xs
xsm
sm
md
lg

“เพียวเต้” น้องใหม่ทุ่ม 30 ล้าน บุกตลาดเส้นผม

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


นางสาวสุมลรัตน์ สมบูรณ์ศักดิกุล ผู้อำนวยการผลิตภัณฑ์เพียวเต้ บริษัท พี.ซี.แอล. จำกัด ผู้ผลิต และจำหน่ายผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมแบรนด์ “เพียวเต้” เปิดเผยว่า “เพียวเต้” เป็นแบรนด์ผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมน้องใหม่ ซึ่งอยู่ภายใต้บริษัท พี.ซี.แอล. ผู้เชี่ยวชาญด้านเส้นผม อีกทั้งยังเป็นผู้ผลิตและผู้จำหน่ายผลิตภัณฑ์ต่างๆ เกี่ยวกับเส้นผมที่คุ้นเคย ไม่ว่าจะเป็น Caring (แคร์ริ่ง) หรือ Just Modern (จัสท์โมเดิร์น) ซึ่งอยู่คู่กับคนไทยมากว่า 40 ปี

และเพื่อเป็นการขยายตลาดในการจับกลุ่มเป้าหมายใหม่ๆ บริษัทจึงได้ออกผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผม “เพียวเต้” เพื่อตอบสนองความต้องการของตลาด โดยผลิตภัณฑ์เพียวเต้จะแบ่งเป็น 4 กลุ่ม ซึ่งครอบคลุมทุกประเภทของผลิตภัณฑ์สำหรับเส้นผม HAIR COLOR ผลิตภัณฑ์เปลี่ยนสีผม, HAIR TEXTURE ผลิตภัณฑ์ปรับเปลี่ยนโครงสร้างเส้นผม ผลิตภัณฑ์ยืด ดัด, HAIR SETTING ผลิตภัณฑ์จัดแต่งทรงผม และ HAIR CARE ผลิตภัณฑ์การบำรุงเส้นผมทั้งกลุ่ม Rinse off เช่น ทรีตเมนต์, แฮร์มาสก์ และ Leave on เช่นอาหารผม และเซรัม

“สำหรับกลุ่มผลิตภัณฑ์บำรุงและฟื้นฟูผมแห้งเสียและทำสีเป็นผลิตภัณฑ์ที่มียอดขายอันดับ 1 ในกลุ่มผลิตภัณฑ์นี้ Purete’ Honey & Yogurt ได้รับการตอบรับดีมากในกลุ่มช่างผมมืออาชีพ ในกลุ่มนี้จะมีทั้งทรีตเมนต์ที่สามารถใช้แทนครีมนวดผมได้เลย ผลิตภัณฑ์อาหารผม (ชนิดไม่ต้องล้างออก) ครีมบำรุงเส้นผม (ชนิดไม่ต้องล้างออก) และเซรัมบำรุงเส้นผม ป้องกันผมแห้งแตกปลาย ซึ่งในปีนี้ได้รับเกียรติจากคุณวิกกี้ สุนิสา เจทท์ เป็นพรีเซ็นเตอร์ให้ผลิตภัณฑ์ เป็นการการันตีความมั่นใจในคุณภาพสินค้าให้แก่ลูกค้าของเรา” นางสาวสุมลรัตน์กล่าว และว่า

ผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผม “เพียวเต้ ฮันนี่ และโยเกิร์ต” ที่สุดแห่งการบำรุงผมด้วยส่วนผสมของน้ำผึ้งและโยเกิร์ต ช่วยฟื้นฟูผมที่แห้งเสียและผมทำสีด้วยเนื้อครีมทรีตเมนต์ที่เข้มข้นกว่า จึงบำรุงได้อย่างล้ำลึก ปรับสภาพเส้นผมที่แห้งเสียให้กลับมานุ่มสลวย มีน้ำหนัก รู้สึกได้ทันทีขณะใช้ พร้อมกลิ่นหอมนาน และเพื่อปกป้องให้ผมสวยอีกขั้น ใช้ควบคู่กับ Purete’ Honey&Yogurt Deep Repair Essence อาหารผมชนิดเข้ม

