ASTVผู้จัดการรายวัน - ผู้จัดงานแฟร์ท่องเที่ยว มั่นใจกำลังซื้อคนไทย ด้านท่องเที่ยวยังเติบโตต่อเนื่อง แต่ต้องปรับวิธีการทำตลาดให้เจาะตรงถึงกลุ่มเป้าหมาย ล่าสุดงาน ไทยเที่ยวไทย ครั้งที่ 25 เงินสะพัดทะลุเป้าหมายแตะ 500 ล้านบาท ขณะที่งานเที่ยวเมืองไทยสบายกระเป๋า ประเมินรายได้เบื้องต้นกว่า 100 ล้านบาท เติบโตจากปีก่อน 15%
นายกฤตย์ พัตรปาล กรรมการผู้จัดการ บริษัท พี.เค. เอ็กซิบิชั่น แมนเนจเม้นท์ จำกัด ผู้จัดงานส่งเสริมการท่องเที่ยว ภายใต้ชื่อ “ไทยเที่ยวไทย” กล่าวว่า ผลจากการจัดงาน “ไทยเที่ยวไทย” ครั้งที่ 25 มางานเดียวเที่ยวได้ทั้งตระกูล เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ได้ผลตอบรับเกินคาดหมาย โดยตลอด 4 วันที่จัดงาน ประเมินว่ามีการจับจ่ายมากกว่า 500 ล้านบาท จากจำนวนผู้เข้าชมงานกว่า 4 แสนคน มากกว่าที่ตั้งเป้าหมายว่าจะมีเงินสะพัดราว 300 ล้านบาท โดยผู้ประกอบการที่มาร่วมออกบูท สามารถปรับขึ้นราคาสินค้าและบริการได้ กว่า 10% ซึ่งเป็นเพราะเป็นการขายเพื่อเดินทางเที่ยวในช่วงไฮซีซั่น นอกจากนั้นยังไม่เห็นภาพของการลดราคา แต่จะเน้นแถมคืนวันพักมากกว่า
อย่างไรก็ตาม ผลของการจัดงานครั้งนี้ สะท้อนได้ดีว่า กำลังซื้อของคนไทย ยังมีอยู่มาก เพียงแต่ต้องรู้จักวิธีการทำ ตลาดให้เข้าถึงลูกค้าเป้าหมาย พร้อมสร้างแคมเปญที่น่าสนใจมาดึงดูด โดยฤดูกาลไม่มีผลกับการตัดสินใจเดินทางท่องเที่ยวของคนไทยเท่ากับแคมเปญที่น่าสนใจ ซึ่งงาน“ไทยเที่ยวไทย” ที่จะจัดขึ้นปีหน้า ของบริษัท ขณะนี้มีผู้ประกอบการทอยอยจองบุทแล้วกว่า 80% ซึ่งบริษัทเตรียมศึกษาตลาดที่จะขยายงานออกไปจัดในต่างจังหวัดด้วย
นอกจากนั้นยังมองว่า การจัดงานส่งเสริมการท่องเที่ยวในรูปแบบงานแฟร์ จะไม่ได้รับผลกระทบจากเว็บออนไลน์ทราเวล เอเจน เพราะด้วยพฤติกรรมคนไทย ยังต้องการเห็นโปรดักส์จริงก่อนตัดสินใจซื้อ โดยจะศึกษาข้อมูลโรงแรมหรือสินค้าทางการท่องเที่ยวผ่านเว็บไซต์ หรือ โซเชียลเน็คเวิร์กต่างๆ ก่อนที่จะมาเดินชมของจริงภายในงานแฟร์ เพื่อตัดสินใจซื้อ
ดังนั้นผู้จัดงานอาจต้องปรับเปลี่ยนรูปแบบการประชาสัมพันธ์ หันมาใช้ช่องทางการตลาดออนไลน์ ลดต้นทุนที่จะไปทุ่มให้กับสื่อสิ่งพิมพ์หรือนิตยสาร และภายในการจัดงานครั้งนี้ ยังพบว่า โรงแรมระดับเชน มาร่วมออกบูท มากขึ้นเพราะเห็นกำลังซื้อของตลาดในประเทศที่จะสามารถชดเชยตลาดนักท่องเที่ยวต่างประเทศที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตเศรษฐกิจในยุโรปได้ และผลจากความสำเร็จครั้งนี้ บริษัท จะนำไปต่อยอดเพื่อโปรโมตงาน “ไทยเที่ยวไทย”ครั้งที่ 26 หนาวนี้อีกเยอะ ซึ่งกำหนดจัด 1-4 พ.ย. 55 ที่อิมแพคเมืองทองธานี
