xs
xsm
sm
md
lg

บอส “ไดเมทฯ” แจงราคาหุ้นขยับ เหตุต่างชาติสน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ผู้บริหาร “ไดเมท” ชี้ต่างชาติแห่สนใจถือหุ้นเพิ่มเป็น 10% พร้อมแจงราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้น จากนักลงทุน มั่นใจแนวโน้มผลประกอบการเติบโตสูง ยอมรับราคาหุ้นปัจจัยสูงกว่าปัจจัยพื้นฐาน มั่นใจปีนี้รายได้รวม 430 ล้านบาท ฟื้นกำไรแน่ ขณะวานนี้หุ้น DIMET ซื้อขายหนาแน่นราคาเกือบซิลลิ่ง

สำหรับความเคลื่อนไหวราคาหุ้น ไดเมท (สยาม) จำกัด (มหาชน) หรือ DIMET วานนี้ (10 ต.ค.) ปรับตัวเพิ่มขึ้นแรงในช่วงบ่าย จนเกือบถึงเพดาน (ซิลลิ่ง) โดยกลับมาปิดตลาดที่ระดับ 2.24 บาทต่อหุ้น หรือเพิ่มขึ้น 0.24 บาท หรือ 12% มูลค่าซื้อขาย 150.87 ล้านบาท

นายสุรพล รุจิกาญจนา กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไดเมท (สยาม) จำกัด (มหาชน) หรือ DIMET ผู้ดำเนินธุรกิจผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์สีคุณภาพสูงสำหรับใช้ทาในงานอุตสาหกรรม งานโครงเหล็ก รวมทั้งสีทาภายใน-ภายนอกอาคาร สีเคลือบไม้ สีทาเฟอร์นิเจอร์ เปิดเผยว่า สัดส่วนการถือหุ้นของนักลงทุนต่างประเทศ ที่ลงทุนในหุ้นของบริษัทเพิ่มขึ้นรวมอยู่ที่ประมาณ 10% โดยผ่านบริษัท ไทยเอ็นวีดีอาร์ จำกัด และสถาบันการเงิน ซึ่งส่วนตัวไม่ทราบว่าตัวตนที่แท้จริงเป็นใคร โดยการที่ราคาหุ้นของบริษัทปรับตัวเพิ่มขึ้นในช่วงที่ผ่านมานั้นเป็นเพราะนักลงทุนมั่นใจในหุ้นของบริษัทจากแนวโน้มการเติบโตของรายได้ และการดำเนินงานที่โปร่งใส

“ปัจจุบัน ผมและครอบครัวถือหุ้นรวมกัน 21% ซึ่งส่วนตัวไม่มีนโยบายที่จะมีการขายหุ้นออก และตอนนี้ไม่มีใครมาเจรจาในการซื้อกิจการของเรา โดยส่วนตัวยังคงบริหารต่อไป และยังไม่คิดที่จะมีการแตกไลน์ธุรกิจ หรือทำธุรกิจอื่นๆ เพิ่ม เพราะเรามุ่งให้บริษัทเติบโตเพิ่มขึ้น” นายสุรพลกล่าว

ทั้งนี้ ปัจจุบันบริษัทอยู่ระหว่างเจรจาในการวางสินค้าของบริษัทจำหน่ายในโมเดิร์นเทรด เพิ่มขึ้นอีก 1 ราย ปัจจุบัน ที่ขายผ่านโฮมโปร คาดว่าจะสรุป และเริ่มจำหน่ายสาขาแรกได้เดือนพฤศจิกายนนี้ และภายในงวดบัญชีปี 56 (ก.ค.55-มิ.ย.56) จะวางจำหน่ายได้ 10 สาขา และงวดปีนี้จะเพิ่มการวางจำหน่ายในสาขาโฮมโปร อีก 5 แห่ง จากปัจจุบันที่วางขายแล้ว 5 แห่ง ทำให้งวดบัญชีปี 56 บริษัทจะมีการวางจำหน่ายสินค้าผ่านโมเดิร์นเทรดรวม 20 สาขา โดยคาดว่าจะมียอดขายต่อสาขาที่ 5 แสนบาทต่อเดือน หรือมีรายได้ประมาณ 100-120 ล้านบาท ที่มาจากการจำหน่ายผ่านโมเดิร์นเทรดงวดบัญชีปี 56

นอกจากนี้ บริษัทจะทำการตลาดเชิงรุกมากขึ้นทั้งในกลุ่มลูกค้าสีอาคาร สีทาไม้ และสีกันสนิม พร้อมกับลดต้นทุน โดยส่วนตัวเชื่อว่ากลุ่มลูกค้าโรงแรมปีนี้จะติบโตสูงที่สุด เพราะจำนวนนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้นทำให้มีการขยายโรงแรมมากขึ้น ขณะที่กลุ่มลูกค้าอสังหาริมทรัพย์ และลูกค้าโครงการ และผู้อยู่อาศัยยังมีการเติบโต

นายสุรพล กล่าวว่า บริษัทคาดว่าผลประกอบการไตรมาส 1/56 (ก.ค.55-ก.ย.55) จะใกล้เคียงกับปีก่อน ที่มีรายได้รวม 97 ล้านบาท ซึ่งถือว่าต่ำกว่าเป้าหมายที่บริษัทประเมินไว้ เพราะเป็นฤดูฝน ทำให้มีการชะลอการใช้สีออกไป แต่เชื่อว่าไตรมาสต่อไปจะออกมาดี จากแผนการทำการตลาด และเพิ่มช่องทางการจำหน่ายสินค้า โดยตั้งเป้ารายได้ปีนี้เติบโต 10% หรือมีรายได้ที่ 430 ล้านบท จากงวดปีก่อนที่มีรายได้ 390 ล้านบาท (ก.ค.54-มิ.ย.55) และบริษัทคาดว่าปีนี้จะสามารถพลิกกลับมามีกำไรสุทธิได้ หลังจากปิดงวดบัญชี

ทั้งนี้ จากที่บริษัทจะมีการออกเสนอขายใบสำคัญแสดงสิทธิ (วอร์แรนต์) 90 ล้านบาท ที่จะเสนอขายวันที่ 2 พฤศจิกายนนี้ โดยมีอัตราใช้สิทธิ 1 หุ้นเดิมต่อ 1 หุ้นใหม่ ราคาใช้สิทธิ 0.50 บาท อายุ 5 ปี โดยนักลงทุนสามารถใช้สิทธิได้หากถึง 2 ปี โดยหากมีนักลงทุนใช้สิทธิเต็มจำนวนจะได้เงินรวม 45 ล้านบาท ซึ่งบริษัทจะนำไปใช้ในการขยายกำลังการผลิต

กำลังโหลดความคิดเห็น