สภาพัฒน์ แจงประเมินผลแผน 10 หลุดเป้า 5% เผยหลายปัจจัย ใน-นอก ทุบ ศก. โตได้แค่ 2.6% พร้อมระบุ ปัญหาน้ำท่วมใหญ่ปี 54 ทำทุกอย่างติดลบ
นายปรเมธี วิมลศิริ รองเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เปิดเผยว่า สศช.ได้สรุปภาพรวมเศรษฐกิจของแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 10 (ปี 49-54) พบว่าเศรษฐกิจไม่สามารถขยายตัวได้ตามป้าหมายที่วางไว้ที่ร้อยละ 5 โดยขยายตัวเฉลี่ยเพียงร้อยละ 2.6 ต่ำกว่าแผนฯ ฉบับที่ 9 ขยายตัวเฉลี่ยร้อยละ 5.7 เพราะได้รับผลกระทบจากวิกฤตเศรษฐกิจโลก ค่าเงินบาทและค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ แข็งค่าขึ้น ความไม่สงบภายในประเทศจากปัญหาความขัดแย้งทางการเมือง และภัยธรรมชาติ โดยเฉพาะเหตุการณ์น้ำท่วมเมื่อปลายปี 54 แต่โครงสร้างทางเศรษฐกิจยังมีความแข็งแกร่งและมีเสถียรภาพ เพราะสามารถฟื้นตัวจากวิกฤตต่างๆ ได้อย่างรวดเร็ว
“ยอมรับว่าผลงานในหลายปีช่วงแรกในแผนฯ 10 ยังขยายตัวเฉลี่ยได้ดี แต่พอมาเจอเกิดปัญหาน้ำท่วม ทำให้ทุกอย่างติดลบปีสุดท้าย แต่ยังมีหลายปัจจัยยังดี แม้การขับเคลื่อนเศรษฐกิจโดยลดต้นทุนโลจิสติกส์ได้ดีขึ้นตามลำดับ แต่ต้องติดตามดูการขับเคลื่อนอย่างจริงจังของรัฐ ส่วนการสร้างความสมดุลนั้น ไทยต้องพึ่งพาเศรษฐกิจโลกให้น้อยลง โดยต้องหาแรงกระตุ้นเติบโตในประเทศแทน”
สำหรับผลสรุปเบื้องต้นของแผนฯ 10 นั้น ระบุว่า มีปัญหาเกิดขึ้นหลายอย่าง ทำให้เศรษฐกิจไทยชะลอตัวลงในช่วง 3 ปีแรกของแผนฯ โดยเฉพาะปี 52 เศรษฐกิจไทยหดตัวต่ำสุดร้อยละ 2.3 ก่อนจะฟื้นตัวในปี 53 ในอัตราสูงถึงร้อยละ 7.8 แต่ในช่วงปลายปี 54 กลับได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมที่ส่งผลกระทบในมุมกว้าง โดยเฉพาะภาคอุตสาหกรรมการผลิตในเขตนิคมอุตสาหกรรมหลัง ทำให้เศรษฐกิจขยายตัวเพียงร้อยละ 0.1 เท่านั้น
สำหรับโครงสร้างเศรษฐกิจในประเทศและการค้าต่างประเทศยังไม่สมดุลตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ โครงสร้างการผลิตของประเทศทั้งภาคการเกษตรและบริการไม่เปลี่ยนแปลงมาก ส่วนอัตราการจ้างงานในภาคการเกษตรมีแนวโน้มลดลงจากร้อยละ 40.2 เหลือร้อยละ 39 ขณะที่การจ้างงานในภาคบริการลดลงจากร้อยละ 44.2 เหลือร้อยละ 41.4 การจ้างงานภาคอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 15.6 เป็นร้อยละ 19.5 ชี้ให้เห็นว่าความสำคัญของภาคอุตสาหกรรมและบริการในโครงสร้างเศรษฐกิจมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
นอกจากนี้ เรื่องของการออมในประเทศได้ปรับตัวดีขึ้น โดยเฉพาะช่วงกลางของแผนฯ 10 ส่วนช่องว่างระหว่างกลุ่มที่มีรายได้สูงสุดกับผู้ที่มีรายได้ต่ำสุดปรับตัวลดลงจาก 13 เท่า เหลือเพียง 11 เท่า ขณะที่ฐานะการคลังยังอยู่ในกรอบความยั่งยืนทางการคลัง มีสัดส่วนหนี้สาธารณะต่อจีดีพี เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 36.9 เพิ่มเป็นร้อยละ 42.2 ขณะที่ภาระหนี้ต่องบประมาณลดลงจากร้อยละ 11.3 เหลือร้อยละ 10 งบลงทุนต่องบประมาณลดลงเหลือร้อยละ 16.4 จากร้อยละ 23.9 ต่ำกว่าเป้าหมายในกรอบความยั่งยืนทางการคลังที่กำหนดไว้ไม่น้อยกว่าร้อยละ 25 ขณะที่ดุลงบประมาณไม่สามารถรักษาความดุลตามกรอบความยั่งยืนทางการคลัง มีการขาดดุลเพิ่มขึ้นจาก 150,000 ล้านบาท เป็น 400,000 ล้านบาทในปี 54
นายธานินทร์ ผะเอม รองเลขาฯ สศช. กล่าวว่า สศช.เตรียมจัดประชุมประจำปี 55 เรื่องอนาคตประเทศไทยบนเส้นทางสีเขียว ในวันที่ 6 ก.ย.นี้ ที่ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพค เมืองทองธานี โดยมีสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ เสด็จพระราชดำเนินเป็นองค์ประธาน และมีพระราชดำรัสเปิดการประชุม จากนั้นจึงเป็นการอภิปรายเรื่องแนวทางการขับเคลื่อนการพัฒนาสังคมสีเขียว เพื่อใช้เป็นกรอบการขับเคลื่อนการพัฒนาแผนฯ 11
โดยแบ่งเป็น 7 เรื่องหลักในการระดมความคิดคือ อนาคตเกษตรไทยสู่การเติบโตสีเขียว, อุตสาหกรรมสะอาดวิถีใหม่ของอุตสาหกรรม, มุ่งสร้างสรรค์การท่องเที่ยวสีเขียว เพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน, การพัฒนาระบบขนส่งและพลังงานเพื่อระบบเศรษฐกิจสีเขียว, เส้นทางสู่นวัตกรรมสีเขียว, สังคมสีเขียวนวัตกรรมทางสังคมสู่การพัฒนาที่ทั่วถึงและยั่งยืน และการรับมือภัยพิบัติภายใต้การเติบโตสีเขียว