โพลชี้เกษตรกรหนี้ท่วมหัวเฉลี่ย 1.1 แสนบาทต่อครัวเรือน เพิ่มขึ้น 3-5% เหตุราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ แต่ต้นทุนการผลิตสูงขึ้น และเมินให้ลูกหลานทำนาต่อ ยันนโยบายจำนำข้าวชาวนา โรงสีชอบ แต่ผู้ส่งออกไม่ชอบ แถมรัฐส่อเจ๊งยับ 1-2 แสนล้าน
นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยถึงผลสำรวจสถานการณ์ชาวนาไทย และสินค้าเกษตร จากการสำรวจเกษตรกรทั่วประเทศจำนวน 1,211 ราย ระหว่างวันที่ 8-12 ส.ค. 2555 ว่า หนี้โดยรวมของเกษตรกรในปี 2555 คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 3-5% หรือมีมูลค่ากว่า 1.1 แสนบาทต่อครัวเรือน โดยเพิ่มขึ้นจากปี 2554 ที่มีมูลค่า 1.03 แสนบาท หรือเพิ่มขึ้น 6.6% โดยสาเหตุที่ทำให้เป็นหนี้เพิ่มมาจากราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ ปุ๋ยและยาฆ่าแมลงแพงขึ้น ต้นทุนโดยรวมแพง หนี้สินเพิ่มจากภาวะน้ำท่วม และราคาน้ำมันแพงขึ้น
ทั้งนี้ ภาระหนี้โดยรวมของเกษตรกรไทยในปัจจุบันเฉลี่ยอยู่ที่ 5-7.5 หมื่นบาท โดยส่วนใหญ่ 60.9% เป็นหนี้ในระบบ ซึ่งเกษตรกรไทยมีความสามารถที่จะชำระหนี้ได้หมด แต่อีก 39.1% ที่เป็นหนี้นอกระบบ พบว่า 33.3% ไม่มีความสามารถในการชำระหนี้ได้
เมื่อสอบถามถึงความคาดหวังต่อผลผลิตฤดูกาลทำนาใหม่ หากเทียบกับฤดูกาลผลิตที่ผ่านมา ชาวนาส่วนใหญ่เห็นว่ากำไรที่ได้รับ ราคาที่ขายได้ ผลผลิตที่จะได้ ยังคงเท่าเดิม แต่ต้นทุนที่ใช้ และการจับจ่ายใช้สอยจะเพิ่มขึ้นทำให้มีการออมเงินลดลง
ส่วนการสำรวจชาวนาว่าจะผลักดันให้บุตรหลานทำนาต่อไปหรือไม่ 80.5% จะส่งเสริมให้ไปทำงานอย่างอื่น เพราะเห็นว่าชาวนาเป็นอาชีพลำบาก จ้างคนทำนาคุ้มกว่า เป็นอาชีพที่ไม่มีรายได้แน่นอน รายได้น้อยไม่เพียงพอต่อรายจ่ายและต้นทุนที่เพิ่มขึ้น โดยมีเพียง 19.5% ยังจะให้สืบทอดการทำนาเพราะมีที่ดินของตนเอง รักอาชีพเกษตรกรรม มองว่ามีรายได้เพียงพอ และคาดหวังนโยบายรัฐบาลที่จะช่วยเพิ่มรายได้
เมื่อถามว่าหากมีนายทุนมาเสนอซื้อที่นาในราคาสูงจะขายหรือไม่ ชาวนา 72% ระบุว่าไม่ขายเพราะเป็นมรดกไว้ให้ลูกหลานและเป็นที่ทำกิน มีเพียง 28% จะขายเพราะอยากเปลี่ยนอาชีพ และไปลงทุนอย่างอื่นที่ได้ราคาดีกว่า โดยชาวนาภาคกลางระบุจะขายที่ดินมากสุด ส่วนภาคอื่นส่วนใหญ่ไม่ขาย
เมื่อถามถึงการออกบัตรเครดิตชาวนาของรัฐบาล ชาวนา 65% เห็นด้วยน้อยถึงไม่เห็นด้วย เพราะเห็นว่าเป็นการเพิ่มหนี้ และใช้ไม่เป็น แต่ 35% เห็นด้วยปานกลางถึงมาก เพราะสะดวกและมีเงินหมุนเวียน โดยภาคเหนือไม่เห็นด้วยมากสุด
นายธนวรรธน์กล่าวว่า สำหรับนโยบายการจำนำข้าวของรัฐบาล เกษตรกร โรงสี พอใจเพราะมีรายได้เพิ่มขึ้น ผู้บริโภคก็ไม่รู้สึกอะไรเพราะราคาข้าวถุงยังไม่ขึ้น มีเพียงผู้ส่งออกที่มีปัญหา เพราะต้นทุนสูงขึ้น ส่งออกได้ลดลง แต่สิ่งที่ต้องกังวลคือ ที่ผ่านมา รัฐบาลใช้เงินไปแล้ว 2.6 แสนล้านบาท และกำลังจะใช้อีก 2.6 แสนล้านบาท เท่ากับ 2 ปีใช้เงินสูงกว่า 5 แสนล้านบาท อาจมีการขาดทุนสูงถึง 1-2 แสนล้านบาท รัฐบาลต้องประเมินว่าคุ้มค่าหรือไม่จากการที่ควรจะนำเงินไปลงทุนด้านอื่นที่เกิดประโยชน์แก่ประเทศ
นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยถึงผลสำรวจสถานการณ์ชาวนาไทย และสินค้าเกษตร จากการสำรวจเกษตรกรทั่วประเทศจำนวน 1,211 ราย ระหว่างวันที่ 8-12 ส.ค. 2555 ว่า หนี้โดยรวมของเกษตรกรในปี 2555 คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 3-5% หรือมีมูลค่ากว่า 1.1 แสนบาทต่อครัวเรือน โดยเพิ่มขึ้นจากปี 2554 ที่มีมูลค่า 1.03 แสนบาท หรือเพิ่มขึ้น 6.6% โดยสาเหตุที่ทำให้เป็นหนี้เพิ่มมาจากราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ ปุ๋ยและยาฆ่าแมลงแพงขึ้น ต้นทุนโดยรวมแพง หนี้สินเพิ่มจากภาวะน้ำท่วม และราคาน้ำมันแพงขึ้น
ทั้งนี้ ภาระหนี้โดยรวมของเกษตรกรไทยในปัจจุบันเฉลี่ยอยู่ที่ 5-7.5 หมื่นบาท โดยส่วนใหญ่ 60.9% เป็นหนี้ในระบบ ซึ่งเกษตรกรไทยมีความสามารถที่จะชำระหนี้ได้หมด แต่อีก 39.1% ที่เป็นหนี้นอกระบบ พบว่า 33.3% ไม่มีความสามารถในการชำระหนี้ได้
เมื่อสอบถามถึงความคาดหวังต่อผลผลิตฤดูกาลทำนาใหม่ หากเทียบกับฤดูกาลผลิตที่ผ่านมา ชาวนาส่วนใหญ่เห็นว่ากำไรที่ได้รับ ราคาที่ขายได้ ผลผลิตที่จะได้ ยังคงเท่าเดิม แต่ต้นทุนที่ใช้ และการจับจ่ายใช้สอยจะเพิ่มขึ้นทำให้มีการออมเงินลดลง
ส่วนการสำรวจชาวนาว่าจะผลักดันให้บุตรหลานทำนาต่อไปหรือไม่ 80.5% จะส่งเสริมให้ไปทำงานอย่างอื่น เพราะเห็นว่าชาวนาเป็นอาชีพลำบาก จ้างคนทำนาคุ้มกว่า เป็นอาชีพที่ไม่มีรายได้แน่นอน รายได้น้อยไม่เพียงพอต่อรายจ่ายและต้นทุนที่เพิ่มขึ้น โดยมีเพียง 19.5% ยังจะให้สืบทอดการทำนาเพราะมีที่ดินของตนเอง รักอาชีพเกษตรกรรม มองว่ามีรายได้เพียงพอ และคาดหวังนโยบายรัฐบาลที่จะช่วยเพิ่มรายได้
เมื่อถามว่าหากมีนายทุนมาเสนอซื้อที่นาในราคาสูงจะขายหรือไม่ ชาวนา 72% ระบุว่าไม่ขายเพราะเป็นมรดกไว้ให้ลูกหลานและเป็นที่ทำกิน มีเพียง 28% จะขายเพราะอยากเปลี่ยนอาชีพ และไปลงทุนอย่างอื่นที่ได้ราคาดีกว่า โดยชาวนาภาคกลางระบุจะขายที่ดินมากสุด ส่วนภาคอื่นส่วนใหญ่ไม่ขาย
เมื่อถามถึงการออกบัตรเครดิตชาวนาของรัฐบาล ชาวนา 65% เห็นด้วยน้อยถึงไม่เห็นด้วย เพราะเห็นว่าเป็นการเพิ่มหนี้ และใช้ไม่เป็น แต่ 35% เห็นด้วยปานกลางถึงมาก เพราะสะดวกและมีเงินหมุนเวียน โดยภาคเหนือไม่เห็นด้วยมากสุด
นายธนวรรธน์กล่าวว่า สำหรับนโยบายการจำนำข้าวของรัฐบาล เกษตรกร โรงสี พอใจเพราะมีรายได้เพิ่มขึ้น ผู้บริโภคก็ไม่รู้สึกอะไรเพราะราคาข้าวถุงยังไม่ขึ้น มีเพียงผู้ส่งออกที่มีปัญหา เพราะต้นทุนสูงขึ้น ส่งออกได้ลดลง แต่สิ่งที่ต้องกังวลคือ ที่ผ่านมา รัฐบาลใช้เงินไปแล้ว 2.6 แสนล้านบาท และกำลังจะใช้อีก 2.6 แสนล้านบาท เท่ากับ 2 ปีใช้เงินสูงกว่า 5 แสนล้านบาท อาจมีการขาดทุนสูงถึง 1-2 แสนล้านบาท รัฐบาลต้องประเมินว่าคุ้มค่าหรือไม่จากการที่ควรจะนำเงินไปลงทุนด้านอื่นที่เกิดประโยชน์แก่ประเทศ
