ASTVผู้จัดการรายวัน - นโยบายรถยนต์คันแรก ดันยอดจดทะเบียนขอป้ายแดงพุ่งเดือนละ 5 หมื่นคัน ยันป้ายแดงขาดแคลนเป็นปัญหาตัวแทนขายหมุนป้ายไม่ได้ ขณะที่”คมนาคม” เตรียมแก้กฎกระทรวงให้รถอีโคคาร์เป็นแท็กซี่ได้ อ้างเพิ่มโอกาสให้คนขับเป็นเจ้าของรถ เผยครม.ไม่ต่อเวลารถคันแรก หมดเขตสิ้นปี55ตามเดิม แต่ผ่อนผันให้ยื่นเอกสารแสดงสิทธิช้าได้
นายอัฌษไธค์ รัตนดิลก ณ ภูเก็ต รองอธิบดีฝ่ายปฏิบัติการ กรมการขนส่งทางบก(ขบ.) เปิดเผยว่า ขณะที่มีรถใหม่เข้าทะเบียนกับ ขบ.เฉลี่ย ประมาณ 50,000 คันต่อเดือน หรือประมาณ 5 หมวดอักษร โดย 1 หมวดอักษรประมาณ 1 0,000 คัน จากปกติที่มีรถใหม่จดทะเบียนประมาณ 20,000 คันหรือ 2 หมวดตัวอักษรต่อเดือน ซึ่งสาเหตุที่ทำให้มีรถจดทะเบียนเพิ่มขึ้นมากเนื่องจากนโยบายรถคันแรกของรัฐบาล
ที่ผ่านมา ขบ. ได้แจกจ่ายป้ายแดงให้กับตัวแทนจำหน่ายรถยนต์อย่างต่อเนื่อง โดยจะพิจารณาให้เหมาะสมกับยอดขายที่เกิดขึ้นจริง เช่น ขายได้ประมาณ 1,000คันต่อเดือน จะได้รับการจัดสรรป้ายแดงประมาณ 60-70% จากจำนวนป้ายที่ยื่นขอเข้ามา เพื่อให้ตัวแทนจำหน่าย เร่งนำรถไปจดทะเบียนกับ ขบ.โดยเร็ว หากเอกสารครบถ้วนสมบูรณ์จะใช้เวลาเปลี่ยนจากป้ายแดงมาเป็นป้ายดำเพียง 3 วันเท่านั้น ทำให้สามารถนำป้ายแดงดังกล่าวไปหมุนเวียนใช้กับรถคันใหม่ได้ต่อไปทันที
“ที่ไม่สามารถจดทะเบียนได้เป็นเรื่องที่เกี่ยวกับระบบธุรกิจของการค้าของตัวแทนจำหน่ายโดยตรง เช่น การทำเอกสารล่าช้า รอโอนเงินจากทางบริษัทแม่ทำให้ไม่มีเงินไปเอารถใหม่ออกจากสต๊อก หรือบางครั้งต้องรอขายให้ครบ5-6 คันก่อน เพื่อให้มีเงินครบพอที่จะนำไปหมุนต่อได้ ทำให้การจดทะเบียนกับกรมการขนส่งล่าช้า ป้ายแดงที่มีอยู่จึงไม่เพียงพอผู้ซื้อบางคนอาจต้องรอนานถึง 5 เดือน จึงจะได้ป้ายดำ เป็นต้น”นายอัฌษไธค์กล่าว
****ไม่ขยายเวลารถคันแรก
น.ส.ศันสนีย์ นาคพงศ์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงการอนุมัติการขยายเวลาโครงการส่งมอบรถยนต์และการยื่นเอกสารสำหรับโครงการรถยนต์ใหม่คันแรกทางราชการออกไปว่า ตั้งแต่วันที่ 16 ก.ย.2554 - 13 ก.ค.2555 มีผู้ยื่นขอใช้สิทธิกว่า 90,000 ราย มีเงินจ่ายคืน 6,800 กว่าล้านบาท และความต้องการน่าจะสูงขึ้นอีกราว 300,000 ราย และคาดว่าจะมีประชาชนสนใจโครงการนี้รวม 450,000 ราย โดยบริษัทรถยนต์คาดว่าจะส่งมอบให้ผู้สั่งจองไม่ทันกำหนด เพราะผลกระทบจากปัญหาอุทกภัยเมื่อปีที่แล้ว
