นักเรียนนักเลงยังคงก่อเหตุไม่เลิก ล่าสุด นศ.วิทยาลัยเทคโนโลยีพระรามหกถูกนักเรียนสถาบันคู่อริบุกขึ้นมาใช้มีดทำร้ายร่างกาย ก่อนชักปืนยิงแสกหน้าเสียชีวิต คารถเมล์สาย 110 ขณะเดินทางกลับบ้าน ตำรวจคาดชนวนเหตุความขัดแย้งระหว่างสถาบัน เตรียมตรวจกล้องวงจรปิดหาตัวคนร้าย
วันนี้ (16 ส.ค.) เมื่อเวลา 20.00 น. ร.ต.อ.อัคนีรักษ์ อัครพิน พนักงานสอบสวน (สบ 1) สน.บางพลัด รับแจ้งเหตุมีผู้ถูกยิงเสียชีวิตบนรถโดยสารประจำทางร่วมบริการสาย 110 ที่บริเวณป้ายรถเมล์ ซ.จรัญสนิทวงศ์ 73 หน้าวัดเทพากร ถ.จรัญสนิทวงศ์ แขวงและเขตบางพลัด กทม. จึงไปตรวจสอบพร้อมเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.บางพลัด เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน และหน่วยแพทย์นิติเวช
ที่เกิดเหตุบริเวณป้ายรถเมล์ดังกล่าว พบรถประจำทางร่วมบริการสาย 110 วิ่งระหว่างพระราม 6-เทเวศร์ สีขาวคาดน้ำเงิน เลขข้างรถ 110-13 หมายเลขทะเบียน 10-8843 กรุงเทพมหานคร ตรวจสอบบนรถประจำทางพบศพนายภูวเดช เงินรุ่งเรือง อายุ 16 ปี นักศึกษาชั้นปีที่ 1 วิทยาลัยเทคโนโลยีพระราม 6 อยู่บ้านเลขที่ 321 จรัญ 75 แขวง เขตบางพลัด กทม. สภาพถูกอาวุธปืนไม่ทราบชนิด ยิงเข้าที่บริเวณโหนกแก้มด้านซ้ายจนเป็นรูขนาดใหญ่ 4 รู นอกจากนี้ที่ข้อมือขวาและข้อมือซ้ายมีบาดแผลถูกฟันด้วยอาวุธมีดเป็นแผลฉกรรจ์ สวมเสื้อเชิ้ตแขนสั้นสีแดง กางเกงยีนส์ นอนหงายเสียชีวิตอยู่บริเวณทางเดินบนรถประจำทางในแนวขวาง ส่วนผู้โดยสายคนอื่นๆ ไม่มีผู้ถูกลูกหลงได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด
จากการสอบสวน น.ส.นวพร ศรีสวัสดิ์ อายุ 38 ปี พนักงานเก็บค่าโดยสาร กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุผู้ตายขึ้นมาจากที่ป้ายสะพานกรุงธนบุรี พอรถเลี้ยงมาถึงแยกบางพลัด และกำลังจะเข้ามาจอดที่ป้ายรถเมล์ ซ.จรัญสนิทวงศ์ 73 ดังกล่าว เนื่องจากมีนักเรียนตาบอดจากสถาบันเทคโนโลยีราชมงคลวิทยาเขตเทเวศร์จะมาลงที่ป้ายนี้เป็นประจำ ซึ่งตนสังเกตพบว่าที่ป้ายรถเมล์มีกลุ่มนักเรียนไม่ทราบสถาบันจำนวนกว่า 20 คนยืนรออยู่ กระทั่งเมื่อรถเข้าจอดที่ป้าย กลุ่มนักเรียนก็ได้ตะโกนถามว่า “มึงอยู่สถาบันไหนวะ” ก่อนที่กลุ่มดังกล่าวจะวิ่งขึ้นมาบนรถประมาณ 5-6 คนพร้อมอาวุธมีดไล่ทำร้ายผู้ตาย จากนั้นได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 1 นัด ก่อนจะแยกย้ายกันหลบหนีไป ซึ่งเมื่อมาดูก็พบว่าผู้ตายเสียชีวิตแล้ว
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจคาดว่ากลุ่มผู้ก่อเหตุน่าจะเป็นกลุ่มสถาบันคู่อริ แต่ยังไม่ทราบว่าเป็นสถาบันไหนและยังไม่ทราบสาเหตุที่ชัดเจน ซึ่งจะต้องทำการสอบปากคำพยานผู้เห็นเหตุการณ์อย่างละเอียดอีกครั้ง พร้อมทั้งตรวจสอบกล้องวงจรปิดเพื่อติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีต่อไป