xs
xsm
sm
md
lg

“ไทยเบฟ” ข่มคู่แข่ง มั่นใจชนะดีลซื้อ F&N

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ไทยเบฟข่มคู่แข่ง มั่นใจดีลซื้อหุ้นเอฟแอนด์เอ็นชนะแน่ ย้ำสายสัมพันธ์ที่แนบแน่นสองตระกูล

นายสวัสดิ์ โสภะ รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่สายการผลิตสุราและเทคนิค บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตและทำตลาดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และนอนแอลกอฮอล์ ภายใต้ตรา “ช้าง” เปิดเผยถึงกรณีที่มีผู้มาแข่งขันยื่นข้อเสนอการซื้อหุ้นของบริษัทเอฟแอนด์เอ็น ซึ่งเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์ว่า ไม่ได้มีความกังวลแต่อย่างใด แต่ท้ายที่สุดจะต้องอยู่ที่การพิจารณาของบริษัทเอฟแอนด์เอ็นเป็นหลัก

แต่บริษัทฯ ก็มีความมั่นใจว่าจะได้รับการซื้อหุ้นตามที่ตกลงดังกล่าว เพราะได้ทำสัญญาจะซื้อขายหุ้นสามัญไว้แล้ว คิดเป็นสัดส่วนหุ้นที่จะซื้อประมาณ 22% รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 2,780 ล้านเหรียญสิงคโปร์ หรือคิดเป็นเงินไทย 70,056 ล้านบาท
แต่ก็ยอมรับว่าการที่ไทยเบฟจะเข้าไปซื้อหุ้นเอฟแอนด์เอ็นในสัดส่วน 22% นั้นก็ยังไม่ได้ทำให้ไทยเบฟกลายเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ในบริษัทดังกล่าวแต่อย่างใด เพราะกลุ่มผู้ถือหุ้นรายใหญ่ในปัจจุบันเป็นของตระกูลลี แต่ก็เป็นกลุ่มที่มีความสัมพันธ์ที่ดีกับบริษัทไทยเบฟอยู่แล้ว จึงมีความมั่นใจอย่างมาก

ทั้งนี้ การเข้าซื้อหุ้นในครั้งนี้เพราะบริษัทเอฟแอนด์เอ็นทำธุรกิจหลากหลาย ซึ่งสอดคล้องกับธุรกิจของไทยเบฟที่ทำธุรกิจแอลกอฮอล์และนอนแอลกอฮอล์ด้วย จึงน่าจะเป็นส่วนที่ช่วยสร้างเสริมความแข็งแกร่งของธุรกิจให้แก่กัน อีกทั้งในปี 2558 จะมีการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือเออีซี ซึ่งบริษัทฯ มีนโยบายที่ชัดเจนอยู่แล้วว่า จะขยายการลงทุนไปต่างประเทศต่อเนื่อง โดยเฉพาะตลาดในภูมิภาคอาเซียนที่มีขนาดใหญ่มาก

รายงานข่าวระบุว่า การเข้าซื้อหุ้นของเอฟแอนด์เอ็นในครั้งนี้ จำนวน 22% จากธนาคารโอเวอร์ซี-ไชนีส แบงกิ้ง คอร์ป ซึ่งเป็นธนาคารขนาดใหญ่อันดับ 2 ของสิงคโปร์ถือครองไว้ พร้อมกับซื้อจากเกรตอีสเทิร์น โฮลดิ้งส์ และลี รับเบอร์ คอมพานี พร้อมกันนี้ เตรียมเสนอซื้อหุ้น 8.5% ในบริษัท เอเชียแปซิฟิกบริวเวอรีส์ (เอพีบี) ซึ่งเป็นผู้ผลิตเบียร์รายใหญ่ด้วย

สำหรับบริษัทเอฟแอนด์เอ็นมีกลุ่มสินค้าในเครือจำนวนมาก ทั้งอาหาร เครื่องดื่ม อสังหาริมทรัพย์ และการพิมพ์ สำหรับบริษัท เอพีบี เป็นผู้ผลิตไทเกอร์เบียร์ ขณะที่สัดส่วนการถือหุ้นในเอพีบีปัจจุบันคือ เอฟแอนด์เอ็นถือครองหุ้นสัดส่วน 40% และไฮเนเก้นถือหุ้น 42% ส่วนคู่แข่งที่ประกาศซื้อหุ้นเอพีบีในครั้งนี้คือ ไฮเนเก้น จะซื้อหุ้นเอพีบีมูลค่าถึง 4,100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และเสนอขอซื้อหุ้นเอฟแอนด์เอ็นจากผู้ถือหุ้นรายอื่นด้วย
กำลังโหลดความคิดเห็น