ห้างเซ็นทรัลวางเป้าขึ้นผู้นำค้าปลีกในอาเซียน เปิดแผน 5 ปีทุ่ม 8,000 ล้านบาท ผุดสาขาทั้งไทย และต่างประเทศ
นางยุวดี จิราธิวัฒน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท สรรพสินค้าเซ็นทรัล จำกัด หรือซีดีเอส ผู้บริหารห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล ในเครือบริษัท เซ็นทรัลคอร์ปอเรชั่น จำกัด (ซีอาร์ซี) เปิดเผยว่า บริษัทฯ วางเป้าหมายที่จะผลักดันห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลให้ก้าวขึ้นเป็นผู้นำอันดับ 1 ในตลาดค้าปลีก ห้างสรรพสินค้าในภูมิภาคอาเซียนให้ได้ภายใน 10 ปีนับจากนี้ ซึ่งส่วนหนึ่งก็เพื่อรองรับการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนในปี 2558 ด้วย
“ปัจจุบันห้างสรรพสินค้าของไทยก็ค่อนข้างแข็งแกร่งอยู่แล้ว ที่ผ่านมาเราจะเห็นได้ว่ามีหลายประเทศที่พยายามขยายตัวเข้ามาในไทยแต่ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายนัก เพราะค้าปลีกในไทยเราแบรนด์ท้องถิ่นอย่างเซ็นทรัลหรือคู่แข่งก็มีความแข็งแกร่ง รวมทั้งยังมีดิสเคานต์สโตร์อีก การตลาดก็รุนแรงทั้งลดแลกแจกแถม แต่เราก็มีคู่แข่งทางอ้อมมากขึ้นเรื่อยๆ เช่น อิเกีย ห้างไทยเราเองก็ต้องขยายตัวทั้งในไทยและต่างประเทศด้วย ห้างเซ็นทรัลเองก็มีอายุมากกว่า 65 ปีแล้ว”
ทั้งนี้ ผู้ประกอบการห้างสรรพสินค้าในเอเชียมีรายใหญ่หลายรายและก็เป็นคู่แข่ง เช่น ห้างซีเค แทง (CK Tang) ของสิงคโปร์มีอายุ 80 ปี, ห้างพาร์คซัน (Parkson) มาเลเซีย มีอายุ 25 ปี ซึ่งแบรนด์หลังมีการขยายสาขาในต่างประเทศทั้งจีน, เวียดนาม และกัมพูชา เป็นต้น รวมถึงห้างรัสแทน’ส (Rustan’s) ในฟิลิปปินส์ เป็นต้น
แผนลงทุนช่วง 5 ปีนับจากนี้ บริษัทฯ เตรียมงบประมาณ 7,800-8,000 ล้านบาทเพื่อขยายสาขาใหม่ แบ่งเป็นห้างเซ็นทรัลในไทย 4-5 สาขา ลงทุนประมาณ 1,200 ล้านบาทต่อสาขา โดยปี 2556 จะเปิด 2 สาขา ที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเฟสติวัลหาดใหญ่ และที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเฟสติวัล เชียงใหม่ มีพื้นที่แต่ละสาขากว่า 2.5 หมื่น ตร.ม. และอีก 3 สาขาใหม่จะเปิดให้บริการในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัดในอนาคต
แผนการขยายตลาดต่างประเทศคาดว่าจะเปิดประมาณ 3 สาขาในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) แต่ละสาขาลงทุนประมาณ 500-600 ล้านบาท เบื้องต้นจะเข้าไปลงทุนเปิดเองในศูนย์การค้าท้องถิ่น แต่ก็เปิดกว้างหากมีผู้สนใจร่วมทุน รวมทั้งการเปิดสาขาพร้อมกับศูนย์การค้าของบริษัท เซ็นทรัลพัฒนนา จำกัด (มหาชน) หรือซีพีเอ็นด้วย โดยจะใช้พื้นที่อย่างต่ำ 20,000 ตารางเมตรขึ้นไปต่อสาขา ซึ่งภายในสิ้นปีนี้จะเปิดสาขาใหม่ที่ 4 ที่เมืองเฉินตู ประเทศจีน จากเดิมที่ปี 2553 เปิดสาขาแรกที่หังโจว และเสิ่นหยัง 2 สาขา คือเซ็นทรัล กับห้างเซน
ปีนี้จะใช้กลยุทธ์ตลาด ‘ออมนิ แชนเนล มาร์เกตติ้ง’ เพื่อเข้าถึงและมีส่วนร่วมกับกลุ่มลูกค้าในช่องทางต่างๆ ทั้งเว็บไซต์โซเชียลมีเดีย, สมาร์ทโฟน เป็นต้น และใช้งบกว่า 100 ล้านบาทฉลองครบรอบ 65 ปีในปีนี้ คาดรายได้ปีนี้ 35,000 ล้านบาท เติบโต 16.25% จากปี 2554 ขณะที่รายได้รวมเซ็นทรัลกรุ๊ปปีนี้อยู่ที่ 1.6 แสนล้านบาท
นางยุวดีกล่าวว่า ครึ่งปีหลังยังคงห่วงเรื่องปัญหาทางด้านการเมือง หากเกิดขึ้นก็จะกระทบภาวะเศรษฐกิจและอารมณ์การจับจ่ายของผู้บริโภค อยากให้ทุกคนเคารพกฎกติกา เพราะปัจจุบันค้าปลีกประเทศไทยถือว่าดีมาก ซึ่งห้างเซ็นทรัลเป็นห้างสรรพสินค้าระดับโลก (เวิลด์คลาสออฟดีพาร์ตเมนต์) ที่ติดอันดับ 1 ใน 3 เมื่อปี 53