รัฐมนตรีเอเปกชงผู้นำประกาศจุดยืนผลักดันการเจรจาการค้ารอบโดฮา WTO พร้อมเร่งทำเขตการค้าเสรีเอเปก เผยล่าสุดเอเปกตกลงลดภาษีสินค้าสิ่งแวดล้อม 54 รายการ ช่วยแก้ปัญหาโลกร้อน
นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า รัฐมนตรีเอเปกจะเสนอให้ที่ประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปกที่จะประชุมกันในวันที่ 8-9 ก.ย. 2555 ประกาศย้ำจุดยืนในการสนับสนุนระบบการค้าพหุภาคีเพื่อให้การเจรจาในองค์การการค้าโลก (WTO) รอบโดฮาสามารถปิดรอบได้ หลังจากที่การเจรจาไม่มีความคืบหน้า ทั้งๆ ที่เป็นเรื่องที่ต้องเจรจาให้จบมานานแล้ว เพื่อสนับสนุนให้การค้าโลกมีความคล่องตัว และเกิดประโยชน์กับประเทศกำลังพัฒนา
ขณะเดียวกันจะเสนอให้ผู้นำเอเปกผลักดันให้สมาชิกปรับปรุงกฎระเบียบการค้าเพื่อมุ่งสู่เป้าหมายการจัดทำเขตการค้าเสรีของเอเปกในอนาคต หลังจากที่ผ่านมา เอเปกได้มีความร่วมมือในด้านการอำนวยความสะดวกด้านการค้าและการลงทุนระหว่างกันมานานแล้ว
นอกจากนี้จะผลักดันให้เอเปกส่งเสริมการเจริญเติบโตสีเขียวเพื่อรับมือกับความท้าทายด้านสิ่งแวดล้อม การใช้ไอทีในการขับเคลื่อนการรวมกลุ่มทางเศรษฐกิจของเอเปก และสร้างสภาพแวดล้อมด้านอิเล็กทรอนิกส์ที่ปลอดภัย การส่งเสริมการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ และหาแหล่งพลังงานสะอาดเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน การเสริมสร้างความมั่นคงทางอาหาร โดยเพิ่มผลิตผลทางการเกษตรด้วยการกระตุ้นการลงทุนและใช้นวัตกรรมเทคโนโลยีด้านการเกษตร การดำเนินการเพื่อปรับปรุงความเชื่อมโยงของห่วงโซ่อุปทานในเอเปก ตลอดจนความร่วมมือเพื่อให้เอเปกเจริญเติบโตด้วยนวัตกรรม
นายบุญทรงกล่าวว่า สำหรับประเด็นด้านการค้าสินค้าสิ่งแวดล้อม เอเปกได้ตกลงที่จะลดภาษีสินค้าสิ่งแวดล้อม โดยตกลงกันได้ถึง 54 รายการ ลงเหลือ 0-5% ภายในปี 2015 รายการสินค้าสิ่งแวดล้อมหลักๆ เช่น หม้อไอน้ำชีวมวล กังหันก๊าซ กังหันลม เตาเผาขยะ เครื่องทำน้ำร้อนพลังงานแสงอาทิตย์ เครื่องจักรสำหรับทำอากาศหรือก๊าซให้เป็นของเหลว เครื่องจักรกลที่ใช้สำหรับการจัดการด้านสิ่งแวดล้อม ชุดเครื่องกำเนิดไฟฟ้าขับด้วยกำลังลม เครื่องมือตรวจวัดคุณภาพอากาศ เป็นต้น
สำหรับไทยจะได้รับประโยชน์ในเรื่องนี้อย่างมาก เพราะสินค้าหลายอย่างไทยยังต้องนำเข้าเนื่องจากไม่มีการผลิต หรือเทคโนโลยียังไม่สูงพอ ก็จะทำให้ผู้บริโภคและผู้ประกอบการได้ซื้อสินค้าในราคาถูกลง และมีผลดีต่อสิ่งแวดล้อมของไทย ทั้งในด้านการจัดการน้ำเสีย การจัดการขยะ และการใช้พลังงานสะอาด ในขณะที่ สมาชิกเอเปกบางประเทศยังมีกำแพงภาษีสินค้าบางรายการสูงถึง 35% ดังนั้น การลดภาษีจะช่วยให้สินค้าไทยสามารถแข่งขันได้มากขึ้น สินค้าสิ่งแวดล้อมส่งออกสำคัญของไทย เช่น ชิ้นส่วนอุปกรณ์สำหรับกระจกรับแสงอาทิตย์ ชิ้นส่วนอุปกรณ์เครื่องจักรไฟฟ้า/อุปกรณ์ไฟฟ้า ส่วนประกอบของเครื่องจักร/อุปกรณ์ที่ใช้กรองของเหลวหรือก๊าซ เป็นต้น
นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า รัฐมนตรีเอเปกจะเสนอให้ที่ประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปกที่จะประชุมกันในวันที่ 8-9 ก.ย. 2555 ประกาศย้ำจุดยืนในการสนับสนุนระบบการค้าพหุภาคีเพื่อให้การเจรจาในองค์การการค้าโลก (WTO) รอบโดฮาสามารถปิดรอบได้ หลังจากที่การเจรจาไม่มีความคืบหน้า ทั้งๆ ที่เป็นเรื่องที่ต้องเจรจาให้จบมานานแล้ว เพื่อสนับสนุนให้การค้าโลกมีความคล่องตัว และเกิดประโยชน์กับประเทศกำลังพัฒนา
ขณะเดียวกันจะเสนอให้ผู้นำเอเปกผลักดันให้สมาชิกปรับปรุงกฎระเบียบการค้าเพื่อมุ่งสู่เป้าหมายการจัดทำเขตการค้าเสรีของเอเปกในอนาคต หลังจากที่ผ่านมา เอเปกได้มีความร่วมมือในด้านการอำนวยความสะดวกด้านการค้าและการลงทุนระหว่างกันมานานแล้ว
นอกจากนี้จะผลักดันให้เอเปกส่งเสริมการเจริญเติบโตสีเขียวเพื่อรับมือกับความท้าทายด้านสิ่งแวดล้อม การใช้ไอทีในการขับเคลื่อนการรวมกลุ่มทางเศรษฐกิจของเอเปก และสร้างสภาพแวดล้อมด้านอิเล็กทรอนิกส์ที่ปลอดภัย การส่งเสริมการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ และหาแหล่งพลังงานสะอาดเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน การเสริมสร้างความมั่นคงทางอาหาร โดยเพิ่มผลิตผลทางการเกษตรด้วยการกระตุ้นการลงทุนและใช้นวัตกรรมเทคโนโลยีด้านการเกษตร การดำเนินการเพื่อปรับปรุงความเชื่อมโยงของห่วงโซ่อุปทานในเอเปก ตลอดจนความร่วมมือเพื่อให้เอเปกเจริญเติบโตด้วยนวัตกรรม
นายบุญทรงกล่าวว่า สำหรับประเด็นด้านการค้าสินค้าสิ่งแวดล้อม เอเปกได้ตกลงที่จะลดภาษีสินค้าสิ่งแวดล้อม โดยตกลงกันได้ถึง 54 รายการ ลงเหลือ 0-5% ภายในปี 2015 รายการสินค้าสิ่งแวดล้อมหลักๆ เช่น หม้อไอน้ำชีวมวล กังหันก๊าซ กังหันลม เตาเผาขยะ เครื่องทำน้ำร้อนพลังงานแสงอาทิตย์ เครื่องจักรสำหรับทำอากาศหรือก๊าซให้เป็นของเหลว เครื่องจักรกลที่ใช้สำหรับการจัดการด้านสิ่งแวดล้อม ชุดเครื่องกำเนิดไฟฟ้าขับด้วยกำลังลม เครื่องมือตรวจวัดคุณภาพอากาศ เป็นต้น
สำหรับไทยจะได้รับประโยชน์ในเรื่องนี้อย่างมาก เพราะสินค้าหลายอย่างไทยยังต้องนำเข้าเนื่องจากไม่มีการผลิต หรือเทคโนโลยียังไม่สูงพอ ก็จะทำให้ผู้บริโภคและผู้ประกอบการได้ซื้อสินค้าในราคาถูกลง และมีผลดีต่อสิ่งแวดล้อมของไทย ทั้งในด้านการจัดการน้ำเสีย การจัดการขยะ และการใช้พลังงานสะอาด ในขณะที่ สมาชิกเอเปกบางประเทศยังมีกำแพงภาษีสินค้าบางรายการสูงถึง 35% ดังนั้น การลดภาษีจะช่วยให้สินค้าไทยสามารถแข่งขันได้มากขึ้น สินค้าสิ่งแวดล้อมส่งออกสำคัญของไทย เช่น ชิ้นส่วนอุปกรณ์สำหรับกระจกรับแสงอาทิตย์ ชิ้นส่วนอุปกรณ์เครื่องจักรไฟฟ้า/อุปกรณ์ไฟฟ้า ส่วนประกอบของเครื่องจักร/อุปกรณ์ที่ใช้กรองของเหลวหรือก๊าซ เป็นต้น