ทั้งนี้ กระทรวงการคลังได้เสนอความเห็นว่า ไม่ควรขยายเวลาที่หมดอายุโครงการจากวันที่ 31 ธ.ค.2555 แต่หากบริษัทรถยนต์ส่งมอบรถยนต์ไม่ทันในวันสิ้นสุดโครงการนี้ ก็ควรจะอนุมัติให้ผู้ขอใช้สิทธิในโครงการนี้ขยายเวลาการรับส่งและส่งมอบเอกสารให้ทางราชการออกไปก่อน
โดยประชาชนต้องยื่นเอกสารคำขอการใช้สิทธิในวันที่ 31 ธ.ค.2555 แม้จะจดทะเบียนต่อกรมการขนส่งทางบกไม่ทัน แต่ให้สิทธิมายื่นเอกสารต่อกรมสรรพสามิตใน 90 วัน คือต้องเป็นผู้ที่มีรายชื่อในใบจองและแสดงหนังสือสละสิทธิโอนใบจอง รวมทั้งสัญญาเช้าซื้อและสัญญาจดทะเบียน โดยจะได้รับเงินคืนในหนึ่งปี
***ให้อีโคคาร์เป็นแท็กซี่ได้
นายชินวัฒน์ หาบุญพาด ที่ปรึกษา รมว.คมนาคม กล่าวว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างแก้ไขกฎกระทรวงคมนาคม เพื่อให้รถยนต์ขนาดเครื่องยนต์ 1,300 ซีซี หรือรถยนต์อีโคคาร์ สามารถนำมาจดทะเบียนแท็กซี่ได้ เพื่อเปิดให้คนขับรถแท็กซี่มีโอกาสเป็นเจ้าของรถได้ จากเดิมที่กฎกระทรวงคมนาคมกำหนดให้จะต้องมีเครื่องยนต์ขนาด1,500 ซีซีขึ้นไปสามารถขึ้นทะเบียนรถแท็กซี่โดยสารได้ ซึ่งรถที่เครื่องยนต์ใหญ่นั้นจะมีราคาสูง ขณะที่กำหนดเครื่องยนต์เล็กลงจะทำให้ต้นทุนค่าเชื้อเพลิงของแท็กซี่โดยสารนั้นประหยัดขึ้นด้วย
นายอัฌษไธค์ รัตนดิลก ณ ภูเก็ต รองอธิบดีฝ่ายปฏิบัติการ กรมการขนส่งทางบก(ขบ.) เปิดเผยว่า ขณะที่มีรถใหม่เข้าทะเบียนกับ ขบ.เฉลี่ย ประมาณ 50,000 คันต่อเดือน หรือประมาณ 5 หมวดอักษร โดย 1 หมวดอักษรประมาณ 1 0,000 คัน จากปกติที่มีรถใหม่จดทะเบียนประมาณ 20,000 คันหรือ 2 หมวดตัวอักษรต่อเดือน ซึ่งสาเหตุที่ทำให้มีรถจดทะเบียนเพิ่มขึ้นมากเนื่องจากนโยบายรถคันแรกของรัฐบาล
ที่ผ่านมา ขบ. ได้แจกจ่ายป้ายแดงให้กับตัวแทนจำหน่ายรถยนต์อย่างต่อเนื่อง โดยจะพิจารณาให้เหมาะสมกับยอดขายที่เกิดขึ้นจริง เช่น ขายได้ประมาณ 1,000คันต่อเดือน จะได้รับการจัดสรรป้ายแดงประมาณ 60-70% จากจำนวนป้ายที่ยื่นขอเข้ามา เพื่อให้ตัวแทนจำหน่าย เร่งนำรถไปจดทะเบียนกับ ขบ.โดยเร็ว หากเอกสารครบถ้วนสมบูรณ์จะใช้เวลาเปลี่ยนจากป้ายแดงมาเป็นป้ายดำเพียง 3 วันเท่านั้น ทำให้สามารถนำป้ายแดงดังกล่าวไปหมุนเวียนใช้กับรถคันใหม่ได้ต่อไปทันที
