“ซีเอ็มโอ” โชว์ผลงาน 9 เดือนแรกกวาดรายได้ 878 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 43.65% มั่นใจรายได้สิ้นปีแตะ 1.1 พันล้านบาท จ่อตั้งบริษัทลูกในอินโดนีเซีย
นายเสริมคุณ คุณาวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซีเอ็มโอ จำกัด (มหาชน) หรือ CMO กล่าวว่า ผลการดำเนินงานรอบ 9 เดือนของปี 2555 สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน บริษัทฯ มีรายได้รวม 878 ล้านบาท สูงกว่างวดเดียวกันกับปีก่อนที่มีรายได้ 610 ล้านบาท ขณะที่กำไรสุทธิอยู่ที่ 72 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 16.64 ล้านบาทจากงวดเดียวกันของปีที่แล้ว ซึ่งบริษัทมีกำไรสุทธิ 56 ล้านบาท คิดเป็นอัตราที่เพิ่มขึ้น 29.91%
ในส่วนของผลประกอบการไตรมาส 3 ของปี 2555 (กรกฎาคม-กันยายน 2555) บริษัทฯ มีรายได้ 186 ล้านบาท ลดลง 1 ล้านบาทจากปีก่อนซึ่งมีรายได้ 185 ล้านบาท ขณะที่ขาดทุนสุทธิอยู่ที่ 2.3 ล้านบาท ลดลงจากงวดเดียวกันของปีที่แล้ว ซึ่งบริษัทฯ มีขาดทุนสุทธิ 27 ล้านบาท
“รายได้รวมในช่วง 9 เดือนแรกของปีสูงกว่างวดเดียวกันของปีก่อนถึง 43% ทำให้มั่นใจว่าในปีนี้ยอดขายจะเป็นไปตามเป้าที่ตั้งไว้ 1,100 ล้านบาท ซึ่งขณะนี้บริษัทฯ ยังมีงานที่อยู่ระหว่างการประมูลอีกหลายโครงการทั้งในและต่างประเทศ โดยจะทยอยรับรู้รายได้ในไตรมาส 4 อีกกว่า 200 ล้านบาท ทั้งนี้ ในส่วนของผลงานในไตรมาส 3 ที่มีการปรับตัวลดลงบริษัทฯ มองว่าไม่ได้เป็นปัญหาแต่อย่างใด เพราะปกติใน Q3 จะเป็นช่วง Low Season ของธุรกิจอีเวนต์อยู่แล้ว แต่จะเป็นช่วงที่ทีมงานทำงานอย่างหนัก เพราะต้องติดต่อหาลูกค้า เนื่องจากในไตรมาสสุดท้ายต่อเนื่องจนถึงต้นปีเป็นช่วงที่ธุรกิจอีเวนต์คึกคัก สอดคล้องกับมีเทศกาลต่างๆ เช่น วันเฉลิมพระชนมพรรษาของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว, วันปีใหม่ ตลอดจนผู้ประกอบการของภาคเอกชนต่างก็แข่งกันออกแคมเปญส่งท้ายปี จัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย ซึ่งเป็นโอกาสเติบโตที่ดีของบริษัทฯ” นายเสริมคุณกล่าว
ทั้งนี้ ปัจจุบันสัดส่วนรายได้ของบริษัท แบ่งเป็นงานอีเวนต์ของภาคเอกชน 70% และเป็นโครงการของภาครัฐอีก 30% ซึ่งในส่วนของงานภาครัฐบริษัทฯ ยังเติบโตได้ดี โดยมีงานเข้ามาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในช่วงท้ายปี รัฐบาลมีความชัดเจนในการส่งเสริมการจัดงานมากขึ้น โดยเฉพาะงานประเภทนิทรรศการ ซึ่งบริษัทได้รับความไว้วางใจจากภาครัฐมาโดยตลอด
