รวบ 2 โจ๋ บุกยิงนศ.เทคโนฯ พระราม 6 เสียชีวิต บนรถเมล์สาย 110 เผยจับกุมตัวได้ที่อพาร์ทเม้นท์ย่านบางโพ สารภาพใช้มีดฟันและชักปืนลูกซองสั้นยิง 1 นัด อ้างผู้ตายมีกระบองเหล็ก เข้าใจว่าเป็นอาวุธมีดจึงรุมทำร้าย แล้วพากันหลบหนี
วานนี้ (19 ส.ค.) เมื่อเวลา 12.00 น. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น. เปิดเผยว่า พ.ต.อ.ชาญ แสงเสียงฟ้า รอง ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.ชูสวัสดิ์ จันทร์โรจนกิจ ผกก.สส.4 บก.สส. พร้อมกำลังจับกุมนายแย้ (นามสมมุติ) อายุ 17 ปี และนายแซ็ค (นามสมมุติ) อายุ 17 ปี หลังร่วมกันก่อเหตุใช้อาวุธปืนยิง นายภูวเดช เงินรุ่งเรือง อายุ 16 ปี นักศึกษาชั้นปีที่ 1 วิทยาลัยเทคโนโลยีพระราม 6 จนเสียชีวิตบนรถประจำทางร่วมบริการ สาย 110 วิ่งระหว่าง พระราม 6 - เทเวศร์ ซึ่งสามารถจับกุมนายแย้ ได้ที่วัดสร้อยทอง ย่านบางโพ และจับนายแซ็ค ได้ที่อพาร์ทเม้นท์ย่านบางโพ นอกจากนี้มี นายเกมส์ (นามสมมติ) อายุ 17 ปี หลบหนีไปอยู่ที่ จ.นครสวรรค์ ขณะนี้ได้ติดต่อขอมอบตัวแล้วและกำลังเดินทางมา กทม.
พล.ต.ท.คำรณวิทย์ เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 16 ส.ค.ที่ผ่านมา เวลา 20.00 น. กลุ่มคนร้ายเป็นวัยรุ่นประมาณ 10 คน ได้ก่อเหตุปิดล้อมรถประจำทางร่วมบริการ สาย 110 จากนั้นจึงขึ้นไปรุมทำร้ายโดยใช้มีดฟันและใช้ปืนลูกซองสั้นไทยประดิษฐ์ยิง นายภูวเดช เงินรุ่งเรือง อายุ 16 ปี เสียชีวิต หลังจากนั้นกลุ่มคนร้ายได้หลบหนีไป โดยเหตุเกิดที่ป้ายรถประจำทาง ปากซอยจรัญสนิทวงศ์ 73 หน้าวัดเทพากร ถ.จรัญสนิทวงศ์ แขวงและเขตบางพลัด กรุงเทพฯ
พล.ต.ท.คำรณวิทย์ กล่าวอีกว่า หลังจากสั่งการให้ชุดสืบสวนเร่งรัดติดตามคดี ก็พบว่าคืบหน้าไปมาก ตอนนี้รู้แล้วว่าใครเป็นผู้ก่อเหตุ ทั้งหมดมีด้วยกัน 10 คน ขึ้นไปก่อเหตุบนรถเมล์ 3 คน คือนายแซ็ค นายแย้ และนายเมา ทั้งหมดเป็นเยาวชน ส่วนที่เหลืออยู่ด้านล่าง เป็นนักเรียนโรงเรียนวิทยาลัยสารพัดช่างนครหลวง ซึ่งต่อมา บก.สส.บช.น. และ กก.สส.บก.น.7 รวมทั้งฝ่ายสืบสวน สน.บางพลัด ร่วมกันติดตามและจับกุมได้ ซึ่งทราบว่า นายแย้ เป็นคนยิงอาวุธปืนไป 1 นัด ส่วนนายแซ็ค ใช้อาวุธมีดฟันผู้ตาย จำนวน 2 ครั้ง
