xs
xsm
sm
md
lg

CMO ดึง Thoth Media รุกธออนไลน์ครบวงจร

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“ซีเอ็มโอ” จับมือพันธมิตร “โธธ มีเดีย” รุกธุรกิจออนไลน์ เพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันในตลาด เสริมศักยภาพธุรกิจให้บริการครบวงจรยิ่งขึ้น ด้านบิ๊ก CMO เผยการร่วมมือครั้งนี้เป็นธุรกิจ Non-Event ทีเด่นชัดที่สุดในปีนี้ หวังสร้างรายได้คงที่ให้กิจการ เพื่อรองรับการขยายงานทั้งในประเทศ-ต่างประเทศ พร้อมตั้งเป้ารายได้เพิ่ม 30 ล้านต่อปี

นายเสริมคุณ คุณาวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซีเอ็มโอ จำกัด (มหาชน) หรือ CMO ผู้นำธุรกิจอีเวนต์ครบวงจรแห่งอาเซียน เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้ร่วมมือเป็นพันธมิตรทางธุรกิจกับบริษัท โธธ มีเดีย จำกัด ซึ่งเป็นบริษัท Online Marketing Agency and Solution ที่มีความเชี่ยวชาญ และให้บริการครบวงจรด้าน Online โดยความร่วมมือในครั้งนี้ CMO เข้ามาถือหุ้นของโธธ มีเดีย ในสัดส่วน 35% ของทุนจดทะเบียน

สำหรับความร่วมมือในครั้งนี้ เป็นการทำงานร่วมกันตามความถนัดของธุรกิจ ซึ่งจะทำให้บริษัทเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขัน และช่วยเพิ่มศักยภาพของบริษัทฯ ในการให้บริการที่ครอบคลุมมากขึ้น ด้วยการเสริมกลยุทธ์ด้าน Online Marketing ผนวกไปกับการคิดงานอีเวนต์เสนอให้ลูกค้า ทำให้ภาพของการให้บริการแบบ 360 องศา ชัดเจนยิ่งขึ้น

“การที่บริษัทฯ ร่วมธุรกิจกับ โธธ มีเดีย เพราะเรามองว่า โธธ มีเดีย นอกเหนือจากการเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านออนไลน์ ยังเป็นบริษัทฯ ที่มีจุดขายในเรื่องของการถ่ายทอดสดออนไลน์ (Live Streaming) ได้เป็นเวลาต่อเนื่อง โดยสัญญาณไม่ขัดข้อง ซึ่งตอบโจทย์ธุรกิจอีเวนต์ของเรา บวกกับเป็นบริษัทฯ ที่มีความถนัดในด้าน Mobile Applications ซึ่งเข้ามามีบทบาทในงานอีเวนต์ได้เป็นอย่างดี เช่น การลงทะเบียนหน้างาน เป็นต้น” นายเสริมคุณกล่าว

นายเสริมคุณกล่าวอีกว่า บริษัทฯ เข้าไปถือหุ้นในบริษัท โธธ มีเดีย เพราะเราเชื่อว่า การให้บริการด้าน Online Marketing เป็นเครื่องมือทางการตลาดที่สำคัญ ที่เข้ามามีบทบาทในการทำธุรกิจของทุกๆ องค์กรเป็นอย่างมาก บวกกับบริษัทฯ ต้องการที่จะขยายงานด้านอื่นๆ เพื่อให้ครบวงจรยิ่งขึ้น นอกเหนือจากธุรกิจอีเวนต์ ซึ่งการร่วมมือครั้งนี้ ถือเป็นธุรกิจ Non-Event ที่เห็นชัดเจนที่สุดในปีนี้ โดยบริษัทฯ คาดว่าจะสร้างรายได้ให้ประมาณ 12-15 ล้านบาท ในปีนี้ และตั้งเป้าในปี 2556 เป็นต้นไป น่าจะสร้างรายได้ให้บริษัท 30 ล้านบาทต่อปี

