ปลัด “คมนาคม” มั่นใจ “รถไฟความเร็วสูง” เริ่มได้ปีหน้าหลังกลับจากดูงานที่จีน เตรียมชงนายกฯ “ปู” รับทราบ ยันไม่คุย “กทม.” ต่อสัญญา “บีทีเอส” ลั่นปีใหม่ได้รถเมล์ 3 พันคันใช้แน่นอน
นายศิลปชัย จารุเกษมรัตนะ ปลัดกระทรวงคมนาคม กล่าวถึงความคืบหน้าโครงการลงทุนรถไฟความเร็วสูง (ไฮสปีดเทรน) โดยระบุว่า จากการเดินทางไปศึกษาดูงานที่สาธารณรัฐประชาชนจีนเมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมานั้น เป็นการศึกษาดูงาน และเก็บข้อมูลรายละเอียดต่างๆ ซึ่งได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากรัฐบาลจีน อีกทั้งได้เดินทางดูรถไฟความเร็วสูงเส้นทางแรกของสาธารณรัฐประชาชนจีนที่มีระยะทางกว่า 100 กิโลเมตร แต่ใช้ระยะเวลาเดินทางไม่เกิน 30 นาที
สำหรับความคืบหน้าของโครงการก่อสร้างรถไฟความเร็วสูงของประเทศไทยนั้น ในปัจจุบัน อยู่ระหว่างการศึกษาข้อมูล เช่น ปัญหาอุปสรรค เส้นทางการเวนคืนที่ดิน เป็นต้น ซึ่งโดยส่วนตัวขอยืนยันว่าโครงการรถไฟความเร็วสูงจะเกิดขึ้นภายในปีหน้าอย่างแน่นอน
ทั้งนี้ การประชุมกับหัวหน้าส่วนราชการระดับปลัดกระทรวง ครั้งที่ 5/2555 ที่มีนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมนั้น ทางกระทรวงคมนาคมจะนำรายงานข้อมูลที่ได้จากการไปศึกษาดูงานที่สาธารณรัฐประชาชนจีนเรื่องรถไฟความเร็วสูงให้นายกรัฐมนตรีรับทราบ
นอกจากนี้ ยืนยันว่าจะไม่มีการนำเรื่องที่กรุงเทพมหานคร (กทม.) ลงนามต่อสัญญาการให้บริการเดินรถและซ่อมบำรุง โครงการระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพมหานคร ระหว่างบริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) (BTS) กับบริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด ซึ่งอาจเข้าข่ายเป็นการดำเนินการโดยมิชอบนั้น หารือในที่ประชุม
ส่วนโครงการจัดซื้อรถโดยสารปรับอากาศ (รถเมล์เอ็นจีวี) ขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) จำนวน 3,153 คัน มูลค่ากว่า 13,163 ล้านบาท ซึ่งที่ประชุมคณะกรรมการกำกับนโยบายรัฐวิสาหกิจ (กนร.) มีมติเห็นชอบตามคณะอนุกรรมการพิจารณาโครงการจัดซื้อรถโดยสารปรับอากาศของ ขสมก. จะเสนอเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้ไม่เกินสิ้นเดือนนี้
ปลัดกระทรวงคมนาคมยืนยันว่า รถเมล์ใหม่ของ ขสมก.จะไม่ได้รับผลกระทบจากโครงการรถไฟฟ้าอย่างแน่นอน นอกจากนี้ ถ้ารถเมล์ใหม่สามารถนำมาวิ่งให้บริการประชาชนได้นั้น จะสามารถลดภาระต้นทุนค่าน้ำมัน ขสมก.ต่อวันได้เท่ากับรถเมล์ 1 คัน หรือ 4-5 ล้านบาท พร้อมยืนยันว่ารถเมล์ใหม่จำนวน 3,153 คันจะสามารถนำมาให้บริการประชาชนได้ก่อนช่วงปีใหม่ที่จะถึงนี้อย่างแน่นอน