xs
xsm
sm
md
lg

ชี้ บ.พลังงานจีนทำ M&A เกิน 50% ของโลก

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ฟิทช์ เรทติ้งส์ชี้บริษัทพลังงานในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกรุกทำ M&A ในช่วง 2-3 ปีนี้เพื่อเพิ่มปริมาณสำรองสนองความต้องการพลังงานในประเทศ แค่จีนเพียงรายเดียวก็กวาดไปครึ่งหนึ่งของมูลค่า M&A เฉลี่ยปีละ 1.2-1.8 แสนล้านเหรียญ โดยอันดับเครดิตไม่เปลี่ยน เหตุฐานะการเงินแข็งแกร่งและรัฐสนับสนุน

นายเลิศชัย กอเจริญรัตนกุล หัวหน้าจัดอันดับเครดิตภาคอุตสาหกรรมไทย บริษัท ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า บริษัทในหมวดพลังงานของไทยและภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกพบว่ามีการเข้าซื้อกิจการ (M&A) ด้านน้ำมันและก๊าซธรรมชาติเพิ่มสูงขึ้นในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา เพื่อรองรับความต้องการใช้พลังงานที่เพิ่มสูงขึ้นโดยเฉพาะจีน และอินเดีย เนื่องจากปริมาณสำรองน้ำมันและก๊าซฯ ในภูมิภาคนี้ถือว่าน้อยที่สุดเมื่อเทียบกับภูมิภาคอื่นๆ ของโลก

นอกจากนี้ เมื่อเกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหวและสึนามิจนทำให้เกิดการรั่วไหลของสารกัมมันตภาพรังสีจากเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ฟูกุชิมาเมื่อปี 2554 ทำให้รัฐบาลญี่ปุ่นมีนโยบายที่จะยกเลิกโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ ส่งผลให้บริษัทพลังงานในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกต้องปรับแผนการลงทุนและเข้าซื้อกิจการด้านพลังงานมากขึ้น โดยส่วนใหญ่มีการซื้อแหล่งปิโตรเลียมแบบ Unconventional Reserves เพื่อจะเรียนรู้เทคโนโลยีใหม่ เช่น แหล่งปิโตรเลียมน้ำลึก ออยล์แซนด์ เชลล์แก๊ส เป็นต้น ซึ่งในระยะแรกจะได้ผลตอบแทนค่อนข้างต่ำ

ขณะที่มูลค่าการซื้อกิจการด้านพลังงานของโลกในแต่ละปีสูงถึง 1.2-1.8 แสนล้านเหรียญสหรัฐ พบว่าบริษัทพลังงานของจีนทำธุรกรรมซื้อกิจการ M&A สูงสุดคิดเป็น 50%ของมูลค่ารวม รองลงมาคือออสเตรเลีย อินเดีย ญี่ปุ่น เกาหลี มาเลเซีย และไทย คิดเป็น 4% ของมูลค่ารวม

ซึ่งการทำธุรกรรมดังกล่าวจะใช้เงินลงทุนค่อนข้างสูงย่อมส่งผลกดดันต่อความเข้มแข็งทางการเงินของบริษัทและการจัดอันดับเครดิตด้วย แต่เนื่องจากบริษัทพลังงานเหล่านี้ส่วนใหญ่เป็นรัฐวิสาหกิจที่มีความสัมพันธ์ที่ดีกับรัฐบาลของประเทศ ทำให้ไม่ได้รับผลกระทบจากการจัดอันดับเครดิตแต่อย่างใด เช่น Sinopec, Cnooc ของจีน ปิโตรนาส ประเทศมาเลเซีย หรือแม้แต่ ปตท. ที่มีการซื้อกิจการทั้งออยล์แซนด์ และ Cove Energy และค่าใช้จ่ายในการลงทุนค่อนข้างสูง แต่เครดิต ปตท.ไม่เปลี่ยน เนื่องจากได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลทำให้มีการปรับอันดับเครดิตขึ้น 1 อันดับจากอันดับเครดิตเมื่อพิจารณาตัวบริษัทเพียงอย่างเดียว

“2-3 ปีที่ผ่านมาบริษัทน้ำมันและก๊าซฯ ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกมีการทำ M&A มากขึ้น รวมทั้งปรับแผนขยายการลงทุนสูงขึ้น แต่ก็ไม่กระทบต่ออันดับเครดิตเรตติ้ง เนื่องจากมีฐานะการเงินแข็งแกร่ง และมีความสัมพันธ์ที่ดีกับรัฐบาลทำให้มีอันดับเครดิตเรตติ้งเท่ากับเครดิตของประเทศ”

นายไพรินทร์ ชูโชติถาวร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า กลุ่ม ปตท.ได้มีการเข้าไปลงทุนในอาเซียนหลายประเทศ โดยเฉพาะพม่าที่มีการเข้าไปลงทุนมานานนับ 20 ปีซึ่งประสบความสำเร็จด้วยดี ดังนั้น การเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) จะช่วยขยายโอกาสการทำธุรกิจมากยิ่งขึ้น
กำลังโหลดความคิดเห็น