จาการสอบสวนนายแย้ ให้การรับสารภาพว่า ตนเป็นคนลงมือโดยใช้อาวุธปืนลูกซองสั้นไทยประดิษฐ์ ซื้อมาจากผู้ชายชื่อ หรั่ง อยู่ย่านบางใหญ่ ราคา 3,500 บาท โดยอ้างว่าเห็นนายภูวเดช ชักท่อนเหล็กดิ้ว (กระบองเหล็ก) ออกมาคิดว่าเป็นอาวุธมีด จึงยิงปืนเข้าใส่นายภูวเดช 1 นัด จนเสียชีวิต ก่อนจะหลบหนี และนำอาวุธปืนที่ก่อเหตุไปทิ้งแม่น้ำเจ้าพระยากลางสะพานพระราม 7
ด้านนายแซ็คสารภาพว่า ก่อเหตุจริง เนื่องจากผู้ตายมองหน้า เมื่อถามว่าอยู่สถาบันใด ก็ไม่ตอบและเห็นว่าชักอาวุธออกมา จึงใช้อาวุธมีดฟันไป 2 ครั้ง จากนั้นจึงวิ่งหลบหนี และได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 1 นัด ซึ่งไม่รู้ว่าใครเป็นคนยิง โดยวันเกิดเหตุตนอยู่กับเพื่อนประมาณ 20 คน ส่วนกลุ่มผู้ตายมี 2-3 คน ส่วนอาวุธมีดก็นำไปทิ้งแม่น้ำเจ้าพระยาเช่นกัน
จากการตรวจสอบประวัติพบว่า นายแย้ เคยถูกจับกุมคดีอาวุธปืน ที่ สน.บางพลัด ส่วนนายแซ็ค เคยถูกจับกุมคดีพกพาอาวุธปืน ที่ สภ.เมืองนนทบุรี และ ครอบครองอาวุธปืน ท้องที่ สน.บางพลัด
ผู้ต้องหาทั้ง 3 คน ถูกศาลเยาวชนและครอบครัวกลางออกหมายจับ ในข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่น โดยผู้ต้องหารับสารภาพ และค่อนข้างตรงกับที่สอบสวน สำหรับผู้ต้องหารายอื่น ทั้งขัดขวางรถ และก่อเหตุอื่นๆ เจ้าหน้าที่ตำรวจจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด จึงฝากไปยังผู้ปกครองให้พาบุตรหลาน มามอบตัวก่อนเจ้าหน้าที่จะออกหมายจับ ทั้งนี้จะสอบปากคำผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมอย่างละเอียด ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.บางพลัด ดำเนินคดีต่อไป.
วานนี้ (19 ส.ค.) เมื่อเวลา 12.00 น. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น. เปิดเผยว่า พ.ต.อ.ชาญ แสงเสียงฟ้า รอง ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.ชูสวัสดิ์ จันทร์โรจนกิจ ผกก.สส.4 บก.สส. พร้อมกำลังจับกุมนายแย้ (นามสมมุติ) อายุ 17 ปี และนายแซ็ค (นามสมมุติ) อายุ 17 ปี หลังร่วมกันก่อเหตุใช้อาวุธปืนยิง นายภูวเดช เงินรุ่งเรือง อายุ 16 ปี นักศึกษาชั้นปีที่ 1 วิทยาลัยเทคโนโลยีพระราม 6 จนเสียชีวิตบนรถประจำทางร่วมบริการ สาย 110 วิ่งระหว่าง พระราม 6 - เทเวศร์ ซึ่งสามารถจับกุมนายแย้ ได้ที่วัดสร้อยทอง ย่านบางโพ และจับนายแซ็ค ได้ที่อพาร์ทเม้นท์ย่านบางโพ นอกจากนี้มี นายเกมส์ (นามสมมติ) อายุ 17 ปี หลบหนีไปอยู่ที่ จ.นครสวรรค์ ขณะนี้ได้ติดต่อขอมอบตัวแล้วและกำลังเดินทางมา กทม.
