“เอสเซนส์” เมืองเบียร์รุกตลาดเมกอัพไทย

“แฟชั่นควีน” ส่งแบรนด์เอสเซนส์จากเยอรมนีลุยตลาดเครื่องสำอางในไทย ขยายทุกช่องทางห้างสรรพสินค้า ไฮเปอร์มาร์ท ร้านขายยา ปีหน้าเล็งขายผ่านออนไลน์ ลั่นปีแรกคาดโกยรายได้ 100 ล้านบาท

นางสาวอาทิตยา ดิถีเพ็ญ กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท แฟชั่นควีน จำกัด ผู้นำเข้าเครื่องสำอางแฟชั่นชั้นนำของไทย เปิดเผยว่า บริษัทประสบความสำเร็จด้านธุรกิจนำเข้าเครื่องสำอางมาตั้งแต่ปี 2552 เริ่มต้นจากการนำเข้าแบรนด์คิสมี (Kiss Me) จากประเทศญี่ปุ่น ล่าสุดบริษัทได้เปิดตัว เอสเซนส์ (essence) แบรนด์เครื่องสำอางชั้นนำจากประเทศเยอรมนี โดยเอสเซนส์ได้รับการยกย่องให้เป็นแบรนด์ชั้นนำของสินค้าประเภทเครื่องสำอางในยุโรป มีฐานการผลิตหลักอยู่ในประเทศแถบยุโรป มีวางจำหน่ายมากกว่า 60 ประเทศทั่วโลก

สำหรับกลุ่มเป้าหมายของเครื่องสำอางเอสเซนส์ในไทยจะเน้นทำตลาดไปที่กลุ่มลูกค้าผู้หญิงที่นำเทรนด์และรักแฟชั่น อายุระหว่าง 15-40 ปี ส่วนแผนกิจกรรมช่วงเปิดตัวนี้จะเน้นประชาสัมพันธ์แบรนด์เอสเซนส์ให้เป็นที่รู้จักมากขึ้นโดยผ่านสื่อโฆษณาต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นนิตยสารแฟชั่นชั้นนำของไทย ประชาสัมพันธ์ผ่านเว็บไซต์บริษัท และบนหน้าเฟซบุ๊ก แฟนเพจ www.facebook.com/essencethailand รวมถึงการจัดกิจกรรมร่วมกับภาพยนตร์ใหม่ๆ ล่าสุดร่วมกับสหมงคลฟิล์มอินเตอร์เนชั่นแนลจัดกิจกรรมเปิดฉายภาพยนตร์เรื่องแวมไพร์ ทไวไลท์ 4 เบรกกิ้ง ดอว์น ภาค 2 ด้วยเมกอัพคอลเลกชัน
“บริษัทพร้อมวางจำหน่ายเครื่องสำอางเอสเซนส์ผ่านโมเดิร์นเทรด เช่น วัตสัน บู๊ทส์ เทสโก้ โลตัส และห้างสรรพสินค้าชั้นนำ เช่น สยามพารากอน ดิเอ็มโพเรียม เดอะมอลล์ ดีพาร์ทเมนต์สโตร์ ร้านซูรูฮะ ร้านคาร์มาร์ท และร้านขายเครื่องสำอางชั้นนำทั่วไป และในปีหน้าบริษัทมีแผนจะเปิดช่องทางสั่งซื้อสินค้าผ่านทางออนไลน์เพื่อขยายการบริการให้ครอบคลุมและเพิ่มความสะดวกสบายให้แก่กลุ่มลูกค้ามากขึ้นด้วย” นางสาวอาทิตยากล่าว

สำหรับพฤติกรรมการเลือกซื้อเครื่องสำอางของสาวไทยในปัจจุบันยังคงให้ความสำคัญต่อความคุ้มค่า คุ้มราคา โดยปัจจัยหลักที่สำคัญในการเลือกซื้อเครื่องสำอางคือชื่อเสียงของแบรนด์ คุณภาพของสินค้า และราคาที่คุ้มค่า

“ทั้งนี้ จากการรวบรวมข้อมูลของกรมศุลกากรสรุปเรื่องตัวเลขการนำเข้าสินค้าประเภทเครื่องสำอาง ปี 2554 มีมูลค่ารวมประมาณ 16,674.72 ล้านบาท ขยายตัวเพิ่มขึ้นจากปี 2553 ประมาณ 12.40% แม้ว่าตลาดเครื่องสำอางในไทยโดยรวมจะมีการขยายตัวและมีการแข่งขันสูง แต่บริษัทเชื่อมั่นในเรื่องคุณภาพและชื่อเสียงของแบรนด์เอสเซนส์ที่ประสบความสำเร็จและได้รับการยอมรับจากกลุ่มผู้ใช้ทั้งในยุโรปและทั่วโลกมาแล้ว รวมทั้งความเป็นผู้นำทางด้านแฟชั่นแห่งสีสันและเมกอัพเทรนด์ ด้วยความหลากหลายของประเภทสินค้าที่สามารถตอบสนองทุกไลฟ์สไตล์ในราคาที่คุ้มค่า รวมถึงช่องทางการจัดจำหน่ายที่ครอบคลุมทั่วประเทศช่วยให้กลุ่มลูกค้าหรือผู้บริโภคสามารถเลือกซื้อได้อย่างสะดวก จากแผนการตลาดที่วางไว้คาดว่าจะช่วยผลักดันยอดขายเครื่องสำอางเอสเซนส์อยู่ที่ประมาณ 100 ล้านบาทสำหรับการเข้ามาทำตลาดในช่วงปีแรกนี้” นางสาวอาทิตยากล่าวสรุป