ยูนิลีเวอร์ชี้ตลาดสินค้าอุปโภคบริโภคไทยพุ่งโต 9% หลังกำลังการซื้อคนไทยขยายตัว แถมรับอานิสงส์ธุรกิจค้าปลีกผุดสาขาต่างจังหวัดเพียบ ตบเท้าปั้น 5-6 แบรนด์ใหม่ลงตลาด โชว์ผลประกอบการโต 14% เกินเป้าหมาย เดินหน้าประกาศแผนลงทุนอัด 600 ล้านบาทผุดศูนย์วิจัยและพัฒนาระดับภูมิภาค จ่อส่งโดฟสกินลุยรับลมหนาว
นายบาวเค่อ ราวเออร์ส ประธานกรรมการบริหาร กลุ่มบริษัท ยูนิลีเวอร์ ในประเทศไทย ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภค เปิดเผยว่า ผลประกอบการในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมานี้บริษัทเติบโต 14% เกินเป้าหมายที่วางไว้ เนื่องจากกำลังการซื้อของผู้บริโภคดี อัตราการบริโภคของผู้บริโภคจึงขยายตัวเพิ่มขึ้น โดยกลุ่มสินค้าที่มียอดขายเติบโต ได้แก่ กลุ่มผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผม ไอศกรีม และกลุ่มผลิตภัณฑ์ซักล้างสูตรน้ำ รวมทั้งการเติบโตของบริษัทยังมาจากการเปิดตัวสินค้าใหม่ 5-6 แบรนด์ จาก 19 แบรนด์เพิ่มเป็น 25 แบรนด์ ได้แก่ โดฟสกิน,โทนี่ แอนด์ กาย, โปร แม็กซ์, แม็กนั่ม และเทรซาเม่
สำหรับสภาพสินค้าอุปโภคบริโภคในช่วง 9 เดือน (ม.ค.-ก.ย.) มีอัตราการเติบโต 9% ซึ่งการเติบโตที่ดีกว่าที่คาดการณ์ไว้เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมาเติบโต 5-6% มาจากปัจจัยจากธุรกิจค้าปลีกของประเทศไทยขยายตัวสู่ภูมิภาคเพิ่มขึ้นและรวดเร็ว และเชื่อว่าในปีหน้าตลาดสินค้าอุปโภคบริโภคก็ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง
อย่างไรก็ตาม ได้ยกตัวอย่างกลุ่มผลิตภัณฑ์สินค้าอุปโภคบริโภคที่จะเติบโตอย่างต่อเนื่อง คือ กลุ่มผลิตภัณฑ์บำรุงเส้นผมหลังจากสระ และกลุ่มผลิตภัณฑ์ซักล้างประเภทสูตรน้ำ เนื่องจากพฤติกรรมของผู้บริโภคหันมาใช้ผลิตภัณฑ์ที่ตอบสนองความต้องการเพิ่มมากขึ้น ในขณะที่ตลาดแชมพูและครีมนวดผมเริ่มอิ่มตัว
พร้อมกันนี้ยังประกาศแผนลงทุนระยะยาวในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดเปิดศูนย์วิจัยและพัฒนาระดับภูมิภาคภายใต้การใช้งบ 600 ล้านบาทที่มีนบุรี เพื่อให้บุคลากรสามารถพัฒนาขีดความสามารถรองรับการเติบโตที่เกิดขึ้นในอนาคต ซึ่งจะเปิดอย่างเป็นทางการวันที่ 31 ต.ค.นี้ หลังจากก่อนหน้านี้บริษัทได้ลงทุน 2,600 ล้านบาทเพื่อสร้างสำนักงานใหญ่แห่งใหม่ที่ถนนพระราม 9
โดยบริษัทจะประเดิมเปิดตัวโดฟสกินในช่วงไตรมาสสี่ ได้แก่ ครีมอาบน้ำและโลชั่นดูแลผิว ซึ่งจะเป็นสินค้านวัตกรรมใหม่ออกมาเพื่อรองรับช่วงไฮซีซันหรือฤดูหนาวนี้
นายบาวเค่อกล่าวถึงการทำซีเอสอาร์ว่า ล่าสุดทุ่มงบ 80 ล้านบาทเปิดตัว “บ้านอยู่สุข 80 ปี ยูนิลีเวอร์ the movement” เริ่มต้นที่บ้าน ทำให้เมืองไทย คืนให้บ้านด้วยวิถีที่ยั่งยืน มอบบ้านอยู่สุข 80 หลังให้คนดีวิถียั่งยืนต้นแบบที่ยากไร้ พร้อมจุดประกายพลังขับเคลื่อนจิตอาสา ชวนคนไทยร่วมให้สิ่งดีๆ แก่เมืองไทยแบบไม่ต้องวิกฤต ด้วยกิจกรรมหนึ่งล้านการให้ ทำเพื่อเมืองไทย
ส่วนปีนี้บริษัทไม่มีแผนปรับราคาสินค้าเพิ่มขึ้น เนื่องจากการปรับขึ้นลงของราคาสินค้า จะขึ้นอยู่กับราคาน้ำมันที่ปรับเพิ่มขึ้น ซึ่งในช่วงที่ผ่านมาราคาน้ำมันไม่ได้ผกผันมากนัก ในขณะที่ค่าแรงงานที่ปรับเพิ่มขึ้น 300 บาทไม่มีผลกระทบต่อต้นทุนการผลิตของบริษัท
