โฆษกเพื่อไทยตั้งแง่เงินบริจาคช่วยน้ำท่วมผ่าน ปชป. ทำไมไม่ส่งตรงถึงรัฐบาล สงสัย ปชป.รับเงินบริจาคมีอีกหลายบริษัท พร้อมแฉนักกฎหมาย ปชป.อักษรย่อ “ว.” ท้วงเสี่ยงถูกยุบพรรค
วันนี้ (24 พ.ค.) นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่พรรคประชาธิปัตย์รับเงินบริจาค 1 ล้านบาทจากบริษัท อีสท์วอเตอร์ ซึ่งเป็นบริษัทที่รัฐบาลถือหุ้นเกินครึ่ง แล้วนำส่งต่อให้กองทุนช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย สำนักนายกรัฐมนตรี เมื่อปี 2553 ว่า ส่วนตัวเห็นการชี้แจงของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ แล้วต้องบอกว่าฟังไม่ขึ้น เพราะการบริจาคเงินดังกล่าวน่าจะทำโดยตรงไปยังรัฐบาล ไม่จำเป็นต้องผ่านพรรคประชาธิปัตย์ และทำไมนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ส.ส.สุราษฎร์ธานี ต้องไปเปิดบัญชีช่วยเหลือผู้ประสบภัยในนามพรรคประชาธิปัตย์เป็นการเฉพาะ ซึ่งการโอนเงินเข้าบัญชีที่พรรคประชาธิปัตย์เปิดขึ้นอาจไม่ได้มีเพียงบริษัท อีสท์วอเตอร์ เพียงบริษัทเดียว น่าจะมีมากกว่านั้นหรือไม่ วันนี้เราตั้งข้อสงสัยว่าอาจมีการอ้างช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยแล้วนำเงินไปใช้ประโยชน์อื่นใด หรือ เป็นลักษณะวัดครึ่งกรรมการครึ่งหรือไม่ โดยจะเดินหน้าตรวจสอบเรื่องนี้อย่างใกล้ชิดต่อไปว่ามีบริษัทที่เกี่ยวข้องกี่บริษัท และยอดเงินที่ผ่านบัญชีทั้งหมดเป็นจำนวนเท่าไหร่ ตลอดจนส่งยอดให้รัฐบาลครบหรือไม่ ในเบื้องต้นอยากให้นายอภิสิทธิ์นำหลักฐานมาชี้แจงเรื่องเหล่านี้ด้วย
นายพร้อมพงศ์กล่าวว่า ส่วนตัวทราบว่าเมื่อมีการดำเนินการเรื่องนี้ นักกฎหมายภายในพรรคประชาธิปัตย์อักษรย่อ ว.ได้ท้วงติงว่าการรับเงินจากบริษัทดังกล่าวเข้าบัญชีพรรคนั้นสุ่มเสี่ยงผิดกฎหมายอาจถึงขึ้นยุบพรรค จนต้องทำการประชุมหาทางออก และนำเงินไปบริจาคให้สำนักนายกรัฐมนตรีในที่สุด หลังเก็บไว้เดือนเศษ อยากถามว่าเรื่องนี้จริงหรือไม่
“เรื่องนี้น่าสงสัย เพราะความซับซ้อนซ่อนเงื่อน ไม่ตรงไปตรงมา มีนัยแอบแฝง สังคมกำลังข้องใจพฤติกรรมของพรรคประชาธิปัตย์ เชื่อว่าเรื่องนี้จะทำให้พรรคประชาธิปัตย์ต้องยุ่งเหยิงเป็นลิงแก้แห กรมสอบสวนคดีพิเศษกำลังจะสอบต่อ ขณะที่นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ก็ได้ทำการร้องต่อ กกต.ให้ยุบพรรคประชาธิปัตย์ เรื่องนี้กลายเป็นเรื่องของปลาวาฬเกยตื้นโดยแท้” นายพร้อมพงศ์กล่าว