ส.อ.ท.ปลื้มนโยบายรถคันแรกดันยอดขายใน ปท.เดือนละ 1 แสนคัน โดยมียอดผลิตรถยนต์ 8 เดือนแรกเติบโตได้กว่า 30% แม้ส่งออกยุโรปจะหดตัว พร้อมคาดโค้งสุดท้ายปีนี้โกยยอดขายใน ปท.ได้เดือนละ 2 แสนคัน ส่วนปี 56 คาดยอดขายรวมใน ปท.ทะลุ 1.5 ล้านคัน “คมนาคม” กุมขมับ นายกฯ “ปู” สั่งแก้ “จราจรติดหนึบ” ชั่วโมงเร่งด่วน ยอมรับหลายเส้นทางพบปัญหาเรื้อรังยังแก้ไขไม่ได้ เตรียมย้ายป้ายรถเมล์ สั่งห้ามแผงลอยขายสินค้า
นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ โฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า จากนโยบายรถคันแรกของรัฐบาล และการฟื้นตัวจากสถานการณ์น้ำท่วมช่วงปีที่ผ่านมา ทำให้การผลิตรถยนต์ของไทยขยายตัวต่อเนื่อง โดย 8 เดือนแรกปีนี้ยอดการผลิตรถยนต์เพิ่มขึ้นร้อยละ 30 เป็นการจำหน่ายในประเทศมากกว่า 100,000 คันต่อเดือน
ขณะที่การส่งออกขยายตัวร้อยละ 46 แม้การส่งออกรถยนต์ไปยุโรปจะติดลบร้อยละ 18 แต่การส่งออกไปเอเชีย ตะวันออกกลาง โอเชียเนียเพิ่มขึ้น คาดว่าช่วงที่เหลือของปียอดการผลิตรถยนต์ปีนี้จะได้ถึง 2.3 ล้านคัน มากกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ที่ 2.2 ล้านคัน และยอดการขายรถยนต์ภายในประเทศสูงถึง 200,000 คันต่อเดือน
อย่างไรก็ตาม การผลิตรถยนต์ของไทยปีนี้ที่ขยายตัวเพิ่มขึ้นส่วนหนึ่งมาจากการจำหน่ายรถยนต์อีโคคาร์ที่ได้รับอานิสงส์จากมาตรการภาษีรถยนต์คันแรกของรัฐบาล ทำให้สัดส่วนรถยนต์อีโคคาร์เพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 14 ของยอดขายทั้งหมด ส่งผลค่ายรถเร่งผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศมากขึ้นเป็นร้อยละ 60 และลดสัดส่วนการส่งออกเหลือร้อยละ 40 โดยค่ายรถยนต์ต่างๆ จะทยอยส่งมอบรถยนต์ในช่วง 6 เดือนแรกของปีหน้า ทำให้ยอดการผลิตรถยนต์ปี 2556 จะขยายตัวต่อเนื่องจากปีนี้ โดยคาดว่าในปี 2556 จะมีการผลิต 2.4 ล้านคัน โดยเป็นการส่งออก 900,000 คัน ที่เหลือ 1.5 ล้านคันเป็นการขายในประเทศ
ทั้งนี้ การเติบโตของอุตสาหกรรมรถยนต์ในประเทศทำให้ไทยมีส่วนแบ่งการตลาดในอาเซียนเป็นอันดับ 1 หรือคิดเป็นร้อยละ 54 ของยอดการผลิตรถยนต์ทั้งหมดในอาเซียน และมีโอกาสที่จะขยายตัวเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 60 หากค่ายรถยนต์โตโยต้าสามารถผลิตรถยนต์อีโคคาร์ได้ทันจำหน่ายในปีนี้
ด้านนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ยอมรับว่า นโยบายรถคันแรกมีส่วนที่ทำให้รถยนต์บนท้องถนนเพิ่มมากขึ้น ซึ่งกระทรวงคมนาคม พยายามอย่างเต็มที่ที่จะทำให้การจราจรมีความคล่องตัวมากที่สุด และเชื่อมั่นว่าเมื่อรถไฟฟ้าสร้างเสร็จก็จะทำให้ประชาชนหันมาใช้รถยนต์น้อยลง
นายชัชชาติยังได้ปฏิเสธว่า การที่รัฐบาลมอบหมายให้กระทรวงคมนาคมเป็นผู้ดำเนินการแก้ไขปัญหารถติด ไม่ได้เป็นการซื้อใจคนกรุงเทพฯ แต่เป็นงานที่รัฐบาลต้องเร่งดำเนินการ ซึ่งถ้ารัฐบาลไม่ทำก็จะถูกต่อว่าจากประชาชนได้
“ก็ไม่ได้ซื้อใจ ที่ทำเพราะเป็นหน้าที่อยู่แล้ว อย่างที่เรียนมันเป็นเรื่องบูรณาการ ซึ่งผมว่าเรามีกำลังหลายภาคส่วนมาช่วยกันได้ ซึ่งแนวทางแก้ไขปัญหาการจราจรในเขตกรุงเทพมหานคร ได้มอบหมายให้ผู้บริหารในสังกัดลงพื้นที่เพื่อสำรวจเส้นทางรถติดทั่วกรุงเทพฯ อาทิ บริเวณหน้าด่านเก็บเงิน เพื่อนำมาประมวลผล ก่อนที่จะมีการประชุมร่วมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมในวันพุธที่ 26 กันยายน 2555 เพื่อหาทางแก้ไขอย่างบูรณาการ”
นายวันชัย ภาคลักษณ์ อธิบดีกรมทางหลวง กล่าวถึงการลงพื้นที่เพื่อแก้ไขปัญหาการจราจรตามนโยบายของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่ได้มอบหมายให้กระทรวงคมนาคมเร่งดำเนินการแก้ไขปัญหาการจราจร โดยยืนยันว่าในการลงตรวจพื้นที่วันนี้พบว่าภาพรวมในหลายพื้นที่สามารถแก้ไขปัญหาการจราจรได้ทันที
นอกจากนี้ อาจต้องมีการประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น การขยับป้ายรถเมล์ การห้ามจำหน่ายสินค้าบริเวณทางเท้า ซึ่งในเรื่องดังกล่าวอาจจะต้องมีการหารือร่วมกับกรุงเทพมหานครเพื่อแก้ไขปัญหา และพบว่าบางพื้นที่มีปัญหาการจราจรที่ติดขัดในชั่วโมงเร่งด่วนเท่านั้น
อธิบดีกรมทางหลวงกล่าวเพิ่มเติมว่า ตนจะนำข้อมูลที่ได้จากการลงพื้นที่ในวันนี้ไปรายงานให้ที่ประชุมการแก้ไขปัญหาการจราจรรับทราบเพื่อหาทางออกของปัญหา โดยมี นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นประธานการประชุม