xs
xsm
sm
md
lg

“เอสดีไซน์” รุกแฟชั่น ตปท. แตกไลน์ “ค้าปลีก-รร.” 2 พันล้าน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เอส ดีไซน์สยายปีกแตกไลน์ธุรกิจใหม่ต่อยอดสินค้าเสื้อผ้าแฟชั่น อัดงบมากกว่า 2,000 ล้านบาทผุดคอมมูนิตีมอลล์ หัวหิน-โรงแรม ศูนย์ประชุมสัมมนา บนพื้นที่ 80 ไร่ รับการท่องเที่ยวบูมเออีซีเปิดปี 58 ชูโพซิชันนิง ศูนย์การค้าเดอะเวเนเซีย แหล่งท่องเที่ยว-ชอปปิ้งมอลล์ คาดเม็ดเงินสะพัดวันหยุด 50 ล้านบาท 7 ปีคุ้มทุน

นางสุทัศษา เหล่าหงษ์เกียรติ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แฟชั่น วิลเลจ ดีเวลอปเมนท์ จำกัด ผู้บริหารศูนย์การค้าเดอะเวเนเซีย หัวหิน เปิดเผยว่า จากการที่บริษัท เอส ดีไซน์ เทรดดิ้ง จำกัด ดำเนินธุรกิจเสื้อผ้าแฟชั่นมากว่า 20 ปี มีสินค้าทั้งหมด 5 แบรนด์ ได้แก่ EXT, haas และ Zein ฯลฯ โดยมีการเติบโต 20% ต่อปี หรือมีรายได้ 1,200 ล้านบาท

ล่าสุดเพื่อเป็นการต่อยอดและรองรับการดำเนินธุรกิจกลุ่มเสื้อผ้าแฟชั่น บริษัทได้แตกไลน์ธุรกิจไปสู่คอมมูนิตีมอลล์ภายใต้การทุ่มงบ 1,200 ล้านบาท เปิดตัวศูนย์การค้าเดอะเวเนเซียที่หัวหินขึ้นบนพื้นที่ 46 ไร่จากพื้นที่ทั้งหมด 80ไร่ ภายใต้การวางโพซิชันนิ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยว-ชอปปิ้งมอลล์สไตล์เวนิสแห่งแรกในประเทศไทย

ขณะที่พื้นที่อีก 34 ไร่ ซึ่งอยู่ในเฟส 2 บริษัทจะสร้างโรงแรม หรือศูนย์ประชุมสัมมนาระดับประเทศ คาดว่าจะเริ่มก่อสร้างขึ้นภายใน 2 ปีข้างหน้านี้ ภายใต้การทุ่มงบลงทุนไม่ต่ำกว่า 1,000 ล้านบาท ทั้งนี้เพื่อให้เป็นวันสตอปเซอร์วิส และรองรับการเปิดเขตประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนในปี 2558

สำหรับโครงการคอมมูนิตีมอลล์เดอะเวเนเซียจะได้เปิดอย่างเป็นทางการวันที่ 12 ธันวาคมนี้ โดยขณะนี้มีผู้เช่าร้านค้าแล้วกว่า 80% ประกอบด้วย 4 กลุ่มธุรกิจ คือ กลุ่มแฟชั่น เช่น ไอซีซี เอทูแซด กลุ่มอาหาร กลุ่มซูเปอร์มาร์เกต เช่น วิลล่า มาร์เก็ต และกลุ่มธนาคาร ซึ่งบริษัทได้เตรียมทุ่มงบการตลาด 50 ล้านบาทจัดกิจกรรม รวมถึงโฆษณาประชาสัมพันธ์

การขยายธุรกิจโดยวางโพซิชันนิ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยว-ชอปปิ้งมอลล์ โดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมสไตล์เวนิส เนื่องจากเชื่อว่าการท่องเที่ยวในประเทศไทยเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะหัวหินมีจำนวนนักท่องเที่ยว 10 ล้านคนต่อปี หรือโดยเฉลี่ยมีการมาเที่ยวหัวหิน 1-2 ครั้งต่อเดือน เป็นคนไทยสัดส่วน 70-80% ที่เหลืออีก 20-30% เป็นต่างประเทศ

และจากการสำรวจหากมีโครงการเดอะเวเนเซียจะมีคนมาเที่ยวหัวหินเพิ่มขึ้นเท่าตัว บริษัทตั้งเป้าหมายว่าการเปิดบริการในช่วงวันธรรมดาจะมีคนหมุนเวียนมา 2 หมื่นราย และในช่วงวันหยุด 5 หมื่นราย หรือมีเม็ดเงินสะพัด 50 ล้านบาท โดยคาดว่าจะคุ้มทุน 7 ปี

สำหรับกลุ่มธุรกิจเสื้อผ้าแฟชั่น ในปี 2556 บริษัทจะขยายธุรกิจไปในตลาดอาเซียนเพื่อรองรับการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนในปี 2558 โดยประเทศที่สนใจจะเข้าไปร่วมทุนกับพันธมิตรท้องถิ่นหรือขายแฟรนไชส์ ได้แก่ อินโดนีเซีย กัมพูชา มาเลเซีย และเวียดนาม ขณะที่แผนการขยายสาขาในประเทศโดยเฉลี่ย 10 สาขาต่อปี จากปัจจุบันมีสาขาทั้งหมด 70 สาขา

อย่างไรก็ตาม การขยายสาขาของบริษัทจะชะลอตัวลงเนื่องจากภาวะเศรษฐกิจที่ไม่ดีมากนัก และล่าสุดได้เปิดตัว 2 แบรนด์ใหม่ เช่น onboard ฯลฯ โดยผลประกอบการปีนี้ตั้งเป้าเติบโต 20%
กำลังโหลดความคิดเห็น