xs
xsm
sm
md
lg

“โต้ง” เร่งสางภาพลบโครงการ “จำนำข้าว” พร้อมเดินหน้ากู้เครดิตเรตติ้งของประเทศ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“โต้ง” แจง “ฟิทช์ เรทติ้งส์” กังขา “จำนำข้าว” ส่อหมกปัญหาทุจริต โชยกลิ่นขายสต๊อกลม ยอมรับอาจมีปัญหาบ้างแต่เป็นโครงการที่ดี รัฐบาลเร่งเข้าจัดการปัญหาได้แน่นอนเพื่อให้เกิดความน่าเชื่อถือต่อเวทีโลก และเสถียรภาพของรัฐบาล

นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวถึงโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาล โดยยืนยันว่าเป็นโครงการที่ดีมากโครงการหนึ่ง แม้จะถูกหลายฝ่ายแสดงความเห็นคัดค้าน และไม่รู้สึกกังวลที่จะต้องดำเนินการโครงการดังกล่าวต่อไป ส่วนปัญหาการทุจริตที่เกิดขึ้นนั้นก็ยอมรับว่ามีปัญหาดังกล่าวจริง ซึ่งเป็นเรื่องที่รัฐบาลทราบและได้เข้าจัดการกับปัญหานี้

ส่วนกรณีบริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือ ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) ตั้งข้อสังเกตถึงโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาล ซึ่งมีข้อบ่งชี้ว่ามีการทุจริตเกิดขึ้น ซึ่งก็ได้ชี้แจงไปว่ามีการทุจริตเกิดขึ้นจริง โดยรัฐบาลได้เป็นผู้จับกุมผู้กระทำผิดได้ถึง 25 ราย และยังได้ชี้ว่า การดำเนินโครงการดังกล่าวเปรียบเสมือนกับการดำเนินงานขององค์กรบางองค์กรที่มีระบบธรรมาภิบาลที่ดีมาก แต่ก็ยังมีโอกาสเกิดปัญหาทุจริตได้

“ผมยกตัวอย่างว่า มีธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ที่มีระบบธรรมาภิบาลที่ดีมาก แต่มีเจ้าหน้าที่หน้าเคาน์เตอร์รายหนึ่งกระทำการทุจริต ซึ่งก็เป็นเรื่องที่สามารถเกิดขึ้นได้ในทุกองค์กร แต่เมื่อเกิดขึ้นแล้วทางผู้บริหารจะเอาใจใส่ไม่ให้เกิดปัญหาขึ้นซ้ำและลงโทษผู้กระทำผิดหรือไม่ ซึ่งผมก็เรียนไปว่าใน 25 รายที่ทุจริตนั้นเป็นการจับกุมโดยหน่วยงานที่รัฐบาลได้จัดตั้งขึ้นเพื่อตรวจสอบ ฉะนั้นจึงมั่นใจว่าเป็นความตั้งใจของรัฐบาลชุดนี้”

สำหรับความคืบหน้าการแก้ปัญหาเครดิตประเทศตกต่ำนั้น นายกิตติรัตน์กล่าวว่า ตนได้มอบหมายให้สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) และสำนักบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) จัดส่งข้อมูลทุกด้านของประเทศไทยให้แก่บริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือทุกราย ทั้งบริษัท ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) จำกัด, บริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือ สแตนดาร์ดแอนด์พัวร์ (เอสแอนด์พี) และบริษัท มูดี้ส์ อินเวสเตอร์เซอร์วิส จำกัด เพื่อให้ทบทวนการปรับเครดิตเรตติ้งของประเทศ โดยมั่นใจว่าเครดิตประเทศจะดีขึ้นได้แน่นอน

“ที่ผ่านมาเราไม่ค่อยสนใจเรื่องการจัดอันดับเครดิตประเทศมากนัก เพราะรัฐบาลไม่ค่อยกู้เงินต่างประเทศ แต่รัฐบาลนี้ให้ความสำคัญเพราะมีผลต่อเครดิตของภาคเอกชนในการกู้เงินจากต่างประเทศ จึงได้มอบหมายให้สองหน่วยงานดังกล่าวจัดส่งทุกข้อมูลทางเศรษฐกิจของไทย เพื่อให้บริษัทจัดอันดับได้ทราบข้อเท็จจริงว่า ขณะนี้พื้นฐานเศรษฐกิจไทยยังมีความแข็งแกร่ง และมีโอกาสที่จะได้ปรับขึ้นเครดิตของประเทศ”


กำลังโหลดความคิดเห็น