“ที่ไม่สามารถจดทะเบียนได้เป็นเรื่องที่เกี่ยวกับระบบธุรกิจของการค้าของตัวแทนจำหน่ายโดยตรง เช่น การทำเอกสารล่าช้า รอโอนเงินจากทางบริษัทแม่ทำให้ไม่มีเงินไปเอารถใหม่ออกจากสต๊อก หรือบางครั้งต้องรอขายให้ครบ5-6 คันก่อน เพื่อให้มีเงินครบพอที่จะนำไปหมุนต่อได้ ทำให้การจดทะเบียนกับกรมการขนส่งล่าช้า ป้ายแดงที่มีอยู่จึงไม่เพียงพอผู้ซื้อบางคนอาจต้องรอนานถึง 5 เดือน จึงจะได้ป้ายดำ เป็นต้น”นายอัฌษไธค์กล่าว
****ไม่ขยายเวลารถคันแรก
น.ส.ศันสนีย์ นาคพงศ์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงการอนุมัติการขยายเวลาโครงการส่งมอบรถยนต์และการยื่นเอกสารสำหรับโครงการรถยนต์ใหม่คันแรกทางราชการออกไปว่า ตั้งแต่วันที่ 16 ก.ย.2554 - 13 ก.ค.2555 มีผู้ยื่นขอใช้สิทธิกว่า 90,000 ราย มีเงินจ่ายคืน 6,800 กว่าล้านบาท และความต้องการน่าจะสูงขึ้นอีกราว 300,000 ราย และคาดว่าจะมีประชาชนสนใจโครงการนี้รวม 450,000 ราย โดยบริษัทรถยนต์คาดว่าจะส่งมอบให้ผู้สั่งจองไม่ทันกำหนด เพราะผลกระทบจากปัญหาอุทกภัยเมื่อปีที่แล้ว
ทั้งนี้ กระทรวงการคลังได้เสนอความเห็นว่า ไม่ควรขยายเวลาที่หมดอายุโครงการจากวันที่ 31 ธ.ค.2555 แต่หากบริษัทรถยนต์ส่งมอบรถยนต์ไม่ทันในวันสิ้นสุดโครงการนี้ ก็ควรจะอนุมัติให้ผู้ขอใช้สิทธิในโครงการนี้ขยายเวลาการรับส่งและส่งมอบเอกสารให้ทางราชการออกไปก่อน
โดยประชาชนต้องยื่นเอกสารคำขอการใช้สิทธิในวันที่ 31 ธ.ค.2555 แม้จะจดทะเบียนต่อกรมการขนส่งทางบกไม่ทัน แต่ให้สิทธิมายื่นเอกสารต่อกรมสรรพสามิตใน 90 วัน คือต้องเป็นผู้ที่มีรายชื่อในใบจองและแสดงหนังสือสละสิทธิโอนใบจอง รวมทั้งสัญญาเช้าซื้อและสัญญาจดทะเบียน โดยจะได้รับเงินคืนในหนึ่งปี
***ให้อีโคคาร์เป็นแท็กซี่ได้
นายชินวัฒน์ หาบุญพาด ที่ปรึกษา รมว.คมนาคม กล่าวว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างแก้ไขกฎกระทรวงคมนาคม เพื่อให้รถยนต์ขนาดเครื่องยนต์ 1,300 ซีซี หรือรถยนต์อีโคคาร์ สามารถนำมาจดทะเบียนแท็กซี่ได้ เพื่อเปิดให้คนขับรถแท็กซี่มีโอกาสเป็นเจ้าของรถได้ จากเดิมที่กฎกระทรวงคมนาคมกำหนดให้จะต้องมีเครื่องยนต์ขนาด1,500 ซีซีขึ้นไปสามารถขึ้นทะเบียนรถแท็กซี่โดยสารได้ ซึ่งรถที่เครื่องยนต์ใหญ่นั้นจะมีราคาสูง ขณะที่กำหนดเครื่องยนต์เล็กลงจะทำให้ต้นทุนค่าเชื้อเพลิงของแท็กซี่โดยสารนั้นประหยัดขึ้นด้วย