ในปี 2555 บริษัทฯ ใช้งบการตลาดประมาณ 30 ล้านบาท แบ่งเป็น Below the line 70% Advertising and PR 30% ทั้งนี้ จะจัดสรรไปกับกลุ่ม Traditional Trade 60% และกลุ่ม Modern Trade 40% ซึ่งกลยุทธ์การตลาด เพียวเต้จะเน้นเรื่องคุณภาพและความปลอดภัยของผู้บริโภค ทั้งราคาเหมาะสม และมีจุดขายที่มีความแตกต่างจากสินค้าคู่แข่ง กลิ่นของผลิตภัณฑ์ 90% ของผู้ใช้พอใจมากทั้งก่อนใช้และหลังใช้ กลิ่นจะหอมติดเส้นผม และเน้นการทำกิจกรรมตรงกลุ่มเป้าหมาย เช่น การจัด Work shop สำหรับกลุ่มช่างผมทุกอาทิตย์ หรือการจัด Road show ให้บริการและแนะนำผลิตภัณฑ์แก่กลุ่มลูกค้าปลีกทั่วไปตาม Modern Trade กว่า 30-40 สาขา และตามร้านค้าปลีก-ส่ง ทั้งกรุงเทพฯ และต่างจังหวัดกว่าอีก 300 แห่งตลอดปี

กิจกรรมหลักที่เราจะทำทั่วประเทศในปีนี้คือ “เพียวเต้ ฮันนี่ คาราวานคืนความเจิดให้กับเส้นผม” โดยจะจัดเป็นรูปของขบวนคาราวานทั้งในกลุ่ม Traditional Trade และ Modern Trade ซึ่งเน้นที่ผลิตภัณฑ์บำรุง และฟื้นฟูเส้นผม ฮันนี่ และโยเกิร์ต โดยจะมีการแนะนำและบริการทำทรีตเมนต์ให้แก่ลูกค้า เพื่อให้ได้สัมผัสถึงประสิทธิภาพทันทีหลังการใช้ การฟื้นฟูเส้นผมแห้งเสีย และผมทำสีให้กลับมานุ่มลื่นเป็นประกายมีสุขภาพดี ซึ่งในกลุ่มผลิตภัณฑ์ฮันนี่ และโยเกิร์ตนี้ มีคุณวิกกี้ สุนิสา เจทท์ เป็นตัวแทนผู้หญิงที่ให้ความสำคัญต่อการบำรุงดูแลรักษาเส้นผม ที่ต้องผ่านการทำสีและการจัดแต่งทรงผมเป็นประจำให้ยังมีสุขภาพผมที่ดี ไม่แห้งเสีย นุ่มสลวยตลอดเวลา ซึ่งจะมีการจัดโปรโมชันกระตุ้นยอดขายหลายรูปแบบ เช่น การแถมสินค้า ขนาดสินค้าทดลองใช้คู่กับผลิตภัณฑ์อื่น ของ Premium การแจกสินค้าขนาดทดลองใช้ตามห้างสรรพสินค้าและร้านค้าต่างๆ

มูลค่าตลาดรวมผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมในปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 16,000 ล้านบาท แบ่งเป็น ผลิตภัณฑ์บำรุงเส้นผมมีมูลค่าตลาดประมาณ 12,500 ล้านบาท ผลิตภัณฑ์จัดแต่งทรงผมประมาณ 1,000 ล้านบาท ผลิตภัณฑ์เปลี่ยนสีผมมูลค่าประมาณ 2,500 ล้านบาท และสำหรับสัดส่วนยอดขายภายใต้แบรนด์เพียวเต้ จะมียอดขายอันดับ 1 จะแบ่งเป็นกลุ่มผลิตภัณฑ์การบำรุงเส้นผม 78% ผลิตภัณฑ์จัดแต่งทรง 6% และผลิตภัณฑ์เปลี่ยนสีผม 16% ตามลำดับ

“เพียวเต้ ได้ออกวางขายอยู่ในตลาดมาตั้งแต่ปี 2545 และด้วยการตอบรับที่ดีของตลาด ในปี 2554 แม้จะมีปัญหาเรื่องน้ำท้วม แต่เราสามารถเติบโตถึง 30% จากปี 2553 ส่วนปี 2555 เราคาดว่าสามารถเติบโตได้ถึง 35-40% คือประมาณ 200-300 ล้านบาท โดยจะขยายช่องทางการจัดจำหน่ายให้มากขึ้น เช่น การขายใน 7-eleven จากเดิมที่มีจำหน่ายอยู่แล้วทั้งใน Lotus, Big C, Watsons, Tops, The Mall และร้านจำหน่ายอุปกรณ์เสริมสวยทั่วไป” นางสาวสุมล กล่าวปิดท้าย

กำลังโหลดความคิดเห็น