***สทน.เพิ่มงบการตลาด50%
ทางด้านนายยุทธชัย สุทรรัตนเวช นายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวภายในประเทศ(สทน.) กล่าวว่า ทางสมาคมกำหนดจัดงาน เที่ยวเทืองไทย สบายกระเป๋า ระหว่างวันที่ 27-30 กันยายน ปี 2555 ที่ ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ โดยมีผู้สนับสนุนหลัก คือ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท ) ,กระทรวงวัฒนธรรม , กองทัพบก และ ธนาคารกสิกรไทย
ทั้งนี้สมาคมมีความมั่นใจถึงกำลังซื้อและผู้คนที่จะเข้ามาเดินในงานครั้งนี้ เพราะเป็นการจัดในช่วงเวลาที่เหมาะสม ที่ครอบครัวเริ่มวางแผนเที่ยวเพราะใกล้ปิดเทอม และ ยังเป็นช่วงที่หมดกังวลเรื่องภัยธรรมชาติหากไม่มีสถานการณ์น้ำท่วมเหมือนปีก่อน โดยปีนี้ใช้งบประชาสัมพันธ์และการตลาดรวม 2.4 ล้านบาท เพิ่ม50%จากปีก่อนที่ใช้งบในส่วนนี้ 1.6 ล้านบาท โดยจะเน้นทำการตลาดอย่างละเอียด เจาะตรงถึงกลุ่มเป้าหมาย เช่น วันเริ่มทำงาน และ กลุ่มครอบครัวขนาดเล็ก ซึ่ง ทั้ง สองกลุ่มนี้ ยังนิยมที่จะเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศเป็นหลัก
“ไฮไลท์งานนี้ จะมีการเปิดตัวเรือสำราญ เส้นทาง สมุย-กรุงเทพฯ-สีหนุวิว เพราะมองว่าเป็นอีกหนึ่งทางเลือกให้คนไทยเดินทางท่องเที่ยว ซึ่งก่อนหน้านี้การท่องเที่ยวด้วยเรือสำราญยังไม่ค่อยมามำตลาดในประเทศไทยมากนัก ส่วนราคาแพกเกจทัวร์ปีนี้เริ่มต้นที่ 999 บาท เป็นเดย์ทริป พร้อมโปโมชั่น ซึ่งสินค้าและบริการภายในงานครบ 10,000 บาท แถม ทัวร์เดย์ทริป 1 วัน ตั้งเป้า 4วันของการจัดงาน มีการจับจ่ายไม่น้อยกว่า 100 ล้านบาทเติบโตจากปีก่อนราว 10-15%”
นายกฤตย์ พัตรปาล กรรมการผู้จัดการ บริษัท พี.เค. เอ็กซิบิชั่น แมนเนจเม้นท์ จำกัด ผู้จัดงานส่งเสริมการท่องเที่ยว ภายใต้ชื่อ “ไทยเที่ยวไทย” กล่าวว่า ผลจากการจัดงาน “ไทยเที่ยวไทย” ครั้งที่ 25 มางานเดียวเที่ยวได้ทั้งตระกูล เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ได้ผลตอบรับเกินคาดหมาย โดยตลอด 4 วันที่จัดงาน ประเมินว่ามีการจับจ่ายมากกว่า 500 ล้านบาท จากจำนวนผู้เข้าชมงานกว่า 4 แสนคน มากกว่าที่ตั้งเป้าหมายว่าจะมีเงินสะพัดราว 300 ล้านบาท โดยผู้ประกอบการที่มาร่วมออกบูท สามารถปรับขึ้นราคาสินค้าและบริการได้ กว่า 10% ซึ่งเป็นเพราะเป็นการขายเพื่อเดินทางเที่ยวในช่วงไฮซีซั่น นอกจากนั้นยังไม่เห็นภาพของการลดราคา แต่จะเน้นแถมคืนวันพักมากกว่า
อย่างไรก็ตาม ผลของการจัดงานครั้งนี้ สะท้อนได้ดีว่า กำลังซื้อของคนไทย ยังมีอยู่มาก เพียงแต่ต้องรู้จักวิธีการทำ ตลาดให้เข้าถึงลูกค้าเป้าหมาย พร้อมสร้างแคมเปญที่น่าสนใจมาดึงดูด โดยฤดูกาลไม่มีผลกับการตัดสินใจเดินทางท่องเที่ยวของคนไทยเท่ากับแคมเปญที่น่าสนใจ ซึ่งงาน“ไทยเที่ยวไทย” ที่จะจัดขึ้นปีหน้า ของบริษัท ขณะนี้มีผู้ประกอบการทอยอยจองบุทแล้วกว่า 80% ซึ่งบริษัทเตรียมศึกษาตลาดที่จะขยายงานออกไปจัดในต่างจังหวัดด้วย
