เป๊ปซี่-โคล่าเทรดดิ้งไม่กลัวน้ำยื่นลงทุนที่สวนอุตฯโรจนะ

คณะอนุกรรมการพิจารณาโครงการเพื่อฟื้นฟูการลงทุนจากวิกฤตอุทกภัย อนุมัติให้ 11โครงการเดินหน้าฟื้นฟูการลงทุน รวมมูลค่าเงินลงทุน 5,227 ล้านบาท พบเป๊ปซี่-โคล่า(ไทย)เทรดดิ้งไม่กลัวน้ำขอลงทุนกิจการผลิตขนมขบเคี้ยว มูลค่า 2,387 ล้านบาทที่สวนอุตฯโรจนะ จ.อยุธยา

ม.ร.ว. พงษ์สวัสดิ์ สวัสดิวัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยภายหลัง เป็นประธานการประชุมคณะอนุกรรมการพิจารณาโครงการตามมาตรการส่งเสริมการลงทุน เพื่อฟื้นฟูการลงทุนจากวิกฤตอุทกภัย เมื่อวันที่ 22 มิ.ย.ว่า ที่ประชุมได้อนุมัติให้การส่งเสริมการลงทุนแก่ 11 โครงการ มูลค่าเงินลงทุนรวม 5,227.6 ล้านบาท โดยเฉพาะกิจการผลิตขนมขบเคี้ยว ของบริษัท เป๊ปซี่-โคล่า (ไทย) เทรดดิ้ง จำกัด มูลค่าเงินลงทุน 2,387 ล้านบาท ซึ่งถือเป็นกิจการใหม่ที่ย้ายเข้ามายังสวนอุตสาหกรรมโรจนะ จ.พระนครศรีอยุธยา

“ กิจการดังกล่าวย้ายเข้ามายังพื้นที่น้ำท่วมจากเดิมที่อยู่จ.ลำพูนแต่พื้นที่เต็มแล้วซึ่งถือว่านักลงทุนยังเชื่อมั่นต่อแผนการบริหารจัดการน้ำของภาครัฐ”รมว.อุตสาหกรรมกล่าว

สำหรับกิจการที่เหลืออีก 10 รายเช่น กิจการผลิตขนมขบเคี้ยว ของบ.ไทยกูลิโกะ จำกัด มูลค่าเงินลงทุน 250 ล้านบาท ซึ่งเป็นการขยายกิจการในพื้นที่เดิมที่สวนอุตสาหกรรมบางกะดี จ.ปทุมธานี ,ผลิตเครื่องจักร สำหรับใช้ในอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ ของบ. นิเด็ค แมทชีนเนอรี่ (ประเทศไทย) จำกัด มูลค่า 3.8 ล้านบาท ย้ายกิจการจากสวนอุตสาหกรรมโรจนะ ไปตั้งใน จังหวัดปทุมธานี
กิจการเคลือบผิวชิ้นงานโลหะ สำหรับใช้ในอุตสาหกรรมชิ้นส่วนยานยนต์ ของบ. บี เอส คามิยะ จำกัด มูลค่า 60 ล้านบาท ตั้งกิจการในที่ตั้งเดิม คือ นิคมอุตสาหกรรมสหรัตนนคร จ.อยุธยา การผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ สำหรับใช้ผลิต ฮาร์ด ดิสก์ ไดรฟ์ ของบ.ชินเอ พรีซิชั่น (ประเทศไทย) จำกัด มูลค่า 327 ล้านบาท โดยตั้งกิจการในที่ตั้งเดิมที่ สวนอุตสาหกรรมโรจนะ เป็นต้น

นางอรรชกา สีบุญเรือง เลขาธิการบีโอไอ กล่าวว่า ขณะนี้มีกิจการที่ถูกน้ำท่วมแล้วขอขยายการลงทุน 57 รายมูลค่า 28,000 ล้านบาทและบีโอไอนุมัติแล้วรวมครั้งนี้ 15 กิจการยังเหลือค้างการพิจารณา 21,000 ล้านบาท และยังมีโครงการลงทุนใหม่อีก 15 กิจการมูลค่า 64,000 ล้านบาท และล่าสุดอนุมัติไปแล้ว 2 กิจการมูลค่า 2,637 ล้านบาทโดยเชื่อว่าเอกชนจะมีการขอยื่นรับส่งเสริมฯอีก