ทั้งนี้ ปัจจุบันบริษัทฯ มีบริษัทย่อย 4 แห่ง ประกอบด้วย 1.บริษัท พีเอ็ม เซ็นเตอร์ จำกัด ประกอบธุรกิจให้บริการเช่าเครื่องมือและอุปกรณ์สำหรับการจัดการแสดง และการนำเสนอ และบริการอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง โดยบริษัทถือหุ้น 99.99% 2.บริษัท ดิอายส์ จำกัด ให้บริการผลิตสื่อมัลติมีเดีย โดยบริษัทถือหุ้น 99.84% 3.บริษัทเอ็กซ์โป-ซิชั่น เทคโนโลยี จำกัด เป็นผู้ให้บริการรับเหมาติดตั้งอุปกรณ์ไฟฟ้า และระบบสาธารณูปโภคต่างๆ ในการจัดอีเวนต์ ซึ่งบริษัทถือหุ้น 40% และบริษัทที่ 4 คือ บริษัท โธธ มีเดีย จำกัด ผู้ให้บริการด้านการตลาดออนไลน์อย่างครบวงจร ทั้งนี้บริษัทถือหุ้นในสัดส่วน 35%

นายเสริมคุณ กล่าวเสริมว่า จากบริษัทย่อยทั้ง 4 บริษัท จะทำให้บริษัทสามารถ เป็นผู้ให้บริการด้านการจัดกิจกรรมทางการตลาดที่ครบวงจร อย่างไรก็ตาม การเปลี่ยนแปลงของโลก และเศรษฐกิจ ซึ่งส่งผลกระทบต่อผู้บริโภคโดยตรงทำให้ บริษัทยังต้องมองหาวิธีการสร้างสื่อประชาสัมพันธ์ และรูปแบบของกิจกรรมที่จะดึงกำลังซื้อของผู้บริโภคมาสู่ลูกค้าของบริษัท และสามารถรักษาศักยภาพของบริษัทไว้ได้ตามเป้าหมาย

ด้าน น.ส.พีรัชญาณ์ สิงหศิวานนท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท โธธ มีเดีย จำกัด ในฐานะผู้นำธุรกิจการตลาดออนไลน์ เปิดเผยว่า การร่วมธุรกิจกับ CMO จะช่วยเพิ่มศักยภาพของบริษัทฯ ให้ธุรกิจครบวงจรมากยิ่งขึ้น ส่งผลให้ยอดขายของทั้ง 2 บริษัทเติบโตอย่างต่อเนื่อง รองรับการขยายงานได้ทั้งใน และต่างประเทศ บวกกับการเป็นพันธมิตรกับบริษัทมหาชนก็ช่วยเสริมความน่าเชื่อถือ และได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าอีกด้วย

ทั้งนี้ บริษัท โธธ มีเดีย จำกัด ให้บริการด้านการตลาดออนไลน์แบบครบวงจร ตั้งแต่การทำกลยุทธ์ด้านการตลาดออนไลน์ให้แก่ลูกค้า การเลือกใช้เครื่องมือด้านออนไลน์ให้เหมาะสมกับงาน และยังมีทีมงานที่คอยสร้าง Communities ให้แก่ลูกค้าผ่านช่องทางต่างๆ เช่น Facebook, Twitter รวมไปถึงการให้บริการด้าน Mobile Applications เพื่อให้การตอบโจทย์ด้าน Marketing Online สมบูรณ์ที่สุดนอกจากนี้ โธธ มีเดีย ยังให้บริการด้าน IT Online Solution ซึ่งส่วนใหญ่ลูกค้าจะเป็นสินค้าด้านไอที เช่น Samsung, Acer เป็นต้น

“แนวโน้มของธุรกิจ Online marketing ในปีหน้าจะเริ่มมีการขยับตัวเพิ่มสูงขึ้น หลังจากที่งบประมาณในการลงสื่อโฆษณาออฟไลน์ได้ถูกโยกมาเป็นออนไลน์มากขึ้นเรื่อยๆ ใน 3 ปีที่ผ่านมา และรูปแบบในการโฆษณา Online จะเริ่มมีการปรับเปลี่ยนไปในแนวของการทำ Product ใหม่ๆ ที่ใช้ Innovation มากขึ้น เพราะเมื่อการใช้โฆษณาแบบดั้งเดิมเริ่มอิ่มตัว การปรับตัวของการทำการตลาดออนไลน์จะเริ่มเปลี่ยนรูปแบบมากขึ้น เหมือนหลายๆ กิจกรรมที่น่าสนใจในต่างประเทศ ซึ่งเราน่าจะได้เห็นมากขึ้นตั้งแต่กลางปีหน้าเป็นต้นไป” น.ส.พีรัชญาณ์ กล่าวทิ้งท้าย


กำลังโหลดความคิดเห็น