ศูนย์ข่าวนครราชสีมา- ตำรวจภาค 3 รวบสาวจอมโจรปลอมเอกสารรถยนต์รายใหญ่ พร้อมของกลางอื้อ สารภาพทำมานานกว่า 3 ปี ปลอมเอกสารรถยนต์ไปแล้วกว่า 500 คันทั่วประเทศ เผยโกยรายได้เดือนละ 2 แสน จากการรับ ปลอมสมุดคู่มือจดทะเบียนรถ -แผ่นป้ายทะเบียน- แผ่นป้ายภาษี
วันที่ 29 มิ.ย. ที่หน้ากองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 พล.ต.ท.ภาณุ เกิดลาภผล ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค (ผบช.ภ.3) พร้อมด้วย พล.ต.ต.ประยนต์ ลาเสือ ผบก.สส.ภ.3 ร่วมกันแถลงข่าว ผลการจับกุมผู้ต้องหาปลอมแปลงเอกสารรถยนต์ ได้ผู้ต้องหา 1 ราย คือ น.ส. ทยาภร สุภัทธนโชติ หรือ น.ส.พันธ์ โพธิ์งาม อายุ 34 ปี เป็นชาวกรุงเทพฯ พร้อมของกลางหลายรายการ ประกอบด้วย ป้ายทะเบียนรถยนต์ปลอม 6 แผ่น , ทะเบียนรถจริง 122 แผ่น , สมุดคู่มือจดทะเบียนรถ 2 เล่ม , แผ่นสมุดคู่มือจดทะเบียนรถ 56 แผ่น , ป้ายแสดงการเสียภาษีปลอม 26 ชุด , บัญชีธนาคาร 2 เล่ม , สำเนาคู่มือจดทะเบียนรถปลอม 12 ชุด และ อุปกรณ์ประกอบการทำเอกสารปลอมอีกหลายรายการ
ทั้งนี้สืบเนื่องจาก เจ้าหน้าที่ตำรวจพบมีรถคุณภาพดีแต่ราคาถูกผิดปกติ นำมาขายต่อให้ประชาชน จึงสืบสวนจนทราบว่า รถที่ซื้อราคาถูกดังกล่าวเป็นรถที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมาย และ ติตตามจับกุมผู้ต้องหาได้ก่อน 3 คน คือ นายสมนึก จันทร์เรือง อายุ 34 ปี ได้พร้อมรถเก๋งฮอนด้า ซีวิค สีดำ 1 คัน , นายเลาะ สุวิชา อายุ 32 ปี จับกุมได้พร้อมรถกระบะ โตโยต้า วีโก้ สีเทา 2 คัน และ นายภาณภวัฒน์ เผยหฤทัย อายุ 34 ปี จับได้พร้อมรถเก๋งฮอนด้า ซีวิค สีน้ำตาล 1 คัน ทั้งหมดเป็นรถติดป้ายทะเบียนปลอม
จากการสอบสวนทราบว่า รถที่ถูกตรวจยึดทั้ง 3 คัน เป็นรถที่ได้มาโดยไม่ถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งนำมาปลอม เอกสาร หรือคู่มือรถขึ้นมาใหม่ จากการสอบสวนผู้ต้องหาทั้ง 3 คน บอกว่า ซื้อคู่มือ และเอกสารการใช้รถปลอมมาจาก น.ส.ทยาภร ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะติดตามจับกุมได้พร้อมของกลางทั้งหมด
พล.ต.ท.ภาณุ เกิดลาภผล ผบช.ภ.3 เปิดเผยว่า น.ส.ทยาภร สุภัทธนโชติ หรือ น.ส.พันธ์ โพธิ์งาม ผู้ต้องหามีอาชีพเป็นนายหน้ารับต่อทะเบียนรถยนต์ อยู่ที่ สำนักงานขนส่งพื้นที่ 3 (แขวงบางจากเขตพระโขนง) กรมการขนส่งทางบก กรุงเทพฯ และได้รู้จักกับวิธีการปลอมแปลงจากสมุดคู่มือจดทะเบียน และแผ่นป้ายทะเบียนรถ รวมไปถึงป้ายแสดงการเสียภาษีรถ
จากนั้นได้มีผู้มาติดต่อให้ทำการปลอมเอกสารดังกล่าว โดยทำมาแล้ว 3 ปีเฉลี่ยเดือนละ 15 คัน รวมทั้งหมด เคยทำมาแล้ว 500 กว่าคันทั่วประเทศ ค่าใช้จ่ายรายละเกือบ 1 หมื่นบาท โดยมีรายได้เดือนละ เกือบ 2 แสนบาทต่อเดือน ซึ่งหากเป็นการปลอมสมุดคู่มือจดทะเบียนรถ จะคิดเล่มละ 5,000 บาท , แผ่นป้ายทะเบียนราคาแผ่นละ 2,500 บาท , แผ่นป้ายภาษี ใบละ 1,000 บาท ก่อนที่จะเป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลายและถูกจับกุมได้ในที่สุด