พล.ต.ท.คำรณวิทย์ เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 16 ส.ค.ที่ผ่านมา เวลา 20.00 น. กลุ่มคนร้ายเป็นวัยรุ่นประมาณ 10 คน ได้ก่อเหตุปิดล้อมรถประจำทางร่วมบริการ สาย 110 จากนั้นจึงขึ้นไปรุมทำร้ายโดยใช้มีดฟันและใช้ปืนลูกซองสั้นไทยประดิษฐ์ยิง นายภูวเดช เงินรุ่งเรือง อายุ 16 ปี เสียชีวิต หลังจากนั้นกลุ่มคนร้ายได้หลบหนีไป โดยเหตุเกิดที่ป้ายรถประจำทาง ปากซอยจรัญสนิทวงศ์ 73 หน้าวัดเทพากร ถ.จรัญสนิทวงศ์ แขวงและเขตบางพลัด กรุงเทพฯ
พล.ต.ท.คำรณวิทย์ กล่าวอีกว่า หลังจากสั่งการให้ชุดสืบสวนเร่งรัดติดตามคดี ก็พบว่าคืบหน้าไปมาก ตอนนี้รู้แล้วว่าใครเป็นผู้ก่อเหตุ ทั้งหมดมีด้วยกัน 10 คน ขึ้นไปก่อเหตุบนรถเมล์ 3 คน คือนายแซ็ค นายแย้ และนายเมา ทั้งหมดเป็นเยาวชน ส่วนที่เหลืออยู่ด้านล่าง เป็นนักเรียนโรงเรียนวิทยาลัยสารพัดช่างนครหลวง ซึ่งต่อมา บก.สส.บช.น. และ กก.สส.บก.น.7 รวมทั้งฝ่ายสืบสวน สน.บางพลัด ร่วมกันติดตามและจับกุมได้ ซึ่งทราบว่า นายแย้ เป็นคนยิงอาวุธปืนไป 1 นัด ส่วนนายแซ็ค ใช้อาวุธมีดฟันผู้ตาย จำนวน 2 ครั้ง
จาการสอบสวนนายแย้ ให้การรับสารภาพว่า ตนเป็นคนลงมือโดยใช้อาวุธปืนลูกซองสั้นไทยประดิษฐ์ ซื้อมาจากผู้ชายชื่อ หรั่ง อยู่ย่านบางใหญ่ ราคา 3,500 บาท โดยอ้างว่าเห็นนายภูวเดช ชักท่อนเหล็กดิ้ว (กระบองเหล็ก) ออกมาคิดว่าเป็นอาวุธมีด จึงยิงปืนเข้าใส่นายภูวเดช 1 นัด จนเสียชีวิต ก่อนจะหลบหนี และนำอาวุธปืนที่ก่อเหตุไปทิ้งแม่น้ำเจ้าพระยากลางสะพานพระราม 7
ด้านนายแซ็คสารภาพว่า ก่อเหตุจริง เนื่องจากผู้ตายมองหน้า เมื่อถามว่าอยู่สถาบันใด ก็ไม่ตอบและเห็นว่าชักอาวุธออกมา จึงใช้อาวุธมีดฟันไป 2 ครั้ง จากนั้นจึงวิ่งหลบหนี และได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 1 นัด ซึ่งไม่รู้ว่าใครเป็นคนยิง โดยวันเกิดเหตุตนอยู่กับเพื่อนประมาณ 20 คน ส่วนกลุ่มผู้ตายมี 2-3 คน ส่วนอาวุธมีดก็นำไปทิ้งแม่น้ำเจ้าพระยาเช่นกัน
จากการตรวจสอบประวัติพบว่า นายแย้ เคยถูกจับกุมคดีอาวุธปืน ที่ สน.บางพลัด ส่วนนายแซ็ค เคยถูกจับกุมคดีพกพาอาวุธปืน ที่ สภ.เมืองนนทบุรี และ ครอบครองอาวุธปืน ท้องที่ สน.บางพลัด
ผู้ต้องหาทั้ง 3 คน ถูกศาลเยาวชนและครอบครัวกลางออกหมายจับ ในข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่น โดยผู้ต้องหารับสารภาพ และค่อนข้างตรงกับที่สอบสวน สำหรับผู้ต้องหารายอื่น ทั้งขัดขวางรถ และก่อเหตุอื่นๆ เจ้าหน้าที่ตำรวจจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด จึงฝากไปยังผู้ปกครองให้พาบุตรหลาน มามอบตัวก่อนเจ้าหน้าที่จะออกหมายจับ ทั้งนี้จะสอบปากคำผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมอย่างละเอียด ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.บางพลัด ดำเนินคดีต่อไป.