นอกจากนั้นยังมองว่า การจัดงานส่งเสริมการท่องเที่ยวในรูปแบบงานแฟร์ จะไม่ได้รับผลกระทบจากเว็บออนไลน์ทราเวล เอเจน เพราะด้วยพฤติกรรมคนไทย ยังต้องการเห็นโปรดักส์จริงก่อนตัดสินใจซื้อ โดยจะศึกษาข้อมูลโรงแรมหรือสินค้าทางการท่องเที่ยวผ่านเว็บไซต์ หรือ โซเชียลเน็คเวิร์กต่างๆ ก่อนที่จะมาเดินชมของจริงภายในงานแฟร์ เพื่อตัดสินใจซื้อ
ดังนั้นผู้จัดงานอาจต้องปรับเปลี่ยนรูปแบบการประชาสัมพันธ์ หันมาใช้ช่องทางการตลาดออนไลน์ ลดต้นทุนที่จะไปทุ่มให้กับสื่อสิ่งพิมพ์หรือนิตยสาร และภายในการจัดงานครั้งนี้ ยังพบว่า โรงแรมระดับเชน มาร่วมออกบูท มากขึ้นเพราะเห็นกำลังซื้อของตลาดในประเทศที่จะสามารถชดเชยตลาดนักท่องเที่ยวต่างประเทศที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตเศรษฐกิจในยุโรปได้ และผลจากความสำเร็จครั้งนี้ บริษัท จะนำไปต่อยอดเพื่อโปรโมตงาน “ไทยเที่ยวไทย”ครั้งที่ 26 หนาวนี้อีกเยอะ ซึ่งกำหนดจัด 1-4 พ.ย. 55 ที่อิมแพคเมืองทองธานี
***สทน.เพิ่มงบการตลาด50%
ทางด้านนายยุทธชัย สุทรรัตนเวช นายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวภายในประเทศ(สทน.) กล่าวว่า ทางสมาคมกำหนดจัดงาน เที่ยวเทืองไทย สบายกระเป๋า ระหว่างวันที่ 27-30 กันยายน ปี 2555 ที่ ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ โดยมีผู้สนับสนุนหลัก คือ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท ) ,กระทรวงวัฒนธรรม , กองทัพบก และ ธนาคารกสิกรไทย
ทั้งนี้สมาคมมีความมั่นใจถึงกำลังซื้อและผู้คนที่จะเข้ามาเดินในงานครั้งนี้ เพราะเป็นการจัดในช่วงเวลาที่เหมาะสม ที่ครอบครัวเริ่มวางแผนเที่ยวเพราะใกล้ปิดเทอม และ ยังเป็นช่วงที่หมดกังวลเรื่องภัยธรรมชาติหากไม่มีสถานการณ์น้ำท่วมเหมือนปีก่อน โดยปีนี้ใช้งบประชาสัมพันธ์และการตลาดรวม 2.4 ล้านบาท เพิ่ม50%จากปีก่อนที่ใช้งบในส่วนนี้ 1.6 ล้านบาท โดยจะเน้นทำการตลาดอย่างละเอียด เจาะตรงถึงกลุ่มเป้าหมาย เช่น วันเริ่มทำงาน และ กลุ่มครอบครัวขนาดเล็ก ซึ่ง ทั้ง สองกลุ่มนี้ ยังนิยมที่จะเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศเป็นหลัก
“ไฮไลท์งานนี้ จะมีการเปิดตัวเรือสำราญ เส้นทาง สมุย-กรุงเทพฯ-สีหนุวิว เพราะมองว่าเป็นอีกหนึ่งทางเลือกให้คนไทยเดินทางท่องเที่ยว ซึ่งก่อนหน้านี้การท่องเที่ยวด้วยเรือสำราญยังไม่ค่อยมามำตลาดในประเทศไทยมากนัก ส่วนราคาแพกเกจทัวร์ปีนี้เริ่มต้นที่ 999 บาท เป็นเดย์ทริป พร้อมโปโมชั่น ซึ่งสินค้าและบริการภายในงานครบ 10,000 บาท แถม ทัวร์เดย์ทริป 1 วัน ตั้งเป้า 4วันของการจัดงาน มีการจับจ่ายไม่น้อยกว่า 100 ล้านบาทเติบโตจากปีก่อนราว 10-15%”