจากรัฐบาลเวียดนามเชื่อว่าจะไม่มีปัญหาการจัดหาเงินกู้สำหรับโครงการนี้ เนื่องจากเป็นโครงการที่มีความเป็นไปได้และน่าสนใจทำให้นักลงทุนต้องการมาลงทุนอยู่แล้ว โดย ปตท.เสนอทางจังหวัด Binh Dinh ว่าต้องการให้หน่วยงานรัฐเข้าร่วมทุนโครงการดังกล่าวด้วย พร้อมทั้งจะหาพันธมิตรอื่นๆ เข้าร่วมทุนเนื่องจากเป็นโครงการที่ใช้เงินลงทุนสูงมาก แต่ทั้งนี้คงขึ้นกับนโยบายรัฐบาลเวียดนามว่าจะสนับสนุนโครงการดังกล่าวหรือไม่

หากผลศึกษาดังกล่าวได้รับความเห็นชอบจะต้องใช้เวลาไม่น้อยกว่า 6-7 ปีในการดำเนินการ เพราะต้องมีการศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการอย่างละเอียด การออกแบบและประมูลการก่อสร้าง หาพันธมิตร และแหล่งเงินทุน สำหรับสถานที่ตั้งโรงกลั่นฯ นั้น พบว่า Binh Dinh มีความพร้อมด้านที่ดิน และติดทะเลน้ำลึก ทำให้สะดวกด้านลอจิสติกส์
กำลังโหลดความคิดเห็น