“แอลโฟน” สบช่องกระแสเกาหลีฟีเวอ์แรงไม่ตก คว้าสิทธิ์นำเข้าเครื่องสำอางโทนี่โมลี่จากเกาหลีทำตลาดในไทยรายเดียว ลั่น 3 ปีต้องผุดชอปครบ 30 แห่ง ปีนี้ประเดิม 10 สาขาก่อน หวังรายได้ 50 ล้านบาทปีแรก
นางสาวสุกัญญา ทองเลิศ ผู้อำนวยการ บริษัท แอลโฟน เอนเตอร์ไพร์ซ ไทยแลนด์ จำกัด ผู้นำเข้าผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางแบรนด์ “โทนี่โมลี่” (TONYMOLY) จากประเทศเกาหลีใต้ เปิดเผยว่า ตลาดเครื่องสำอางจากเกาหลียังมีช่องว่างและมีโอกาสเติบโตในไทยอีกมาก และกระแสความนิยมเกาหลีในไทยได้รับการตอบรับจากผู้บริโภคชาวไทยเป็นอย่างดี สังเกตได้จากมีแบรนด์ใหม่ๆ เข้ามาทำตลาดต่อเนื่องในช่วงหลายปีมานี้ และยังมีอีกหลายแบรนด์ที่เตรียมนำเข้ามาทำตลาดในไทยด้วย
จากแนวโน้มดังกล่าวทำให้บริษัทฯ ตัดสินใจตั้งบริษัทดังกล่าวขึ้นมาเพื่อนำเข้าเครื่องสำอางแบรนด์ โทนี่โมลี่ จากเกาหลีใต้เข้ามาทำตลาดในไทยเพียงรายเดียว โดยได้รับสิทธิ์นาน 3 ปี ต่ออีก 3 ปี เริ่มเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา
“เราใช้เวลานานกว่า 2 ปีในการศึกษาตลาด ตัวสินค้า รวมทั้งการติดต่อเจรจากับทางเจ้าของโทนี่โมลี่ที่เกาหลี ซึ่งในที่สุดทางเจ้าของก็ตัดสินใจมอบไลเซนส์ให้เราทำตลาดในไทยรายเดียวและเป็นประเทศล่าสุด จากก่อนหน้านี้ได้รุกตลาดเอเชียหลายแห่งแล้ว เช่นที่ญี่ปุ่น จีน อินโดนีเซีย มาเลเซีย บรูไน สิงคโปร์ เป็นต้น ทั้งๆ ที่แบรนด์โทนี่โมลี่เพิ่งกำเนิดขึ้นมาเมื่อ 6 ปีที่ผ่านมานี้เอง และทุกวันนี้ก็ติดอันดับที่สี่ในตลาดเครื่องสำอางในเกาหลีด้วย”
ทั้งนี้ แผนธุรกิจที่วางไว้ภายในช่วง 3 ปีจากนี้จะขยายร้านโทนี่โมลี่ให้ได้ 30 สาขา ใช้งบประมาณช่วงแรกมากกว่า 50 ล้านบาท แบ่งเป็นงบการตลาดประมาณ 15 ล้านบาท โดยในปีแรกนี้วางแผนเปิดสาขารวม 10 แห่ง พื้นที่เฉลี่ย 10-20 ตารางเมตร ลงทุนเฉลี่ย 3-4 ล้านบาทต่อสาขาไม่รวมสินค้า
ขณะนี้เปิดไปแล้ว 6 แห่ง คือที่เซ็นทรัลเวิลด์ เดอะมอลล์บางกะปิ และงามวงศ์วาน เทอร์มินัล21 แฟชั่นไอส์แลนด์ เซ็นเตอร์วัน อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ และเตรียมที่จะเปิดอีก 2 แห่งเร็วๆ นี้ คือที่อิมพีเรียลเวิลด์ สำโรง และที่ธัญญะปาร์ค ส่วนอีก 2 สาขาอยู่ระหว่างการหาทำเล
เป้าหมายยอดขายในปีแรกนี้ตั้งไว้ที่ 50 ล้านบาท โดยสินค้าทั้งหมดนำเข้ามาจากเกาหลีใต้ ซึ่งที่เกาหลีมีรวมประมาณ 400 กว่ารายการ และมีสินค้าใหม่ออกมาทุกไตรมาส ในช่วงแรกนี้บริษัทฯ นำเข้ามาครบทั้ง 4 กลุ่มสินค้า คือ 1. กลุ่มร่างกาย 2. กลุ่มสกินแคร์ 3. กลุ่มสีสัน (รวมยาทาเล็บ เครื่องสำอาง ลิปสติก เป็นต้น) และ 4. กลุ่มเกี่ยวกับเส้นผม ซึ่งขณะนี้นำสินค้าเข้ามาร่วม 150 รายการ เน้นหนักที่กลุ่มสกินแคร์มีประมาณ 100 กว่ารายการ ราคาสินค้าเฉลี่ยตั้งแต่ 100-4,000 บาท
กลุ่มลูกค้ามี 3 กลุ่มหลัก คือ กลุ่มวัยรุ่นที่ชื่นชอบบรรจุภัณฑ์น่ารัก สวย เก๋ กลุ่มคนที่มองหาผลิตภัณฑ์ที่ดูแลผิวพรรณ และกลุ่มลูกค้าที่ชอบสีสัน แฟชั่น และความทันสมัยของโทนี่โมลี่ ซึ่งช่วงที่ผ่านมาจะเป็นกลุ่มวัยรุ่นประมาณ 40% อัตราซื้อเฉลี่ย 500 บาทต่อครั้งขึ้นไป และกลุ่มคนทำงาน 60% อัตราการซื้อเฉลี่ย 1,000 บาทต่อครั้งขึ้นไป
จุดเด่นของโทนี่โมลี่คือ สินค้าที่มีราคาไม่สูง เจาะกลุ่มคนได้ทุกวัย และลูกเล่นของแพกเกจจิ้งที่บริษัทแม่มีทีมดีไซน์เอง ทำให้มีความแตกต่างและดึงดูดความสนใจได้ดี และเรายังใช้พรีเซ็นเตอร์ด้วย โดยในไทยแต่งตั้งศิลปินชื่อ นิวเคลียร์ เป็นพรีเซ็นเตอร์ ส่วนที่เกาหลีคือ ชงจุงกิ และกลุ่มศิลปินวงที-อารา
ด้านแผนการตลาดนั้น จะมีทั้งการทำกิจกรรม การทำเวิร์กชอป การทำโปรโมชัน การทำโคแบรนดิ้งกับสินค้าอื่นๆ ที่มีกลุ่มเป้าหมายเดียวกัน รวมทั้งระบบบัตรสมาชิกด้วย ตั้งเป้าสิ้นปีนี้จะมี 10,000 ราย โดยเมื่อซื้อสินค้าครบ 3,500 บาทรับสิทธิ์สมัครสมาชิกฟรีมีอายุนาน 2 ปี ได้รับสิทธิพิเศษ เช่น ส่วนลด 10% การเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆ เป็นต้น