xs
xsm
sm
md
lg

“โต้ง” จัดหนักแพกเกจชุดใหญ่ อุ้ม 6 นิคมอุตฯ จมน้ำ ลั่นคราวนี้ไม่มีพลาด “เอาอยู่” แน่นอน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

กิตติรัตน์ ณ ระนอง (แฟ้มภาพ)
“กิตติรัตน์” กล่อมผู้ประกอบการ 6 นิคมอุตฯ จมน้ำ จัดหนัก 3.5 แสนล้าน ซับน้ำตาเหยื่อน้ำท่วม คาดอีก 1-2 สัปดาห์เริ่มเบิกจ่ายงบสร้างเขื่อนรอบนิคมฯ เล็งชง ครม. ขยายเวลาปล่อยกู้ จาก 7 ปี เป็น 15 ปี โดย 5 ปีแรก ปลอด ดบ. พร้อมสั่ง “สรรพากร” ผ่อนปรนนำค่าชดเชยสินไหมจากน้ำท่วม คำนวณลดหย่อนภาษี มั่นใจ รง.ทั้งระบบกลับมาผลิตได้เต็ม 100% ปลายปีนี้ ลั่นคราวนี้ไม่มีพลาด “เอาอยู่” แน่นอน

นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวในงานสัมมนา “ก้าวใหม่การลงทุนหลังวิกฤตอุทกภัย” โดยระบุว่า หลังจากผู้ประกอบการในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา และปทุมธานีประสบปัญหาอุทกภัย รัฐบาลได้เร่งเยียวยาใช้งบ 350,000 ล้านบาท เพื่อป้องกันเขตเศรษฐกิจที่สำคัญ และที่ผ่านมา การได้รับค่าชดเชย ซึ่งถือเป็นรายได้พึงประเมินการเสียภาษี พร้อมเจรจากับกรมสรรพากร เพื่อลดหย่อนภาระดังกล่าว

สำหรับการสร้างเขื่อนรอบ 6 นิคมอุตสาหกรรมที่ถูกน้ำท่วมนั้น คณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้เห็นชอบงบประมาณให้แก่ 6 นิคมอุตฯ ดังกล่าวเรียบร้อยแล้ว คาดว่า 1-2 สัปดาห์จะเริ่มจ่ายเงินสร้างเขื่อนให้แก่ผู้ประกอบการนิคมอุตฯ ทั้ง 6 แห่งได้

ส่วนเงินก่อสร้างสัดส่วน 1 ใน 3 นั้น ภาคเอกชนจะต้องกู้จากธนาคารออมสิน โดยวงเงินเตรียมเอาไว้ 15,000 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 0.01 รัฐบาลพร้อมขยายระยะเวลาปล่อยกู้ออกจาก 7 ปี เป็น 15 ปี ปลอดชำระเงินต้นในช่วง 5 ปีแรก คาดว่าจะเสนอ ครม.ได้ในเร็วๆ นี้ ซึ่งจะทำให้การสร้างเขื่อนรอบนิคมฯ เสร็จประมาณเดือนสิงหาคม 2555 นี้

“ยืนยันว่า ปริมาณฝนที่ตกมากขึ้นแถบภาคเหนือ ภาคกลาง เมื่อปรับการบริหารจัดการและเดินหน้าโครงสรางพื้นฐานต่างๆ จะสามารถรับมือกับปัญหาน้ำท่วมในปีนี้ได้อย่างแน่นอน เพราะขณะนี้ ภาคอุตสาหกรรมในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา และปทุมธานี ในไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้าจะกลับมาผลิตเต็มกำลังการผลิตได้”

ด้านนางอรรชกา สีบุญเรือง เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) กล่าวว่า ในช่วง 5 เดือนที่ผ่านมา มีการขอรับส่งเสริมการลงทุนใน 2 จังหวัด 817 โครงการ เป็นเงิน 370,000 ล้านบาท และมีบริษัทที่ได้รับความเสียหายจากอุทกภัยได้รับการอนุมัติ เพื่อนำเครื่องจักรมาทดแทนเครื่องที่เสียหาย 426 โครงการ มูลค่า 97,176 ล้านบาท และยังมีโครงการลงทุนใหม่ในพื้นที่ประสบอุทกภัย ลงทุนถึง 78 โครงการ มูลค่าการลงทุน 41,489 ล้านบาท สะท้อนให้เห็นการฟื้นตัวของภาคอุตสาหกรรมอย่างชัดเจน

สำหรับการเดินทางมาในวันนี้ ก็เพื่อทำความเข้าใจกับนักลงทุนที่ยังลังเลไม่ตัดสินใจลงทุนเพิ่ม ทั้งการประกันภัยพิบัติ และแนวทางก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานเพื่อการลงทุน หากมีความชัดเจนจะทำให้ตัดสินใจลงทุนเพิ่มมากขึ้น
กำลังโหลดความคิดเห็น