“ฟิวเจอร์พาร์ครังสิต” ทุ่ม 100 ล.เร่งสร้างกำแพงป้องกัน-วางระบบจราจรเพิ่ม เร่งขยายขนาดกองทุน FUTUREPF อีก 1,500 ล้านบาท หวังนำไปลงทุนสร้างส่วนขยายอีก 12 ไร่
นางสาวพิมพ์ผกา หวั่งหลี กรรมการผู้จัดการ บริษัท รังสิต พลาซ่า จำกัด ผู้บริหารศูนย์การค้าฟิวเจอร์พาร์ค เปิดเผยว่า ปีนี้บริษัทฯ จะมุ่งระดมขยายขนาดกองทุน FUTUREPF มูลค่า 7,000 ล้านบาท อีก 1,500 ล้านบาท ขยายระยะเวลาสิทธิในการเช่าเพิ่มขึ้นเป็น 15 ปี รวมเป็น 30 ปี เพื่อเพิ่มศักยภาพของฟิวเจอร์พาร์คว่าจะยังคงมีการเติบโต และต้องการระดมทุนเพื่อลงทุนใหม่ทั้งโครงการส่วนต่อขยาย และโครงการใหม่ในอนาคต
จากเดิมช่วงวันที่ 1 ธ.ค.ปีที่ผ่านมาบริษัทฯ เตรียมที่จะก่อสร้างเพิ่มส่วนขยายต่อจากศูนย์ฯ อีก 12 ไร่ หรือราว 80,000 ตารางเมตร ลงทุนกว่า 3,000 ล้านบาท แต่เกิดเหตุการณ์น้ำท่วมพอดี โครงการดังกล่าวจึงได้ชะงักลงไป แต่ขณะนี้ได้นำโครงการดังกล่าวกลับมาทบทวนอีกครั้ง โดยอาจจะต้องปรับคอนเซ็ปต์ใหม่ให้เข้ากับสถานการณ์ปัจจุบัน ส่วนจะลงทุนปีนี้หรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับเรื่องของบริษัทฯ พร้อมใช้งบกว่า 100 ล้านบาทสำหรับป้องกันปัญหาน้ำท่วมและปรับระบบจราจรให้สะดวกยิ่งขึ้น โดยกว่า 30 ล้านบาทจะใช้สำหรับการก่อสร้างกำแพงกั้นน้ำถาวรบนพื้นที่โดยรอบให้สูงกว่าระดับน้ำท่วมจากปี 2554 อีก 30 เซนติเมตร รวมระยะทางยาวกว่า 3 กิโลเมตร นอกจากนี้ยังได้เพิ่มพื้นที่ลานจอดรถกระจายไปยังนอกอาคารอีก 800 คัน รวมพื้นที่จอดรถทั้งสิ้น 8,000 คัน ขณะที่ช่วงน้ำท่วมปีก่อนฟิวเจอร์พาร์คได้รับความเสียหายคิดเป็นมูลค่าได้กว่า 300 ล้านบาท ทั้งในแง่ของรายได้และความเสียหายต่างๆ โดยปิดให้บริการไป 1 เดือน
สำหรับผลประกอบการครึ่งปีแรกเติบโต 15% สูงกว่าเป้าหมายเล็กน้อย และเป็นการเติบโตที่มาจากกลุ่มผู้เช่ารายใหม่ โดยเฉพาะกลุ่มร้านอาหารญี่ปุ่น รวมถึงการใช้พื้นที่ส่วนกลางได้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ขณะที่กำลังซื้อยังคงเท่าเดิมและมีปริมาณลูกค้าเข้าศูนย์ฯ 1.5 แสนคนต่อวัน
ทั้งนี้ กลุ่มแผนกสินค้าเสื้อผ้ามีการเติบโตต่ำสุด แต่แผนกอาหาร เครื่องใช้ไฟฟ้า และเครื่องใช้ในครัวเรือนกลับโตขึ้น อาจเป็นเพราะลูกค้าน่าจะนำเงินไปใช้เพื่อนการซ่อมแซมบ้านเป็นหลัก ที่สำคัญอาจจะยังคงกังวลถึงปัญหาน้ำท่วมที่อาจจะกลับมาอีกครั้งก็เป็นได้
