“ชัชชาติ”สั่งขบ.ประสานตำรวจ สืบหาแหล่งขายรถเอาผิดออกป้ายแดงปลอม พร้อมเร่งประมูลผลิตเพิ่มทั้งป้ายแดงป้ายดำ 7.14 ล้านแผ่น คาดส.ค.เริ่มทยอยออกใช้และรับจดทะเบียนเป็นป้ายดำได้มากขึ้น ยอมรับ ขบ.บกพร่อง ด้าน”สมชัย”ยัน ก.ย.นี้ปัญหาหมดรวมถึงป้ายแตกลายงา
นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคมเปิดเผยว่า ปัญหาป้ายทะเบียนสีแดงไม่เพียงพอจนทำให้มีการทำปลอมและป้ายทะเบียนแตกลายงานั้น ขณะนี้ กรมการขนส่งทางบก (ขบ.) อยู่ระหว่างเร่งประกวดราคาหาผู้ผลิตป้ายทะเบียนรายใหม่ จำนวน 7.14 ล้านแผ่น ประกอบด้วย ป้ายแดง 1.4 แสนแผ่น ป้ายรถยนต์ 4 ล้านแผ่น และป้ายรถจักรยานยนต์ 3 ล้านแผ่น ซึ่งคาดว่าภายในเดือนกันยายนนี้ จะทยอยนำป้ายใหม่จดทะเบียนได้ ซึ่งจะแก้ปัญหาป้ายทะเบียนไม่พอได้ทั้งหมด
ทั้งนี้ ยอมรับว่า ขบ.ไม่มีอำนาจในการตรวจจับตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ที่ทำป้ายแดงปลอมให้กับผู้ซื้อรถ ซึ่งนอกจากแจ้งไปยังตัวแทนจำหน่ายห้ามออกป้ายแดงปลอมแล้ว ยังได้สั่ง ขบ.ให้ความรู้เกี่ยวกับการดูทะเบียนป้ายแดงปลอมกับเจ้าของรถ พร้อมกับส่งเจ้าหน้าที่ออกสุ่มตรวจ เพื่อสืบหาแหล่งจำหน่ายรถที่ปลอมป้ายแดง เพราะการดำเนินการในลักษณะดังกล่าวเป็นความผิดตามกฎหมายปลอมเอกสารราชการ หากใครมีข้อสงสัยสามารถสอบถามได้ที่หมายเลข1584
“ปัญหาป้ายแดงปลอมมาจากผลิตป้ายใหม่ไม่ทัน ซึ่งมาจากนโยบายรถคันแรกที่ทำให้มีคนซื้อรถเพิ่มมากขึ้นและช่วงน้ำท่วมมีปัญหาในการผลิตรถ จึงมาออกรถใหม่ช่วงนี้มาก แต่อย่างไรก็ตามเรื่องที่เกิดขึ้น เป็นความบกพร่องของขบ.เพราะเกี่ยวเนื่องจากจากปัญหาป้ายแตกลายงาด้วย”นายชัชชาติกล่าว
ด้านนายสมชัย ศิริวัฒนโชค อธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวว่า นโยบายรถคันแรกของรัฐบาลเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ป้ายแดงไม่เพียงพอ โดยมีผู้ซื้อรถนำรถมาจดทะเบียนกับกรมการขนส่งทางบกเพิ่มขึ้นเป็น 50,000คันต่อเดือน จากเดิม20,000 คันต่อเดือน แต่ยืนยันว่าหลังจากประมูลผลิตป้ายทะเบียนใหม่แล้ว โดยจะเริ่มรับมอบป้ายแดงในช่วงกลางเดือนสิงหาคมนี้ ส่วนป้ายดำช่วงกลางเดือนกันยายน 2555 ปัญหาจะหมดไปแน่นอน ซึ่งป้ายแดงที่ผลิตเพิ่มขณะนี้ขบ.ได้เปิดให้ตัวแทนจำหน่ายรถมายื่นขอรับเพิ่มเติมให้เพียงพอกับความต้องการ โดยจะพิจารณาให้สอดคล้องกับปริมาณรถที่ผลิตและจำหน่าย
“ขอเรียกร้องตัวแทนจำหน่ายอย่าใช้ป้ายแดงปลอม เพราะมีความผิดตามกฎหมาย หากมีปัญหาต้องเป็นผู้รับผิดชอบ ส่วนผู้ที่ไปจดทะเบียนแล้ว แต่ยังไม่ได้ป้ายทะเบียนสามารถนำหลักฐานการจดทะเบียนไปใช้แทนได้ โดยไม่จำเป็นต้องมีป้ายทะเบียน ซึ่งจะไม่ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับปรับ เพราะกรมการขนส่งทางบกได้ประสานงานในเรื่องดังกล่าวไปแล้ว”นายสมชัยกล่าว
สำหรับป้ายใหม่จำนวน 7.14 ล้านแผ่น นั้น ได้แก้ไขทีโออาร์ประมูลให้ป้ายมีคุณภาพมากขึ้น เพิ่มระยะเวลารับประกันของผู้ผลิตจาก 1 ปีเป็น 5 ปี เพิ่มบทปรับหากป้ายเสียหายก่อนเวลา และต้องชดใช้ค่าเสียหายด้วย โดยมีต้นทุนเพิ่มจาก 29 บาทเป็น 35 บาทต่อแผ่น โดยคาดว่าป้ายที่ผลิตออกมาจะใช้ได้ถึงต้นปี 2556 ซึ่งจะมีการปรับทะเบียนใหม่ โดยมีตัวเลขอยู่หน้าตัวอักษร
ส่วนปัญหาป้ายแตกลายงา เป็นการจัดซื้อตั้งแต่ปี 2552 มีต้นทุนต่ำประมาณ 20 บาทต่อแผ่น รับประกัน 1 ปี ซึ่งเกิดปัญหาหลังจากนำมาใช้งานประมาณ2-3 ปี จึงไม่สามารถเอาผิดกับทางผู้ผลิตได้ เนื่องจากเกินกำหนดระยะรับประกันไปแล้ว อย่างไรก็ตามขณะนี้ อยู่ระหว่างหารือกับกระทรวงการคลัง เพื่อใช้เงินหมุนเวียนจากรายได้การออกป้ายทะเบียนของขบ.มาชดเชยให้กับเจ้าของรถที่ป้ายแตกลายงา ซึ่งมีเงินอยู่ประมาณ 1,000 ล้านบาท ขณะที่ป้ายแตกลายงาทั่วประเทศมีประมาณ 1 ล้านแผ่น
ทั้งนี้ จำนวนป้ายแดงที่ขบ.ออกให้กับตัวแทนจำหน่ายรถจนถึงวันที่30 กรกฎาคม 2555 มีทั้งสิ้น 779,199 หมายเลข โดยได้เร่งรัดจัดเตรียมเอกสารต่างๆมายื่นขอจดทะเบียนให้กับผู้ซื้อโดยเร็ว โดยจะใช้เวลาดำเนินการจดทะเบียนไม่เกิน 2 ชั่วโมง
