กลุ่มทุนจากจีนและฮ่องกงจีบเอเชียทีคลงจีน คาดว่าในปี 56 จะมีข้อสรุปที่ชัดเจน
นายณภัทร เจริญกุล ผู้อำนวยการโครงการ บริษัท ริเวอร์ไซด์ มาสเตอร์แพลน ในเครือกลุ่มไทยเจริญคอร์ปอเรชั่น หรือทีซีซี กรุ๊ป ผู้บริหารโครงการเอเชียทีค เดอะริเวอร์ฟร้อนท์ กล่าวว่า บริษัทได้รับการติดต่อจากกลุ่มทุนจากจีนและฮ่องกงเพื่อให้สร้างเอเชียทีค เดอะริเวอร์ฟร้อนท์ เพราะสนใจรูปแบบการก่อสร้างที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวผสมกับไทยและต่างชาติ โดยกำลังอยู่ระหว่างเจรจา คาดว่าในปี 56 จะมีข้อสรุปที่ชัดเจน โดยมองว่ารูปแบบการลงทุนจะเป็นแบบร่วมทุนกับบริษัทในท้องถิ่น ซึ่งเอเชียทีคจะเข้าไปอยู่ในโครงการอสังหาริมทรัพย์ขนาดใหญ่ที่มีพื้นที่รวมกว่า 10,000 ไร่
ส่วนโครงการเอเชียทีค เดอะริเวอร์ฟร้อนท์ เมืองไทยหลังเปิดให้บริการตั้งแต่เดือน เม.ย.ที่ผ่านมาได้รับการตอบรับอย่างต่อเนื่อง โดยมีนักท่องเที่ยวเข้ามาใช้บริการในวันธรรมดาอยู่ที่ 30,000 คนต่อวัน วันหยุดอยู่ที่ 50,000-60,000 คนต่อวัน สัดส่วนลูกค้าคนไทย 50% และต่างชาติ 50% โดยลูกค้าคนไทยจะมียอดใช้จ่ายต่อครั้งที่ 3,000-6,000 บาท ส่วนต่างชาติอยู่ที่ 5,000-10,000 บาท ล่าสุดมีแผนปรับราคาค่าเช่าขึ้นอีก 10-15% หลังเปิดครบ 1 ปี โดยปี 56 พร้อมลงทุนอีก 20-30 ล้านบาท ปรับปรุงพื้นที่ภายในต่อเนื่อง ส่วนความคืบหน้าแผนลงทุนระยะที่ 2 (เฟส 2) นั้น เตรียมสร้างโรงแรมที่เป็นรูปแบบบูติก มีขนาดห้องไม่เกิน 1,000 ห้อง คาดว่าจะเริ่มลงทุนได้ภายใน 1-2 ปีข้างหน้าเพื่อรองรับการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือเออีซี ที่จะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาในประเทศจำนวนมาก
ทั้งนี้ ในไตรมาสสุดท้ายได้ทุ่มงบ 40 ล้านบาทจัดกิจกรรมฉลองเทศกาลปีใหม่ในชื่องาน “เอเชียทีค เฟสติวัล” เริ่มจัดกิจกรรมตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย. 55-13 ม.ค. 56 ซึ่งกิจกรรมที่จะจัดมีทั้งการแสดงโชว์เดอะ เกรต บริติช เซอร์คัส จากประเทศอังกฤษ ระหว่างวันที่ 2-11 พ.ย.นี้, การจัดชิงช้าสวรรค์ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ในเดือน พ.ย., งานเทศกาลเอเชียทีค มิวสิค เฟส ในเดือน ธ.ค., เอเชียทีค เคานต์ดาวน์ ในคืนวันที่ 31 ธ.ค.นี้ และเตรียมจัดกิจกรรมอื่นๆ อีกมากมาย เชื่อมั่นว่าจะมีลูกค้าเข้ามาใช้บริการรวมได้ 5 ล้านคน ส่วนเป้าหมายรายได้รวมของบริษัทในปีแรกคาดว่าจะอยู่ที่ 160 ล้านบาท ส่วนในปี 56 คาดว่าจะมีรายได้เติบโตเท่าตัวอยู่ที่ 300 ล้านบาท
