xs
xsm
sm
md
lg

คาดบีเอสทีฯจะกลับมาเดินเครื่องผลิตได้เร็วๆนี้

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


กนอ.แจงแผนฟื้นฟูโรงงาน บริษัท บีเอสที อิลาสโตเมอร์ส จำกัด หลังเกิดเหตุเพลิงใหม้ สั่งคุมเข้มเพิ่มระบบความปลอดภัยของกระบวนการจัดเก็บ และกำจัดสารตกค้าง ย้ำไม่เกิดปัญหาซ้ำซาก คาดกลับมาเดินเครื่องผลิตได้เร็วๆนี้

นายวีรพงศ์ ไชยเพิ่ม ผู้ว่าการ การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) เปิดเผยว่า ความคืบหน้าในแผนการเข้าไปฟื้นฟู บริษัท บีเอสที อิลาสโตเมอร์ส จำกัด (BSTE) ซึ่งอยู่ในเครือของบริษัท กรุงเทพซินธิติก จำกัด (BST) ผู้ผลิตผลิตภัณฑ์ยางสังเคราะห์เพื่อใช้ในอุตสาหกรรม ยางรถยนต์ ยางชิ้นส่วนยานยนต์ พื้นรองเท้าพลาสติกและอุปกรณ์กีฬาซึ่งเกิดเหตุเพลิงใหม้ในช่วงเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา โดยพบว่าขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างเพิ่มประสิทธิภาพด้านความปลอดภัยอย่างเข้มข้นของทุกขั้นตอนการผลิตที่ต้องมั่นใจได้ว่าจะไม่มีสารตกค้างและ การรั่วไหลของสารอันตรายที่เกิดขึ้นซ้ำซากอีก เพื่อก่อให้เกิดความมั่นใจต่อชุมชนและประชาชนในระยะยาวได้

อย่างไรก็ตามที่ผ่านมา กนอ. ได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐ และเอกชน อาทิ กรมควบคุมมลพิษ กรมทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้เข้าตรวจสอบขั้นตอนการฟื้นฟูโรงงานอย่างต่อเนื่อง โดยบริษัทมีแผนงานที่จะเข้าดำเนินการฟื้นฟูในแต่ละหน่วยผลิตอย่างชัดเจน เริ่มตั้งแต่ทำการไล่สารไฮโดรคาร์บอนที่ตกค้างในระบบไปเผาที่หอเผา (Flare) พร้อมตรวจสอบซ่อมบำรุงอุปกรณ์เครื่องจักรแล้วเสร็จในช่วง เดือนกรกฏาคม 2555 ซึ่งคาดว่าน่าจะเริ่มเดินเครื่องผลิตได้ภายในเดือนตุลาคม 2555

ในส่วนของโครงสร้างรองรับท่อภายในโรงงานบางส่วนที่ได้รับความเสียหาย ปัจจุบันได้ทำการซ่อมแซม และเสริมความปลอดภัยเรียบร้อยแล้ว ส่วนหน่วยผลิตยางสังเคราะห์ SBR ได้ทำการเคลื่อนย้ายน้ำยาง LATEX คงค้างใน REACTOR ประมาณ 400 ตันไปจัดเก็บในถังเก็บภายในโรงงานเพื่อทำการส่งกำจัดต่อไป ส่วนที่เหลือย้ายไปอยู่ในถังเก็บที่มีความปลอดภัยสูง และคาดว่าจะเริ่มเดินเครื่องผลิตได้ประมาณเดือนกุมภาพันธ์ 2556 ขณะเดียวกันในด้านการทำระบบบำบัดน้ำเสียของโรงงาน สามารถฟื้นฟูให้ใช้งานได้เป็นปกติแล้ว

“กนอ.ได้จัดทำแผนการตรวจสอบโรงงานที่เข้าข่ายต้องจัดทำรายงานการวิเคราะห์ความเสี่ยงจากอันตรายที่อาจเกิดขึ้นจากการประกอบกิจการโรงงาน ตามประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม ที่มีอยู่ประมาณ 90 แห่ง เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ขณะเดียวกันจะดำเนินอย่างเข้มงวดกับผู้ประกอบการที่ละเลยการปฏิบัติให้เป็นไปตามกฎหมาย” นายวีรพงศ์ กล่าว

ทั้งนี้ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับชุมชนในพื้นที่รอบนิคมฯมาบตาพุด กนอ.ได้ร่วมกับผู้พัฒนานิคมอุตสาหกรรม ผู้ประกอบการ ยังคงจัดรถลาดตระเวน Patrol) เพื่อตรวจสอบเฝ้าระวังสิ่งแวดล้อม และความปลอดภัยในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง และ เพิ่มความเข้มข้นในการตรวจสอบในพื้นที่นิคมฯมาบตาพุด และท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด ตลอด 24 ชั่วโมง เป็นประจำทุกวัน และมีการรายงานผลไปยังศูนย์เฝ้าระวังและควบคุมคุณภาพสิ่งแวดล้อม (EMCC) เพื่อทำการประมวลผลต่อไป
กำลังโหลดความคิดเห็น