“อีสท์วอเตอร์” การันตีปีหน้าไม่เกิดวิกฤตน้ำแล้งภาคตะวันออก หลังจากปริมาณน้ำฝนไหลลงสู่ 3 อ่างเก็บน้ำ จ.ระยอง คิดเป็นปริมาณ 255 ล้าน ลบ.ม.หรือ 90% ของความจุ เผยปีหน้าทุ่ม 5 พันล้านบาทลงทุน 2 โครงการใหญ่รองรับความต้องการใช้น้ำใน 10 ปีข้างหน้า
นายเจริญสุข วรพรรณโสภาค รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่สายปฏิบัติงาน บริษัท จัดการและพัฒนาทรัพยากรน้ำภาคตะวันออก จำกัด (มหาชน) (EASTW) เปิดเผยว่า ขณะนี้ปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำดอกกราย หนองปลาไหล และคลองใหญ่ ที่จังหวัดระยอง มีปริมาณ 255 ล้านลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.) หรือคิดเป็น 90% ของความจุอ่าง เนื่องจากในช่วงปลายเดือน ก.ย.-ต.ค.ที่ผ่านมามีปริมาณน้ำฝนในอ่างเก็บน้ำสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ แต่ก็ยังต่ำกว่าค่าเฉลี่ยเฝ้าระวังประมาณ 20 ล้าน ลบ.ม. อย่างไรก็ตาม มั่นใจว่าฤดูแล้งปีหน้าจะไม่เกิดวิกฤตขาดแคลนน้ำในภาคตะวันออกเหมือนปี 2548
แต่เพื่อความไม่ประมาท ทางบริษัทฯ มีแผนสำรองน้ำจากแม่น้ำระยองผันมายังอ่างเก็บน้ำประแสร์ในช่วงปลายปีนี้เพื่อให้ครบตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ เนื่องจากความต้องการใช้น้ำในภาคตะวันออกปี 2556 อยู่ที่ 300 ล้าน ลบ.ม. เพิ่มขึ้น 5-8% จากปีนี้ที่คาดว่ามีความต้องการใช้น้ำในภาคตะวันออกอยู่ที่ 290 ล้าน ลบ.ม. โตขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 8%
ก่อนหน้านี้ทางอีสท์วอเตอร์กังวลว่าปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำทั้ง 3 แห่ง คือ อ่างเก็บน้ำดอกกราย หนองปลาไหล และคลองใหญ่มีปริมาณเพียง 137.40 ล้าน ลบ.ม. หรือคิดเป็น 49.9% ของความจุอ่างเมื่อวันที่ 13 ก.ค. 2555 หากเกิดฝนตกล่าช้าออกไปจะทำให้ปีหน้ามีความเสี่ยงจะทำให้เกิดปัญหาน้ำขาดแคลนขึ้นเหมือนปี 2548 ที่สร้างความเสียหายแก่ภาคเกษตรไม่ต่ำกว่า 7 .6 พันล้านบาท และภาคอุตสาหกรรมกว่า 3 แสนล้านบาท ทำให้ต้องติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด
นายเจริญสุขกล่าวถึงแผนการลงทุนในปี 2556 ว่า อีสท์วอเตอร์จะใช้เงินลงทุนประมาณ 5,000 ล้านบาทใน 2โครงการใหญ่ คือ โครงการสร้างแหล่งสำรองน้ำในพื้นที่ทับมา จ.ระยอง มีปริมาตรเก็บน้ำ 20 ล้าน ลบ.ม. ใช้เงินลงทุน 2,700 ล้านบาท ขณะนี้อยู่ระหว่างการก่อสร้าง คาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2557
โครงการวางท่อส่งน้ำประแสร์-หนองปลาไหล ใช้เงินลงทุน 2,900 ล้านบาท ขณะนี้อยู่ระหว่างการจัดจ้างผู้รับเหมา คาดว่าจะเซ็นสัญญาได้เร็วๆ นี้ โครงการดังกล่าวจะแล้วเสร็จในปลายปี 2556 โดยทั้ง 2 โครงการนี้จะทำให้มีปริมาณน้ำเพิ่มขึ้น 60% จากปัจจุบัน รองรับความต้องการใช้น้ำภาคตะวันออกที่เพิ่มขึ้นใน 10 ปีข้างหน้า
สำหรับแหล่งเงินทุนที่ใช้ในการลงทุนนั้นจะมาจากกระแสเงินสดจากการดำเนินงานและการกู้ยืม มีผลทำให้อัตราหนี้สินต่อทุน (D/E) เพิ่มขึ้นจาก 0.6 เท่าเป็น 1.20 เท่า ส่วนจะออกหุ้นกู้หรือไม่นั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษา แต่ไม่มีแผนเพิ่มทุนจดทะเบียนแต่อย่างใด