นางสาวพิมพ์ผกา หวั่งหลี กรรมการผู้จัดการ บริษัท รังสิต พลาซ่า จำกัด ผู้บริหารศูนย์การค้าฟิวเจอร์พาร์ค เปิดเผยว่า ปีนี้บริษัทฯ จะมุ่งระดมขยายขนาดกองทุน FUTUREPF มูลค่า 7,000 ล้านบาท อีก 1,500 ล้านบาท ขยายระยะเวลาสิทธิในการเช่าเพิ่มขึ้นเป็น 15 ปี รวมเป็น 30 ปี เพื่อเพิ่มศักยภาพของฟิวเจอร์พาร์คว่าจะยังคงมีการเติบโต และต้องการระดมทุนเพื่อลงทุนใหม่ทั้งโครงการส่วนต่อขยาย และโครงการใหม่ในอนาคต
จากเดิมช่วงวันที่ 1 ธ.ค.ปีที่ผ่านมาบริษัทฯ เตรียมที่จะก่อสร้างเพิ่มส่วนขยายต่อจากศูนย์ฯ อีก 12 ไร่ หรือราว 80,000 ตารางเมตร ลงทุนกว่า 3,000 ล้านบาท แต่เกิดเหตุการณ์น้ำท่วมพอดี โครงการดังกล่าวจึงได้ชะงักลงไป แต่ขณะนี้ได้นำโครงการดังกล่าวกลับมาทบทวนอีกครั้ง โดยอาจจะต้องปรับคอนเซ็ปต์ใหม่ให้เข้ากับสถานการณ์ปัจจุบัน ส่วนจะลงทุนปีนี้หรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับเรื่องของบริษัทฯ พร้อมใช้งบกว่า 100 ล้านบาทสำหรับป้องกันปัญหาน้ำท่วมและปรับระบบจราจรให้สะดวกยิ่งขึ้น โดยกว่า 30 ล้านบาทจะใช้สำหรับการก่อสร้างกำแพงกั้นน้ำถาวรบนพื้นที่โดยรอบให้สูงกว่าระดับน้ำท่วมจากปี 2554 อีก 30 เซนติเมตร รวมระยะทางยาวกว่า 3 กิโลเมตร นอกจากนี้ยังได้เพิ่มพื้นที่ลานจอดรถกระจายไปยังนอกอาคารอีก 800 คัน รวมพื้นที่จอดรถทั้งสิ้น 8,000 คัน ขณะที่ช่วงน้ำท่วมปีก่อนฟิวเจอร์พาร์คได้รับความเสียหายคิดเป็นมูลค่าได้กว่า 300 ล้านบาท ทั้งในแง่ของรายได้และความเสียหายต่างๆ โดยปิดให้บริการไป 1 เดือน
สำหรับผลประกอบการครึ่งปีแรกเติบโต 15% สูงกว่าเป้าหมายเล็กน้อย และเป็นการเติบโตที่มาจากกลุ่มผู้เช่ารายใหม่ โดยเฉพาะกลุ่มร้านอาหารญี่ปุ่น รวมถึงการใช้พื้นที่ส่วนกลางได้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ขณะที่กำลังซื้อยังคงเท่าเดิมและมีปริมาณลูกค้าเข้าศูนย์ฯ 1.5 แสนคนต่อวัน
ทั้งนี้ กลุ่มแผนกสินค้าเสื้อผ้ามีการเติบโตต่ำสุด แต่แผนกอาหาร เครื่องใช้ไฟฟ้า และเครื่องใช้ในครัวเรือนกลับโตขึ้น อาจเป็นเพราะลูกค้าน่าจะนำเงินไปใช้เพื่อนการซ่อมแซมบ้านเป็นหลัก ที่สำคัญอาจจะยังคงกังวลถึงปัญหาน้ำท่วมที่อาจจะกลับมาอีกครั้งก็เป็นได้