นายณภัทร เจริญกุล ผู้อำนวยการโครงการ บริษัท ริเวอร์ไซด์ มาสเตอร์แพลน ในเครือกลุ่มไทยเจริญคอร์ปอเรชั่น หรือทีซีซี กรุ๊ป ผู้บริหารโครงการเอเชียทีค เดอะริเวอร์ฟร้อนท์ กล่าวว่า บริษัทได้รับการติดต่อจากกลุ่มทุนจากจีนและฮ่องกงเพื่อให้สร้างเอเชียทีค เดอะริเวอร์ฟร้อนท์ เพราะสนใจรูปแบบการก่อสร้างที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวผสมกับไทยและต่างชาติ โดยกำลังอยู่ระหว่างเจรจา คาดว่าในปี 56 จะมีข้อสรุปที่ชัดเจน โดยมองว่ารูปแบบการลงทุนจะเป็นแบบร่วมทุนกับบริษัทในท้องถิ่น ซึ่งเอเชียทีคจะเข้าไปอยู่ในโครงการอสังหาริมทรัพย์ขนาดใหญ่ที่มีพื้นที่รวมกว่า 10,000 ไร่
ส่วนโครงการเอเชียทีค เดอะริเวอร์ฟร้อนท์ เมืองไทยหลังเปิดให้บริการตั้งแต่เดือน เม.ย.ที่ผ่านมาได้รับการตอบรับอย่างต่อเนื่อง โดยมีนักท่องเที่ยวเข้ามาใช้บริการในวันธรรมดาอยู่ที่ 30,000 คนต่อวัน วันหยุดอยู่ที่ 50,000-60,000 คนต่อวัน สัดส่วนลูกค้าคนไทย 50% และต่างชาติ 50% โดยลูกค้าคนไทยจะมียอดใช้จ่ายต่อครั้งที่ 3,000-6,000 บาท ส่วนต่างชาติอยู่ที่ 5,000-10,000 บาท ล่าสุดมีแผนปรับราคาค่าเช่าขึ้นอีก 10-15% หลังเปิดครบ 1 ปี โดยปี 56 พร้อมลงทุนอีก 20-30 ล้านบาท ปรับปรุงพื้นที่ภายในต่อเนื่อง ส่วนความคืบหน้าแผนลงทุนระยะที่ 2 (เฟส 2) นั้น เตรียมสร้างโรงแรมที่เป็นรูปแบบบูติก มีขนาดห้องไม่เกิน 1,000 ห้อง คาดว่าจะเริ่มลงทุนได้ภายใน 1-2 ปีข้างหน้าเพื่อรองรับการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือเออีซี ที่จะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาในประเทศจำนวนมาก
ทั้งนี้ ในไตรมาสสุดท้ายได้ทุ่มงบ 40 ล้านบาทจัดกิจกรรมฉลองเทศกาลปีใหม่ในชื่องาน “เอเชียทีค เฟสติวัล” เริ่มจัดกิจกรรมตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย. 55-13 ม.ค. 56 ซึ่งกิจกรรมที่จะจัดมีทั้งการแสดงโชว์เดอะ เกรต บริติช เซอร์คัส จากประเทศอังกฤษ ระหว่างวันที่ 2-11 พ.ย.นี้, การจัดชิงช้าสวรรค์ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ในเดือน พ.ย., งานเทศกาลเอเชียทีค มิวสิค เฟส ในเดือน ธ.ค., เอเชียทีค เคานต์ดาวน์ ในคืนวันที่ 31 ธ.ค.นี้ และเตรียมจัดกิจกรรมอื่นๆ อีกมากมาย เชื่อมั่นว่าจะมีลูกค้าเข้ามาใช้บริการรวมได้ 5 ล้านคน ส่วนเป้าหมายรายได้รวมของบริษัทในปีแรกคาดว่าจะอยู่ที่ 160 ล้านบาท ส่วนในปี 56 คาดว่าจะมีรายได้เติบโตเท่าตัวอยู่ที่ 300 ล้านบาท