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร CMO กล่าวถึงแนวโน้มธุรกิจในช่วงไตรมาส 4 ว่าเป็นสัญญาณที่ดีของธุรกิจอีเวนต์ โดยอีเวนต์ในประเทศจะตื่นตัวเป็นอย่างมาก อาทิ งานเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่เข้าสู่ตลาด ซึ่งได้อานิสงส์มาจากนโยบายรถยนต์คันแรกของรัฐบาล และการเปิดตัวโทรศัพท์มือถือรุ่นใหม่ๆ ซึ่งเชื่อว่าจะมีการแข่งขันทางการตลาดสูงขึ้นเพื่อสอดรับกับข่าวที่ประเทศไทยมีระบบ 3G ใช้ในวงการสื่อสาร บวกกับ ภาคธุรกิจยังมีความตื่นตัวในเรื่องของ AEC ทำให้ผู้ประกอบการวางงบประมาณการลงทุนไว้มากขึ้น ขณะที่ในส่วนของ CMO ผลงานเป็นไปตามแผนเพราะได้รับงานล่วงหน้าไว้แล้ว บวกกับในช่วงไตรมาส 4 จะเป็นช่วง High Season ของธุรกิจอีเวนต์ ซึ่งทำให้มั่นใจว่ารายได้เข้าเป้าแน่นอน
“ในส่วนของความคืบหน้า เรื่องขยายงานสู่ตลาดต่างประเทศ ขณะนี้บริษัทฯ อยู่ระหว่างจัดตั้งบริษัทฯ ในประเทศอินโดนีเซียเพื่อทำโครงการใหญ่ โดยเชื่อว่าจะจัดตั้งสำเร็จ และทำรายได้ภายในปีหน้า ขณะเดียวกัน บริษัทฯ ยังเร่งหาพันธมิตรในอาเซียนเพื่อเป็นเครือข่ายในการขยายงานมากขึ้น ทั้งในประเทศพม่า, ประเทศกัมพูชา และประเทศเวียดนาม ทั้งนี้ บริษัทฯ ตั้งเป้าภายใน 3 ปีจะเพิ่มสัดส่วนตลาดต่างประเทศเป็น 20% ของรายได้ทั้งหมด จากปัจจุบันที่มีสัดส่วนอยู่ที่ 5%” นายเสริมคุณกล่าว
นายเสริมคุณ คุณาวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซีเอ็มโอ จำกัด (มหาชน) หรือ CMO กล่าวว่า ผลการดำเนินงานรอบ 9 เดือนของปี 2555 สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน บริษัทฯ มีรายได้รวม 878 ล้านบาท สูงกว่างวดเดียวกันกับปีก่อนที่มีรายได้ 610 ล้านบาท ขณะที่กำไรสุทธิอยู่ที่ 72 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 16.64 ล้านบาทจากงวดเดียวกันของปีที่แล้ว ซึ่งบริษัทมีกำไรสุทธิ 56 ล้านบาท คิดเป็นอัตราที่เพิ่มขึ้น 29.91%
ในส่วนของผลประกอบการไตรมาส 3 ของปี 2555 (กรกฎาคม-กันยายน 2555) บริษัทฯ มีรายได้ 186 ล้านบาท ลดลง 1 ล้านบาทจากปีก่อนซึ่งมีรายได้ 185 ล้านบาท ขณะที่ขาดทุนสุทธิอยู่ที่ 2.3 ล้านบาท ลดลงจากงวดเดียวกันของปีที่แล้ว ซึ่งบริษัทฯ มีขาดทุนสุทธิ 27 ล้านบาท
