xs
xsm
sm
md
lg

ม.หอการค้าไทยหวั่นเศรษฐกิจโลกฉุดไทย แนะรัฐฯ ยึดค้าชายแดนกระตุ้นส่งออก

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

  ผศ.ดร.ธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย
ผอ.ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เผยปัจจัยเสี่ยงครึ่งปีหลังและปี 2556 เจอศึกหนัก ภาวะเศรษฐกิจโลกรุมเร้าจากเหตุการณ์ไม่คลี่คลายของยูโรโซน และแผนชะลอเศรษฐกิจของจีน บวกกับภาวะเศรษฐกิจญี่ปุ่น และสหรัฐฯ ไม่กระเตื้อง ชี้เอสเอ็มอีไทยยึดส่งออกตะเข็บชายแดนผนวกการเปิด AEC กระตุ้นส่งออก ดันเป้าเศรษฐกิจไทยโตตามเป้า 5%

ผศ.ดร.ธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยภายในงานสัมมนาหัวข้อ “จัดทัพอุตสาหกรรมไทย พร้อมฝ่าวิกฤตปัจจัยเสี่ยงครึ่งปีหลัง รุกตลาด AEC” ว่า สำหรับภาวะเศรษฐกิจของไทยในช่วงครึ่งปีหลัง และในปีหน้า 2556 ไทยจะต้องเผชิญกับวิกฤตเศรษฐกิจค่อนข้างหนักจากภาวะเศรษฐกิจโลกอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เพราะถ้าดูจากภาวะเศรษฐกิจของประเทศมหาอำนาจจากยูโรโซนซึ่งไม่คลี่คลาย แต่ดูเหมือนจะหนักขึ้นจากการแก้ปัญหาผิดพลาดของประเทศสเปน และอิตาลี และทั้งสองประเทศจะได้รับการช่วยเหลือหรือไม่ รวมถึงแนวทางที่จะนำประเทศกรีซออกจากสมาชิกยูโรโซนก็มีความเป็นไปได้ หรือถ้าจะดูจากประเทศมหาอำนาจของโลกอย่าง สหรัฐอเมริกา ซึ่งได้รับผลกระทบที่ผ่านมาก็ยังไม่ได้ฟื้นตัว ถ้ายูโรโซนไม่ได้รับการแก้ไข สหรัฐอเมริกาก็ต้องได้รับผลกระทบไปด้วย ในขณะที่ประเทศจีน มหาอำนาจอันดับ 2 ก็อยู่ในช่วงของการชะลอตัวทางเศรษฐกิจด้วยการลดดอกเบี้ยตามนโยบายของรัฐบาล เพราะกลัวปัญหาเรื่องของฟองสบู่ ทำให้คาดการณ์ว่าจีนจะโตต่ำกว่าเป้า

ส่วนประเทศญี่ปุ่น หลังจากได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ภัยพิบัติสึนามิ รวมถึงภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวของญี่ปุ่น ก็เป็นปัญหาความเสี่ยงที่ส่งผลกระทบต่อประเทศไทย ด้วยกันทั้งนั้น โดยดูจากภาวการณ์การส่งออกของประเทศไทยในช่วงที่ผ่านมาลดลงไปอยู่ที่ประมาณ 5% และคาดว่าส่งออกทั้งปีน่าจะไม่เกิน 7% ดังนั้น ทางออกของประเทศไทยในขณะนี้ โดยเฉพาะเอสเอ็มอีจะได้เปรียบ เพราะการเปิดเสรีการค้าอาเซียน หรือการก้าวเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน AEC ไทยได้เปรียบเรื่องการเป็นศูนย์กลางทั้งการซื้อ และการขาย ซึ่งรัฐบาลมุ่งไปที่การทำการค้าในแถบตะเข็บชายแดน โดยดูจากที่ผ่านมาการค้าของไทยในแถบชายแดนเติบโตสูงถึง 42% เพราะฉะนั้น การส่งออกของไทยคงจะต้องอยู่ที่การค้าชายแดน และการเปิด AEC ที่จะช่วยให้ไทยมีการเติบโตทางเศรษฐกิจได้ถึง 5% ในไตรมาสที่ 3 อย่างแน่นอน

ด้านนายพสุ โลหารชุน อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กล่าวต่อว่า ในส่วนของกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม นโยบายหลักในช่วงครึ่งปีหลังมุ่งสร้างโอกาสและทางรอดให้แก่ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีในการจะเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน โดยมีนโยบายหลัก การมุ่งให้ความรู้แก่เอสเอ็มอี โดยการจัดทำโรดแมป ซึ่งดำเนินการมาถึงเดือนนี้เป็นเดือนสุดท้าย มีผู้ประกอบการเข้าร่วมกว่า 7,000 คน ตั้งเป้าไว้ในปีหน้าจะต้องอบรมผู้ประกอบการให้ได้ถึง 10,000 คน และการมุ่งให้ความสำคัญต่อ 5 ประเทศหลัก คือ พม่า กัมพูชา เวียดนาม ลาว และอินโดนีเซีย

ล่าสุดทางกรมส่งเสริมอุตสาหกรรมได้จัดงาน “แฟนพันธุ์แท้เครื่องหนังไทย” ซึ่งเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่ทางกรมฯ จัดขึ้นเพื่อรองรับการแข่งขันในตลาดอาเซียน เพราะต้องการยกระดับเครื่องหนังไทย หนีการแข่งขันในตลาดจีน และเวียดนาม ปัจจุบันภาครัฐมีเป้าหมายส่งออกสินค้าแฟชั่น และเครื่องหนังไม่ต่ำกว่า 5% ซึ่ง 4 เดือนแรกมีมูลค่าส่งออกจำนวน 2.6 แสนล้านบาท เป้าหมายส่งออกอยู่ที่ 7-9% คาดว่าสิ้นปีมูลค่าการส่งออกรวม 7.8 แสนล้านบาท
กำลังโหลดความคิดเห็น