กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) เร่งพัฒนาผู้ผลิตเครื่องแต่งกายมุสลิม เน้นการผลิตสินค้าด้วยนวัตกรรมเชิงสร้างสรรค์ เดินแผนสร้างตลาดใหม่ เจาะกลุ่มเป้าหมายตลาดระดับบนมีกำลังซื้อสูงรับตลาด AEC พร้อมนำเอกชนไทย 12 รายโรดโชว์ที่มาเลเซีย 6-8 ก.ย.นี้
นายพสุ โลหารชุน อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) เปิดเผยว่า ในการรวมตัวกันของประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) จะส่งผลให้เกิดการเคลื่อนย้ายของประชากรมุสลิมในประเทศต่างๆ มากขึ้น ทั้งในรูปแบบการลงทุนและการท่องเที่ยว ดังนั้น กรมฯ จึงได้วางแผนที่จะพัฒนาศักยภาพผู้ผลิตเครื่องแต่งกายมุสลิมเพื่อตอบสนองความต้องการของกำลังซื้อที่สูงขึ้น ผ่าน “โครงการพัฒนาเครื่องแต่งกายมุสลิม” ที่มีการดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง โดยในปีนี้ได้วางเป้าหมายเพิ่มช่องทางการตลาดใหม่ให้แก่ผู้ผลิต ควบคู่ไปกับพัฒนากระบวนการผลิตเพื่อสร้างความแตกต่างให้กับสินค้าเจาะกลุ่มเป้าหมายตลาดระดับบนที่มีกำลังซื้อสูง
ปัจจุบันกลุ่มผู้ประกอบการเครื่องแต่งกายมุสลิมมีจำนวนไม่มากนัก และกระจายตัวอยู่ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑลในพื้นที่เขตลาดกระบัง และใน 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้แก่ สตูล สงขลา ยะลา ปัตตานี และนราธิวาส และที่ผ่านมาเป็นการผลิตเพื่อใช้กันเองในกลุ่มพี่น้องมุสลิม และขายภายในจังหวัด ขณะที่ต่างประเทศมีผู้ผลิตรายใหญ่ ได้แก่ อินโดนีเซีย แต่จะมีการผลิตสินค้าที่หลากหลายกว่าประเทศไทย
โดยมูลค่าการตลาดเครื่องแต่งกายมุสลิมมีการขยายตัวเพิ่มขึ้นประมาณไม่น้อยกว่า 250 ล้านบาทต่อปี แต่ด้วยพฤติกรรมของชาวมุสลิมที่เน้นการแต่งกายด้วยรูปแบบสินค้าที่ทันสมัย อีกทั้งมาตรการส่งเสริมจากภาครัฐอย่างจริงจังในเรื่องนี้ ทำให้มูลค่าตลาดโดยรวมในแต่ละปีสูงมากขึ้น โดยในปี 2554 ที่ผ่านมาตลาดเสื้อผ้ามุสลิมมีมูลค่าสูงถึง 1,000 ล้านบาท
“นับเป็นโอกาสอันดีที่อุตสาหกรรมเครื่องแต่งกายมุสลิมของประเทศไทยจะก้าวเข้าสู่เชิงพาณิชย์อย่างยั่งยืน ซึ่งจะเป็นการเสริมสร้างความเข้มแข็งและกระตุ้นการขับเคลื่อนทางเศรษฐกิจของประเทศไทยได้อีกทางหนึ่ง ซึ่งภายใต้การสนับสนุนของกรมส่งเสริมอุตสาหกรรมจะเน้นการพัฒนาผู้ประกอบการอย่างเป็นระบบบนฐานองค์ความรู้ที่เข้มแข็ง เพื่อสร้างอุตสาหกรรมเครื่องแต่งกายมุสลิมของไทยให้เติบโตพร้อมที่จะก้าวสู่ตลาดอาเซียนและตลาดอื่นๆ ในอนาคต” นายพสุกล่าว
ทั้งนี้ ระหว่างวันที่ 6-8 กันยายน 2555 กรมส่งเสริมอุตสาหกรรมจะนำคณะผู้ประกอบการเครื่องแต่งกายมุสลิม 12 รายไปจัดสัมมนาที่ประเทศมาเลเซีย เพื่อแสดงความพร้อมและศักยภาพของอุตสาหกรรมเครื่องแต่งกายมุสลิมไทย การเจรจาจับคู่ธุรกิจกับผู้ประกอบการมุสลิมในประเทศมาเลเซีย นำเสนอรูปแบบการขายสินค้าแบบขายตรงและการใช้ระบบการตลาดแบบไอทีเข้ามาช่วยเสริมการทำตลาด นับเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ผู้ประกอบการเครื่องแต่งกายมุสลิมไทยเพื่อเตรียมพร้อมก้าวสู่ตลาดใหม่ในอนาคต ขณะเดียวกัน เมื่อเร็วๆ นี้กรมฯ ยังได้จัดงานประกวดเครื่องแต่งกายมุสลิม โดยมีผู้ผลิตและผู้ประกอบการที่เข้าร่วมประกวดเพื่อพัฒนาศักยภาพจำนวน 40 ราย