“รายได้รวมในช่วง 9 เดือนแรกของปีสูงกว่างวดเดียวกันของปีก่อนถึง 43% ทำให้มั่นใจว่าในปีนี้ยอดขายจะเป็นไปตามเป้าที่ตั้งไว้ 1,100 ล้านบาท ซึ่งขณะนี้บริษัทฯ ยังมีงานที่อยู่ระหว่างการประมูลอีกหลายโครงการทั้งในและต่างประเทศ โดยจะทยอยรับรู้รายได้ในไตรมาส 4 อีกกว่า 200 ล้านบาท ทั้งนี้ ในส่วนของผลงานในไตรมาส 3 ที่มีการปรับตัวลดลงบริษัทฯ มองว่าไม่ได้เป็นปัญหาแต่อย่างใด เพราะปกติใน Q3 จะเป็นช่วง Low Season ของธุรกิจอีเวนต์อยู่แล้ว แต่จะเป็นช่วงที่ทีมงานทำงานอย่างหนัก เพราะต้องติดต่อหาลูกค้า เนื่องจากในไตรมาสสุดท้ายต่อเนื่องจนถึงต้นปีเป็นช่วงที่ธุรกิจอีเวนต์คึกคัก สอดคล้องกับมีเทศกาลต่างๆ เช่น วันเฉลิมพระชนมพรรษาของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว, วันปีใหม่ ตลอดจนผู้ประกอบการของภาคเอกชนต่างก็แข่งกันออกแคมเปญส่งท้ายปี จัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย ซึ่งเป็นโอกาสเติบโตที่ดีของบริษัทฯ” นายเสริมคุณกล่าว
ทั้งนี้ ปัจจุบันสัดส่วนรายได้ของบริษัท แบ่งเป็นงานอีเวนต์ของภาคเอกชน 70% และเป็นโครงการของภาครัฐอีก 30% ซึ่งในส่วนของงานภาครัฐบริษัทฯ ยังเติบโตได้ดี โดยมีงานเข้ามาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในช่วงท้ายปี รัฐบาลมีความชัดเจนในการส่งเสริมการจัดงานมากขึ้น โดยเฉพาะงานประเภทนิทรรศการ ซึ่งบริษัทได้รับความไว้วางใจจากภาครัฐมาโดยตลอด
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร CMO กล่าวถึงแนวโน้มธุรกิจในช่วงไตรมาส 4 ว่าเป็นสัญญาณที่ดีของธุรกิจอีเวนต์ โดยอีเวนต์ในประเทศจะตื่นตัวเป็นอย่างมาก อาทิ งานเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่เข้าสู่ตลาด ซึ่งได้อานิสงส์มาจากนโยบายรถยนต์คันแรกของรัฐบาล และการเปิดตัวโทรศัพท์มือถือรุ่นใหม่ๆ ซึ่งเชื่อว่าจะมีการแข่งขันทางการตลาดสูงขึ้นเพื่อสอดรับกับข่าวที่ประเทศไทยมีระบบ 3G ใช้ในวงการสื่อสาร บวกกับ ภาคธุรกิจยังมีความตื่นตัวในเรื่องของ AEC ทำให้ผู้ประกอบการวางงบประมาณการลงทุนไว้มากขึ้น ขณะที่ในส่วนของ CMO ผลงานเป็นไปตามแผนเพราะได้รับงานล่วงหน้าไว้แล้ว บวกกับในช่วงไตรมาส 4 จะเป็นช่วง High Season ของธุรกิจอีเวนต์ ซึ่งทำให้มั่นใจว่ารายได้เข้าเป้าแน่นอน
“ในส่วนของความคืบหน้า เรื่องขยายงานสู่ตลาดต่างประเทศ ขณะนี้บริษัทฯ อยู่ระหว่างจัดตั้งบริษัทฯ ในประเทศอินโดนีเซียเพื่อทำโครงการใหญ่ โดยเชื่อว่าจะจัดตั้งสำเร็จ และทำรายได้ภายในปีหน้า ขณะเดียวกัน บริษัทฯ ยังเร่งหาพันธมิตรในอาเซียนเพื่อเป็นเครือข่ายในการขยายงานมากขึ้น ทั้งในประเทศพม่า, ประเทศกัมพูชา และประเทศเวียดนาม ทั้งนี้ บริษัทฯ ตั้งเป้าภายใน 3 ปีจะเพิ่มสัดส่วนตลาดต่างประเทศเป็น 20% ของรายได้ทั้งหมด จากปัจจุบันที่มีสัดส่วนอยู่ที่ 5%” นายเสริมคุณกล่าว