xs
xsm
sm
md
lg

เบื้องหลัง “อากู๋” ถอดเพลงจากยูทิวบ์ ปรับเกมโขกเงินโหลด

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“แกรมมี่” เต้นผาง พลิกเกมรับมือยูทูปฟีเวอร์ ยุติปล่อยเอ็มวีลงยูทูป ดูได้เฉพาะในเว็บ gmember.com เท่านั้น หวังเป็นโมเดลใหม่สร้างรายได้จากโฆษณาผ่านการชมเว็บไซต์หลังรายได้ดาวน์โหลดผ่านมือถือมูลค่า 1,000 ล้านบาท ร่วงต่อเนื่อง 

นายกริช ทอมมัส ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (สายธุรกิจเพลง) บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ในช่วง1-2ปีที่ผ่านมา พบว่ายอดรายได้จากการดาวน์โหลดเพลงทางมือถือลดลงอย่างต่อเนื่อง ทำให้ทางบริษัทได้ศึกษาถึงปัญหาพร้อมหาทางแก้ไข ล่าสุดพบว่ามีสาเหตุมาจากการที่ประเทศไทยก้าวสู่ยุค 3จี โทรศัพท์มือถือในปัจจุบันมีความเป็นสมาร์ทโฟนที่สามารถดาวน์โหลดไฟล์ขนาดใหญ่ทั้งเพลงและเอ็มวีได้ดียิ่งขึ้น

บวกกับในส่วนของเว็บไซต์ปัจจุบัน คือ ยูทูป (YOUTUBE)ในไทยที่ได้รับความนิยมสูง ซึ่งที่ผ่านมาแกรมมี่เองได้มีการนำเอาเอ็มวีต่างๆลงบนยูทูปมาโดยตลอด เนื่องจากมองว่ายูทูปเป็นเพียงช่องทางหนึ่งของการเข้าถึงกลุ่มผู้ฟังเท่านั้น แต่ในขณะนี้กลับพบปัญหา คือ สมาร์ทโฟนสามารถดาวน์โหลดเอ็มวีเหล่านี้มาไว้ในมือถือได้แล้ว หรือมีแอปยูทูปบนมือถือ รวมถึงพบปัญหาการละเมิดลิขสิทธิ์นำเอ็มวีไปใช้อย่างผิดกฏหมาย นั่นจึงเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้รายได้จากการดาวน์โหลดผ่านช่องทางดังกล่าว ซึ่งมีมูลค่ากว่า 1,000 ล้านบาทต่อปีลดลงอย่างต่อเนื่อง          

ล่าสุดเพื่อเป็นการป้องกันทรัพย์สินทางปัญญาของเพลง และคนทำเพลง ซึ่งเป็นหัวใจหลักของแกรมมี่ ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาบริษัทจึงมีนโยบายที่จะถอดเอ็มวีออกจากยูทูปทั้งหมด โดยจะเริ่มทยอยลงอย่างต่อเนื่อง ส่วนเอ็มวีเพลงใหม่ก็จะยุติการลงบนยูทูปทั้งหมด แต่ผู้บริโภคยังสามารถรับชมเอ็มวีเหล่านี้ได้ที่ www.gmember.com ได้          

โดยในส่วนของเว็บไซต์ดังกล่าวนั้น บริษัทกำลังพัฒนาสู่โมเดลAdvertising Supported Model กล่าวคือหารายได้จากโฆษณาจากยอดเข้าชมเว็บไซต์ ซึ่งขณะนี้สามารถรองรับผู้เข้าชมได้วินาทีละ 10,000 วิว จากเดิมอยู่ที่ 3,000 วิว มั่นใจว่าหลังจากนี้ยอดเข้าชมเว็บไซต์ gmember จะกลับมาที่ 3 แสนวิวต่อวันได้อีกครั้ง ซึ่งหากโมเดลนี้สำเร็จ ได้รับความนิยมจนมียอดวิวที่ 1,000 ล้านวิวต่อปีได้ ในปีนั้นก็น่าที่จะมีรายได้จากโฆษณากว่า 1 ล้านเหรียญสหรัฐเช่นเดียวกับในประเทศต่างๆ ที่ใช้โมเดลดังกล่าวอยู่

อย่างไรก็ตาม ทางบริษัทไม่ได้มีปัญหากับทางยูทูป เพียงแต่ต้องการป้องกันทรัพย์สินของแกรมมี่เท่านั้น ทั้งนี้หากยูทูป สามารถเข้ามาดำเนินธุรกิจในไทยและสามารถเปิดเว็บไซต์ www.youtube.co.th ได้เมื่อไหร่ แกรมมี่ก็พร้อมที่จะเข้าไปร่วมมือกับทางยูทูปแน่นอน เพราะยูทูปถือเป็นเว็บไซต์ที่มีโมเดลหารายได้แบบ Advertising Supported Model ที่ประสบความสำเร็จมากในหลายประเทศ

ส่วนในไทยที่ยูทูปยังไม่เข้ามาทำตลาดนั้น เนื่องจากมีปัญหาในเรื่องของกฏหมายในบางข้ออยู่ หากเจรจาสำเร็จก็ไม่น่าจะมีปัญหา ทั้งนี้ในต่างประเทศยังมีเว็บไซต์อื่นๆที่ใช้โมเดลสร้างรายได้ที่ประสบความสำเร็จเช่นเดียวกับยูทูปมากมาย ทางแกรมมี่เองก็มีการพูดคุยเจรจากันอยู่ ในการที่อาจจะเข้าไปลงทุนในเว็บไซต์นั้นๆเช่นกัน 
         
        

นายกริช กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ในส่วนของการหารายได้จากการดาวน์โหลด ล่าสุดในช่องทางITUNE แกรมมี่ได้เริ่มนำเพลงเข้าไปให้บริการดาวน์โหลดในไทยแล้ว เมื่อไม่นานมานี้ คาดว่าถึงสิ้นปีนี้น่าจะมียอดดาวน์โหลดกว่า 5 แสนครั้งต่อเพลง คิดอัตราการดาวน์โหลดที่ 30 บาทต่อเพลง หรือน่าจะมีรายได้กว่า 15,000,000 บาท แต่เป็นรายได้ที่ต้องแบ่งให้กับทางITUNEด้วย ซึ่งยอดการดาวน์โหลดดังกล่าวสูงกว่า การดาวน์โหลดผ่านITUNEจากประเทศอเมริกากว่าเท่าตัว

กำลังโหลดความคิดเห็น